 |
มิลาน, 9 ตุลาคม 2568 /PRNewswire/ — เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบบูรณาการชั้นนำระดับโลก ได้นำเสนอกลยุทธ์สองเสาหลักสำหรับการขยายธุรกิจทั่วโลก ได้แก่ การเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดผู้บริโภค (2C) ด้วยการมุ่งเน้นกลยุทธ์สมาร์ตโฟนเกมมิงสำหรับตลาดคนรุ่นใหม่ และการพัฒนาระบบนิเวศ AI เต็มรูปแบบที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ในงาน ZTE Devices User Congress ที่จัดขึ้นในหัวข้อ “Unlock Thrills, Define Style” ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยเป็นการประชุมย่อยภายใต้การประชุมใหญ่ ZTE Global Summit & User Congress
ZTE เร่งขยายธุรกิจทั่วโลก ชูกลยุทธ์สมาร์ตโฟนเกมมิงเจาะตลาดคนรุ่นใหม่
ZTE ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์หลากหลายสไตล์ที่สะท้อนถึงกลยุทธ์ของบริษัท รวมถึงสมาร์ตโฟน nubia Neo 3 series และ nubia Air ตลอดจนเปิดตัว “เพื่อนคู่ใจ” อัจฉริยะ AI Pet Mochi และโซลูชัน FWA & MBB รุ่นใหม่ โดยมุ่งมั่นสร้างแรงขับเคลื่อนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนทั่วโลก
“พันธกิจของเราคือการเป็นแบรนด์เทคโนโลยีที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้ดีที่สุด ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและสะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่” Ni Fei รองประธานอาวุโสของ ZTE และประธาน ZTE Mobile Devices กล่าว “การเติบโตอย่างยั่งยืนของ ZTE ซึ่งเห็นได้จากรายได้จากสมาร์ตโฟนที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 และ nubia Neo series ที่เติบโตอย่างโดดเด่นกว่า 300% ถือเป็นบทพิสูจน์ว่ากลยุทธ์การเน้นตลาดเกมมิงของเรากำลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก”
รุกตลาดคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ชูกลยุทธ์สมาร์ตโฟนเกมมิง
ZTE กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ตลาดผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยการชูกลยุทธ์เกมมิง โดยนำเสนอสมาร์ตโฟนเกมมิงรุ่นเรือธงอย่าง nubia Neo series พร้อมกับขยายระบบนิเวศเกมมิงผ่านความร่วมมือกับเกมดัง ทีมอีสปอร์ต และการเปิดตัวผู้ช่วย AI อัจฉริยะอย่าง Demi เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์วัฒนธรรมเกมมิงที่มีชีวิตชีวา
nubia Neo 3 series ขึ้นแท่นสมาร์ตโฟนเกมมิงพันธมิตรอย่างเป็นทางการของเกมมือถือสุดฮิต Garena Free Fire และประสบความสำเร็จในการเปิดตัวสมาร์ตโฟนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคาแรคเตอร์ยอดนิยมอย่าง Kelly, Hayato และ Moco โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟน nubia Neo 3 GT 5G Limited Edition ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอีกหนึ่งคาแรคเตอร์เด่นอย่าง Kapella ถ่ายทอดเสน่ห์ของเธอผ่านหลากหลายฟีเจอร์ที่เชื่อมกับเกมแบบจัดเต็ม มาพร้อม Demi ผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่ทำหน้าที่เป็น Intelligent Navigator คอยให้คำแนะนำในการเล่นเกมอย่างรอบด้าน พร้อมฟังก์ชัน Demi Mouthpiece สำหรับสื่อสารในเกม ด้านดีไซน์ของตัวเครื่องมาในสี White Hailstone โดดเด่นสะดุดตา
nubia Neo 3 series มอบประสบการณ์การเล่นเกมระดับมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ Dual Gaming Shoulder Triggers, AI Game Space 3.0, จอแสดงผล 120Hz, แบตเตอรี่ความจุสูงพร้อมระบบ Bypass Charging, มอเตอร์ Z-axis และระบบระบายความร้อนแบบหลายชั้น โดย nubia Neo 3 GT 5G Limited Edition จะเริ่มวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนตุลาคม 2568 ในราคาเริ่มต้นที่ 249 ดอลลาร์
แม้ว่าสมาร์ตโฟนเกมมิงจะเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั่วโลก แต่ ZTE ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ nubia Air ที่กำหนดนิยามใหม่ของสมาร์ตโฟน “Air-style” ด้วยการผสานแบตเตอรี่ความจุสูง หน้าจอใหญ่ความสว่าง 4,500 nit พร้อมมาตรฐานกันฝุ่นและกันน้ำระดับสูง (IP69K, IP69 และ IP68) และฟีเจอร์ AI ที่ใช้งานง่าย ทั้งหมดรวมอยู่ในสมาร์ตโฟนดีไซน์บางเฉียบที่ออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสมาร์ตโฟนในกลุ่มราคาเดียวกัน โดยเริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ในราคาเริ่มต้นที่ 279 ดอลลาร์
พัฒนาระบบนิเวศ AI เต็มรูปแบบที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
ZTE มุ่งมั่นพัฒนาการประมวลผล AI ภายในอุปกรณ์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดยส่ง AI Pet Mochi เข้าสู่ตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่เน้นอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าการมุ่งเน้นเพียงเทคโนโลยีอย่างเดียว ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ ZTE ภายใต้กลยุทธ์ “AI for All” และเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของระบบนิเวศ AI เต็มรูปแบบที่เชื่อมโยงผู้คน ยานพาหนะ และบ้านเข้าด้วยกัน
Mochi ได้รับการออกแบบให้เป็น “เพื่อนคู่ใจ” ที่เฉลียวฉลาด เข้าอกเข้าใจ และเป็นมิตรกับทุกคน Mochi สามารถรับรู้ รับฟัง และตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้ใช้งานด้วยการเคลื่อนไหว ส่งเสียง และการสั่นอย่างนุ่มนวล Mochi มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจ ขนปุยนุ่มและดวงตาเปล่งประกายทำให้ดูเหมือนมีชีวิตจริง สะท้อนภาพความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายแต่อบอุ่น
ระบบนิเวศอัจฉริยะของ ZTE ต่อยอดมาจากความเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อของบริษัท โดยครองส่วนแบ่งตลาด 5G FWA & MBB มากเป็นอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 นอกจากนี้ ZTE ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง 5G-A และ Wi-Fi 7 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ZTE G5 Ultra ซึ่งเป็น 5G-A CPE ขุมพลัง AI รุ่นแรกของโลก, ZTE G5 Max Wi-Fi ซึ่งเป็น 30dBi Wi-Fi 7 mmWave CPE รุ่นแรกของโลก และ ZTE U60 Pro ซึ่งเป็น Wi-Fi 7 5G Mobile WiFi ที่เร็วที่สุดในโลก ความก้าวหน้าเหล่านี้ตอกย้ำบทบาทของ ZTE ในการขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อมวลชน
ZTE Corporation
Communications
Email: [email protected]
View original content to download multimedia: Read More