Xinhua Silk Road: สโนว์สกาย ซอลต์ ตั้งบริษัทนำเข้า-ส่งออกเกลือ มุ่งขยายธุรกิจไปทั่วโลก

บริษัท สโนว์สกาย ซอลต์ อินดัสทรี กรุ๊ป จำกัด (Snowsky Salt Industry Group Co., Ltd) (600929.SH) ผู้ผลิตและจำหน่ายเกลือชั้นนำของจีน ประกาศจัดตั้งบริษัทในเครือเพื่อนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ของบริษัทเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ณ เมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ทางภาคกลางของจีน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายธุรกิจในต่างประเทศ

บริษัทใหม่มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้จัดหาเกลือและเกลือเคมีรายใหญ่ในเอเชีย โดยตั้งเป้าดำเนินธุรกิจในกว่า 10 ประเทศและภูมิภาคในปี 2566 ด้วยยอดส่งออก 50,000 ตัน และรายได้มากกว่า 40 ล้านหยวน ส่วนเป้าหมายในช่วงปี 2567-2568 คือการเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สิบประเทศสมาชิกอาเซียน ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่น ๆ ด้วยยอดส่งออก 150,000 ตัน และรายได้ราว 150 ล้านหยวน

การจัดตั้งบริษัทในเครือถือเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นสำหรับสโนว์สกาย ซอลต์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) มากกว่า 20% ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบธุรกิจเกลือระดับโลก

สโนว์สกาย ซอลต์ เริ่มสำรวจหนทางในการส่งออกผลิตภัณฑ์เกลือสู่ตลาดโลกในปี 2562

ในเดือนมิถุนายน 2563 บริษัทส่งออกเกลือบริโภคกว่า 6,000 ตันไปยังแองโกลา นับเป็นการเข้าสู่ตลาดแอฟริกาเป็นครั้งแรก ต่อมาในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน บริษัทส่งออกเกลือบริโภคในถุงขนาดเล็กกว่า 1,200 ตันไปยังสิงคโปร์ ตามด้วยการส่งออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปยังกัมพูชาและลาว

ในเดือนมิถุนายน 2564 ผู้ผลิตเกลือรายนี้ได้เปิดบัญชีบนเว็บไซต์อาลีบาบา (Alibaba.com) ทำให้สามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์ผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้

ในปี 2565 สโนว์สกาย ซอลต์ ได้เดินหน้าขยายธุรกิจไปยังตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงต้นปี 2566 บริษัทได้ทำการวิจัยอย่างละเอียดเกี่ยวกับตลาดอาเซียนและเยี่ยมเยือนประเทศต่าง ๆ เช่น กัมพูชาและลาว เป็นต้น

ธุรกิจการส่งออกของสโนว์สกาย ซอลต์ เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด บริษัทส่งออกเกลือ 67,000 ตันในปี 2564 และมีรายได้จากการขายมากกว่า 30 ล้านหยวน ส่วนยอดส่งออกเกลือในปี 2565 สูงถึง 90,000 ตัน

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับปรุงโครงสร้างการส่งออกอย่างสม่ำเสมอ โดยปัจจุบันสินค้าส่งออกครอบคลุมทั้งเกลือบริโภค เกลือบริโภครายวัน และเกลือเคมี จากเดิมที่มีเพียงเกลือถุงใหญ่เท่านั้น

ทั้งนี้ สโนว์สกาย ซอลต์ จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วจึงขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป และอเมริกาต่อไปในอนาคต

ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/335094.html