องค์กรที่สร้าง AI ที่น่าเชื่อถือมีโอกาสสูงกว่า 60% ที่จะเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของโครงการ AI เป็นสองเท่า สะท้อนต้นทุนมหาศาลของการละเลยแนวปฏิบัติที่รับผิดชอบ
แครี นอร์ทแคโรไลนา, 17 ตุลาคม 2568 /PRNewswire/ — SAS ผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลและ AI เปิดเผยงานวิจัยใหม่ที่สำรวจการใช้งาน ผลกระทบ และความน่าเชื่อถือของ AI รายงาน IDC Data and AI Impact Report: The Trust Imperative (ผลกระทบข้อมูลและ AI: ภารกิจแห่งความเชื่อมั่น) ซึ่งจัดทำโดย SAS พบว่าผู้นำด้านไอทีและธุรกิจรายงานว่ามีความเชื่อมั่นใน generative AI (GenAI) มากกว่า AI รูปแบบอื่น ๆ
งานวิจัยระดับโลกที่สำรวจการใช้และการนำ AI มาใช้นี้ยังพบว่า มีเพียง 40% ขององค์กรที่มีการลงทุนทำให้ระบบ AI มีความน่าเชื่อถือผ่านการกำกับดูแล ความสามารถในการอธิบาย และมาตรการคุ้มครองด้านจริยธรรม ทั้งที่องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ AI ที่น่าเชื่อถือมีแนวโน้มสูงกว่าถึง 60% ที่จะเพิ่ม ROI ของโครงการ AI เป็นสองเท่า ในทางกลับกัน ในกลุ่มที่รายงานว่าลงทุนในระบบ AI ที่น่าเชื่อถือน้อยที่สุด กลับมองว่า GenAI (เช่น ChatGPT) น่าเชื่อถือกว่าระบบ AI แบบดั้งเดิม (เช่น machine learning) ถึง 200% ทั้งที่ระบบแบบหลังนี้เป็นรูปแบบที่มีความมั่นคงและสามารถอธิบายได้มากที่สุด
“งานวิจัยของเราชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งว่า รูปแบบ AI ที่มีปฏิสัมพันธ์คล้ายมนุษย์และให้ความรู้สึกคุ้นเคยทางสังคมดูเหมือนจะกระตุ้นความเชื่อมั่นได้มากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงความแม่นยำหรือความน่าเชื่อถือจริง” คุณ Kathy Lange ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยด้าน AI และระบบอัตโนมัติของ IDC กล่าว “ในฐานะผู้ให้บริการ AI มืออาชีพ และผู้ใช้งานส่วนบุคคล เราต้องถามว่า GenAI น่าเชื่อถือเสมอไปหรือไม่ และผู้นำได้ใช้มาตรการป้องกันและการกำกับดูแล AI ที่จำเป็นกับเทคโนโลยีนี้แล้วหรือยัง”
ติดตามเพิ่มเติมได้ในงาน LinkedIn Live วันนี้ ซึ่งดำเนินรายการโดย Nicholas Thompson ซีอีโอของ The Atlantic และมีผู้เข้าร่วมจาก SAS, Deloitte และวิทยากรรับเชิญจาก IDC
เข้าถึงรายงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่นี่: http://sas.com/ai-impact
งานวิจัยนี้มาจากการสำรวจระดับโลกที่มีผู้ตอบจำนวน 2,375 คนในทวีปอเมริกาเหนือ ลาตินอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก โดยมีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและผู้นำสายงานธุรกิจ ให้มุมมองจากการใช้งานในทั้งสองด้าน
เทคโนโลยี AI ใหม่สร้างความเชื่อมั่นมากที่สุด
โดยรวมแล้ว การศึกษาพบว่า AI ที่ได้รับความเชื่อมั่นมากที่สุดคือเทคโนโลยีใหม่ เช่น GenAI และ AI เอเจนต์ผู้ช่วยอัจฉริยะ (agentic AI) มากกว่า AI แบบดั้งเดิม เกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (48%) ระบุว่ามี “ความเชื่อมั่นเต็มที่” ใน GenAI ขณะที่หนึ่งในสาม (33%) ระบุเช่นเดียวกันกับ agentic AI ส่วน AI แบบดั้งเดิมเป็นรูปแบบที่ได้รับความเชื่อมั่นน้อยที่สุด โดยมีน้อยกว่าหนึ่งในห้า (18%) ที่ระบุว่ามีความเชื่อมั่นเต็มที่
แม้รายงานว่ามีความเชื่อมั่นสูงใน GenAI และ Agentic AI ผู้ตอบแบบสอบถามยังแสดงความกังวล เช่น ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (62%) ความโปร่งใสและความสามารถในการอธิบาย (57%) และการใช้อย่างมีจริยธรรม (56%)
ขณะเดียวกัน quantum AI กำลังได้รับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้เทคโนโลยีจะยังไม่สมบูรณ์สำหรับการใช้งานจริงในหลายกรณี เกือบหนึ่งในสามของผู้ตัดสินใจทั่วโลกระบุว่าคุ้นเคยกับ quantum AI และ 26% รายงานว่ามีความเชื่อมั่นเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ทั้งที่การใช้งานจริงยังอยู่ในระยะเริ่มต้น
มาตรการป้องกัน AI ที่ล่าช้าทำให้ผลกระทบและผลตอบแทนจากการลงทุนของ AI อ่อนแรงลงการศึกษาพบว่าการใช้งาน AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ GenAI ที่ก้าวแซง AI แบบดั้งเดิมทั้งด้านการมองเห็นและการใช้งาน (81% เทียบกับ 66%) ซึ่งได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงและข้อกังวลด้านจริยธรรมในระดับใหม่
ในทุกภูมิภาค นักวิจัยของ IDC พบความไม่สอดคล้องระหว่างระดับความเชื่อมั่นที่องค์กรมีต่อ AI กับความน่าเชื่อถือจริงของเทคโนโลยีนี้ จากการศึกษา พบว่าแม้เกือบ 8 ใน 10 องค์กร (78%) อ้างว่ามีความเชื่อมั่นใน AI อย่างเต็มที่ แต่มีเพียง 40% ที่ลงทุนทำให้ระบบมีความน่าเชื่อถืออย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการกำกับดูแล AI ความสามารถในการอธิบาย และมาตรการคุ้มครองด้านจริยธรรม
งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าการให้ความสำคัญกับมาตรการสร้าง AI ที่น่าเชื่อถือยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนปฏิบัติจริงของโครงการ AI ในแง่นี้ ในการเลือกสามลำดับความสำคัญขององค์กร มีเพียง 2% ที่เลือกพัฒนากรอบการทำงานด้านการกำกับดูแล AI และน้อยกว่า 10% ที่รายงานว่ากำลังพัฒนานโยบาย AI ที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม การลดความสำคัญของมาตรการเหล่านี้อาจทำให้องค์กรไม่สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์เต็มที่จากการลงทุน AI ในอนาคตได้
นักวิจัยแบ่งผู้ตอบแบบสอบถามเป็นผู้นำด้าน AI ที่น่าเชื่อถือกับผู้ตาม ผู้นำคือกลุ่มที่ลงทุนมากที่สุดในแนวปฏิบัติ เทคโนโลยี และกรอบการทำงานด้านการกำกับดูแลเพื่อทำให้ระบบ AI ของตนเชื่อถือได้ และดูเหมือนว่ากำลังได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า ผู้นำกลุ่มนี้มีแนวโน้มรายงาน ROI ของโครงการ AI ในระดับสองเท่าหรือมากกว่านั้นสูงกว่า 1.6 เท่า
การขาดรากฐานข้อมูลและการกำกับดูแลที่แข็งแรงทำให้ AI ชะงัก
เมื่อระบบ AI มีความเป็นอัตโนมัติมากขึ้นและผสานเข้ากับกระบวนการสำคัญอย่างลึกซึ้ง รากฐานข้อมูลก็ยิ่งสำคัญ คุณภาพ ความหลากหลาย และการกำกับดูแลของข้อมูลมีผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของ AI ทำให้กลยุทธ์ข้อมูลที่ชาญฉลาดเป็นสิ่งจำเป็นทั้งในการสร้างประโยชน์ (เช่น ROI และการเพิ่มผลิตภาพ) และลดความเสี่ยง
การศึกษาพบอุปสรรคสำคัญสามประการที่ขัดขวางความสำเร็จของการนำ AI ไปใช้ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่อ่อนแอ การกำกับดูแลที่ไม่ดี และการขาดทักษะด้าน AI เกือบครึ่งหนึ่งขององค์กร (49%) ระบุว่ารากฐานข้อมูลที่ไม่รวมศูนย์หรือสภาพแวดล้อมข้อมูลบนคลาวด์ที่ไม่เหมาะสมเป็นอุปสรรคสำคัญ ตามมาด้วยการขาดกระบวนการกำกับดูแลข้อมูลที่เพียงพอ (44%) และการขาดผู้เชี่ยวชาญทักษะเฉพาะในองค์กร (41%)
ผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่าปัญหาอันดับหนึ่งในการจัดการข้อมูลที่ใช้ในโครงการ AI คือการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ยาก (58%) ข้อกังวลหลักอื่น ๆ ได้แก่ ปัญหาความเป็นส่วนตัวและการปฏิบัติตามข้อกำหนด (49%) และคุณภาพของข้อมูล (46%)
“เพื่อประโยชน์ของสังคม ธุรกิจ และพนักงาน ความเชื่อมั่นใน AI เป็นสิ่งจำเป็น” คุณ Bryan Harris ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ SAS กล่าว “เพื่อให้บรรลุสิ่งนี้ อุตสาหกรรม AI ต้องเพิ่มอัตราความสำเร็จของการนำไปใช้ มนุษย์ต้องตรวจสอบผลลัพธ์ของ AI อย่างมีวิจารณญาณ และผู้นำต้องเสริมพลังให้พนักงานด้วย AI”
เกี่ยวกับ SAS
SAS เป็นผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลและ AI องค์กรต่าง ๆ สามารถแปลงข้อมูลให้เป็นการตัดสินใจที่น่าเชื่อถือด้วยซอฟต์แวร์และโซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรมของ SAS ทั้งนี้ SAS มอบ THE POWER TO KNOW®
งาน SAS Innovate 2026 คือประสบการณ์พิเศษสำหรับผู้นำธุรกิจ ผู้ใช้งานเชิงเทคนิค และพันธมิตรของ SAS จะจัดขึ้นวันที่ 27–30 เมษายน 2026 ที่เมืองเกรปไวน์ รัฐเท็กซัส เข้าชมเว็บไซต์ SAS Innovate เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม และจองวันไว้ล่วงหน้า
SAS และชื่อผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดของ SAS Institute Inc. เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของ SAS Institute Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ เครื่องหมาย ® หมายถึงการจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ ลิขสิทธิ์ © 2025 SAS Institute Inc. สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด
ติดต่อฝ่ายบรรณาธิการ
Jennifer James |
Julia Norton |
919-531-0858 |
919-531-4661 |
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/1250367/SAS_v1_Logo.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More