ไฮเซ่นส์ (Hisense) ประกาศผลประกอบการประจำปี 2564 โดยมีรายได้รวมแตะ 2.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 33% เทียบรายปี ทำสถิติใหม่ในแง่ของรายได้รวม ขณะที่รายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 43% เทียบรายปี โดยมีรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 42% ซึ่งแสดงให้เห็นความเป็นผู้นำของไฮเซ่นส์ในตลาดโลก ทั้งยังสะท้อนถึงผลงานอันยอดเยี่ยมที่ไฮเซ่นส์ได้สร้างไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาในการพัฒนาธุรกิจในต่างประเทศ
Jia Shaoqian ประธานกลุ่มบริษัทไฮเซ่นส์ กรุ๊ป กล่าวว่า “เราปิดฉากปี 2564 ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีรายได้เติบโตขึ้นมาก ขณะที่คุณภาพและชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ก็ดีขึ้นมากเช่นกัน ไฮเซ่นส์ให้ความสำคัญกับขีดความสามารถทางเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ผู้บริโภคอย่างเหนือชั้น พร้อมใช้กลยุทธ์การตลาดที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีทั้งในแง่ธุรกิจและผลประกอบการ”
ยอดขายทีวีของไฮเซ่นส์ทะยานพรวด โดยยอดขายเลเซอร์ทีวีพุ่งกว่า 279%
ทีวีเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะเทรนด์ “อยู่บ้าน” ทำให้ยอดขายชุดโฮมซินิมาความละเอียดสูงปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังได้รับอิทธิพลจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ไฮเซ่นส์ได้ตอบรับความต้องการที่ว่านี้อย่างรวดเร็วด้วยขีดความสามารถด้าน SCM อันแข็งแกร่งในระดับโลก โดยได้เพิ่มการผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น ULED TV และ Laser TV เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับชมอันเป็นที่สุด และทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินได้ท่ามกลางการแพร่ระบาด ด้วยเหตุนี้ ยอดขายทีวีของไฮเซ่นส์ในปี 2564 จึงทะยานขึ้นมากทั่วโลก โดยยอดขายทีวีในสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่า 32.8% ยอดขายในเม็กซิโกเพิ่มขึ้นกว่า 36.4% ส่วนยอดขายเลเซอร์ทีวีของไฮเซ่นส์ก็เพิ่มขึ้นถึง 279% เทียบรายปี
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจจอเพื่อการพาณิชย์ในปี 2564 ของไฮเซ่นส์ก็เติบโตขึ้นมากเช่นกัน โดยไฮเซ่นส์ได้เปิดตัวบริการ Hisense Smart City และ Urban Traffic Management อย่างเป็นทางการในเอธิโอเปีย แอฟริกา ทั้งยังมีการนำจออัลตราซาวด์ จอแสดงผลทางการแพทย์ และจอเพื่อการพาณิชย์ในลักษณะอื่น ๆ ไปใช้ทั่วโลกด้วย โดยธุรกิจจอเพื่อการพาณิชย์ของไฮเซ่นส์มียอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 323% เทียบรายปี
กลยุทธ์การตลาดแบบหลายมิติช่วยเสริมอิทธิพลของแบรนด์ โดยการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้นถึง 11%
นอกเหนือจากยอดขายที่เติบโตอย่างมั่นคงแล้ว ไฮเซ่นส์ยังให้ความสำคัญกับการสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์และการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยอาศัยกลยุทธ์การตลาดหลากหลายรูปแบบ
ยกตัวอย่างเช่น ไฮเซ่นส์ได้เปิดตัวแคมเปญการตลาดหลายพันแคมเปญทั่วโลกในช่วงที่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป EURO2020 กำลังเข้มข้น ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจากอิปซอสส์ (IPSOS) บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก ระบุว่า แคมเปญการตลาดและกลยุทธ์การตลาดที่สอดรับกับท้องถิ่น ช่วยให้การรับรู้แบรนด์ไฮเซ่นส์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 11% ในปี 2564 ขณะที่รายได้จากการขายทะยานขึ้น 64.7% ในสหราชอาณาจักร และพุ่งขึ้นกว่า 90% ในฝรั่งเศสและเยอรมนี โดยไฮเซ่นส์เชื่อว่าการยึดมั่นในกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั่วโลกและการตลาดผ่านกีฬาจะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ สร้างเสริมอิทธิพลของแบรนด์ และผลักดันยอดขายให้เติบโต
ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ไฮเซ่นส์จะรับบทผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World Cup Qatar 2022(TM) โดยไฮเซ่นส์เชื่อมั่นและคาดหวังว่า กลยุทธ์การตลาดระดับโลกมากมายที่ชาญฉลาดและโดนใจผู้บริโภค จะช่วยเสริมสร้างอิทธิพลของแบรนด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ และผลักดันยอดขายให้เติบโตในปี 2565
ในปี 2564 ไฮเซ่นส์ดำเนินงานและจัดจำหน่ายสินค้าอย่างมั่นคงในกว่า 160 ประเทศ และในอนาคต ไฮเซ่นส์จะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีทั้งในส่วนของ B2B และ B2C ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการมาตรฐานสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกในทุกแง่มุม และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันทรงคุณค่าที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดทั่วโลก
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1731105/image_1.jpg
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1731106/image_2.jpg
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1731107/image_3.jpg