สรุป 3 แง่มุมสำคัญสู่ความสำเร็จในการนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลแก่ลูกค้าในปี 2564

โดย มาร์ค วีเซอร์ รองประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของเอาท์ซิสเต็มส์ มาตรการล็อคดาวน์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อให้เกิดผลกระทบต่อพฤติกรรมของลูกค้าอย่างมาก ข้อมูลจากแมคคินซี่ (McKinsey) ระบุว่าสัดส่วนการโต้ตอบกับลูกค้าแบบดิจิทัลเกิดขึ้นเร็วกว่าสถานการณ์ปกติถึงสามปีเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีการเกิดระบาดครั้งใหญ่ ในความเป็นจริงแล้ว McKinsey พบว่าผู้บริหารระดับสูงได้มีการพูดคุยด้วยและแสดงความคิดเห็นว่า อย่างน้อย 80% ของการโต้ตอบกับลูกค้าอยู่ในแบบดิจิทัล ดังนั้นการนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้าจึงกลายเป็นตัวชี้ชะตาสำหรับธุรกิจต่าง ๆ  อย่างไรก็ตาม การสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า (Customer Experience – CX) กับการสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้งาน (User Experience – UX) ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน นั่นหมายความว่าในการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า คุณจะต้องคำนึงถึงเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือไปจากรูปร่างหน้าตาและความรู้สึกที่มีต่อแอปพลิเคชันที่ลูกค้าใช้งาน โดยคุณจะต้องพิจารณาถึงกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ อย่างครบวงจร การสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า หรือ CX ที่ดีไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่เปรียบเสมือนการเดินทางที่คุณจะต้องนำเสนอบริการให้แก่ลูกค้าครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้ ในโลกยุคใหม่หลังการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง การสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้าในรูปแบบดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จควรมีรูปแบบอย่างไร? และคุณควรลงทุนในส่วนใดบ้างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) รวดเร็วที่สุด? การลงทุนที่สำคัญในประสบการณ์ลูกค้าทั้ง 3 ด้านสำหรับปี 2564 นี่คือ 3 แง่มุมสำคัญในการนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีให้แก่ลูกค้าในปี 2564 รวมถึงตัวอย่างความสำเร็จของบริษัทที่สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม […]

OutSystems Unveils Next Generation Platform, Delivering Elite Cloud-Native Development Capabilities to Any Organization

New platform combines dynamic scaling cloud architecture and modern CI/CD practices with the low-code environment pro developers love. OutSystems, a global leader in modern application development, today unveiled a next generation application platform that enables development teams to build state-of-the-art cloud applications. Today, more than 14 million people use apps created on the OutSystems platform. […]

เอาท์ซิสเต็มส์เผยโฉมแพลตฟอร์มยุคถัดไป ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาแบบคลาวด์เนทีฟที่เหนือชั้นสำหรับทุกองค์กร

แพลตฟอร์มใหม่ผสานรวมสถาปัตยกรรมคลาวด์ที่รองรับความยืดหยุ่นในการปรับขนาดและแนวทาง CI/CD ที่ทันสมัย เข้ากับสภาพแวดล้อม Low-code ตอบโจทย์ความต้องการของนักพัฒนาระดับมือโปร เอาท์ซิสเต็มส์ (OutSystems) ผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาโมเดิร์นแอปพลิเคชัน เปิดตัวแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันยุคถัดไป ซึ่งจะช่วยให้ทีมงานฝ่ายพัฒนาสามารถสร้างคลาวด์แอปพลิเคชันที่ก้าวล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกวันนี้ผู้ใช้กว่า 14 ล้านคนใช้แอปที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของเอาท์ซิสเต็มส์ ขณะที่ลูกค้าไว้วางใจเลือกใช้แพลตฟอร์มของเอาท์ซิสเต็มส์ในการสร้างทุกสิ่ง ตั้งแต่โมบายล์แอปและเว็บไซต์สำหรับผู้บริโภค ไปจนถึงแอปสำหรับเวิร์กกรุ๊ปและส่วนต่อขยายของระบบหลักอื่น ๆ เช่น ระบบของ Microsoft, SAP และ Salesforce แพลตฟอร์มใหม่นี้ ซึ่งมีโค้ดเนมว่า Project Neo จะยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาและรองรับการปรับขนาดของแอปพลิเคชันอย่างยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยเสริมขีดความสามารถด้านการแข่งขันขององค์กรในโลกยุคใหม่ที่มีการใช้บริการคลาวด์เป็นหลัก เอาท์ซิสเต็มส์ได้ออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนเสร็จสมบูรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายสำคัญที่องค์กรธุรกิจต้องเผชิญในปัจจุบัน โดยองค์กรเหล่านี้ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงธุรกิจให้ทันสมัย โดยแพลตฟอร์ม Project Neo ได้ผสานรวมคุณประโยชน์ด้านประสิทธิภาพของการพัฒนาแบบ Visual, การพัฒนาแบบ Model-Based เข้ากับสถาปัตยกรรมคลาวด์ที่ใช้คอนเทนเนอร์และ Kubernetes-based ซึ่งโฮสต์อยู่บน Amazon Web Services (AWS) ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ จึงสามารถสร้างคลาวด์แอประดับโลกที่สามารถกำหนดได้เองและรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา นายเปาโล โรซาโด ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเอาท์ซิสเต็มส์ […]

ผู้บริหารไอทีจะเป็นผู้นำส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลระดับโลกแก่ผู้บริโภคได้อย่างไร

โดย มาร์ค วีเซอร์ รองประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของเอาท์ซิสเต็มส์ เมื่อปริมาณการทำธุรกรรมออนไลน์ของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับความคาดหวังในการได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การสร้างประสบการณ์ด้วยดิจิทัลแก่ลูกค้ามีความสำคัญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถือเป็นหน้าที่สำคัญของผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIO) ในการเข้ามาจัดการในส่วนนี้ ทว่าการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยมคืออะไร? และผู้บริหารไอทีจะสามารถนำเสนอได้อย่างไร? ข้อมูลจากการ์ทเนอร์ (Gartner) ระบุว่า บริษัทกว่าสองในสามเน้นการแข่งขันกันนำเสนอประสบการณ์ลูกค้าในระดับพื้นฐานซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้หากมีบริษัทใดที่สามารถเพิ่มประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้าในสินค้าหรือบริการขึ้นเพียงเล็กน้อย เช่น การคลิกหน้าจอเพียงไม่กี่ครั้ง ลูกค้าก็จะหันไปเลือกซื้อสินค้าหรือบริการของคู่แข่งนั้น ๆ อย่างง่ายดาย แม้ว่าผู้บริหารไอทีส่วนใหญ่จะตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563 ได้เพิ่มแรงกดดันในการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีด้วยดิจิทัลให้แก่ลูกค้าตามเป้าหมายของบริษัท ผลสำรวจความคิดเห็น Harvey Nash – KPMG CIO Survey ประจำปี 2563 ชี้ว่า สำหรับองค์กรต่าง ๆ การสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับองค์กรถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับต้น ๆ เทียบเท่าการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 แต่สถานการณ์โควิด-19 ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวัตถุประสงค์ของการสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับองค์กร กล่าวคือ บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องพัฒนาช่องทางทางการตลาดใหม่และสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลที่หลากหลายและดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้บริหารไอทีจำเป็นต้องเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีให้แก่ลูกค้า […]