 |
- ริเริ่มวันสำคัญใหม่ในระดับสากล เพื่อสร้างความตระหนักในวงกว้าง เกี่ยวกับผลกระทบเชิงบวกของคลื่นความถี่เสียงที่มีต่อสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจ
- ประกาศโดย Frequency School โครงการริเริ่มระดับโลกจากโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อย่าง Maejor เพื่อส่งเสริมดนตรีบำบัดและสุขภาวะที่ดีทั่วโลก
- วันความถี่โลก ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี
- เตรียมจัดกิจกรรมหลักที่ดูไบ พร้อมด้วยกิจกรรมย่อยอีกหลายสิบรายการทั่วทุกมุมโลก
- เฉลิมฉลองพร้อมกันทั่วโลกเวลา 11:11 น. และ 23:11 น. ตามเวลาท้องถิ่นในทุกเขตเวลา
- เปิดตัวด้วยความร่วมมือกับ Learnstar แพลตฟอร์มการศึกษาและความบันเทิงชั้นนำของทวีปแอฟริกา และ ALPHAWHISPERERS™ องค์กรระดับโลกในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและสร้างผู้นำ
- ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.internationaldays.co/event/world-frequency-day/r/recDT7ct2E9qnLMDu
- ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวระดับโลกได้ที่ https://frequency.school/ www.instagram.com/thefrequencyschool/ www.linkedin.com/company/the-frequency-school
ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 11 พฤศจิกายน 2568 /PRNewswire/ — The Frequency School ภายใต้การนำของโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่และสร้างผลงานระดับหลายแพลทินัมอย่าง Maejor ได้ประกาศเปิดตัว “วันความถี่โลก” (World Frequency Day) อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่เมืองดูไบ ในวันอังคารที่ 11 เดือน 11 โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับภาษาดนตรีอันเป็นสากล และใช้พลังการเปลี่ยนแปลงของคลื่นความถี่เสียง ในการส่งเสริมเอกภาพ ความปรองดอง รวมถึงสุขภาวะทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจทั่วโลก
World Frequency Day is celebrated on November 11th each year. The mission of this day is to raise awareness about the positive effects of sound frequencies on mental and physical health and the overall well-being of people around the globe.
วันความถี่โลกนี้จัดขึ้นโดยมีคำขวัญว่า “Tuned in Together” เฉลิมฉลองในวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568 และจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเชิญชวนผู้คนทั่วทุกมุมโลกให้ร่วมกันสร้างจังหวะใหม่แห่งการเชื่อมโยง เสียงสะท้อน และความเป็นมนุษย์
การกำหนดให้วันที่ 11/11 เป็นวันความถี่โลกนั้น เป็นไปเพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพ ความสมดุล และเสียงสะท้อน ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนพลังคลื่นความถี่ในครั้งนี้
Maejor ผู้ก่อตั้งและผู้กำหนดวิสัยทัศน์ Frequency School กล่าวว่า
“วันความถี่โลกถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ตระหนักถึงพลังสากลของเสียง ในการเชื่อมโยงและสร้างแรงบันดาลใจ การที่เรากำหนดให้วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นวันส่งเสริมศิลปะ วิทยาศาสตร์ และการประยุกต์ใช้คลื่นความถี่นั้น เปิดโอกาสให้เราเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบอันลึกซึ้งต่อสุขภาพและสุขภาวะของผู้คนทั่วโลก”
Martina Fuchs ผู้ริเริ่มวันความถี่โลก และผู้ร่วมก่อตั้ง Frequency School กล่าวว่า
“ตั้งแต่จังหวะการเต้นของหัวใจ ไปจนถึงเสียงสะท้อนของดนตรี ความถี่ได้เข้ามามีส่วนกำหนดทุกมิติในชีวิตของเรา วันความถี่โลกจึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่มนุษยชาติจะร่วมกันปรับจูน เพื่อใช้ประโยชน์จากพลังของเสียงและการสั่นสะเทือน ในการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความเป็นเอกภาพ สุขภาพที่ดี และความปรองดอง”
โครงการริเริ่มครั้งประวัติศาสตร์นี้ขับเคลื่อนโดยพันธมิตรระดับโลก ได้แก่ ALPHAWHISPERERS™ ซึ่งเป็นองค์กรขับเคลื่อนผู้นำระดับโลก และเป็นขบวนการปฏิวัติเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เป็นระบบ และส่งผลต่อคนรุ่นต่อไป พร้อมด้วย Learnstar แพลตฟอร์มการศึกษาและความบันเทิงชั้นนำของแอฟริกา ซึ่งนำเสนอหลักสูตรอีเลิร์นนิงจากเหล่าผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้มีชื่อเสียง ไปจนถึงนักสร้างสรรค์และผู้เชี่ยวชาญ
กิจกรรมในวันความถี่โลกจะสิ้นสุดลงด้วยกิจกรรมหลักที่ Creators HQ นครดูไบ ซึ่งเป็นเวทีที่รวบรวมสุดยอดนักสร้างสรรค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะ และผู้นำทางธุรกิจจากทั่วโลกไว้ด้วยกัน อาทิ
Alia Al Hammadi รองประธานสำนักงานสื่อภาครัฐสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซีอีโอ 1 Billion Followers Summit, Sacha Jafri ศิลปินและนักมนุษยธรรมชาวอังกฤษผู้โด่งดังระดับโลก, Kunal Sood ผู้ประกอบการด้านผลกระทบทางสังคม, Carol Carter ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ GlobalMindED, Master Sri Akarshana ครูสอนด้านจิตวิญญาณ ผู้ประกอบการ และอินฟลูเอนเซอร์, Allaoua Gaham ครูสอนโยคะระดับมาสเตอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะ, Sabinije von Gaffke ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีอายุยืนยาว, Sathi Roy ผู้ก่อตั้ง Our Highest Mantra (OHM), T Chanela Ibrahim ผู้ก่อตั้ง Rodeo Park, Letizia Silvestri นักสะกดจิตบำบัดทางคลินิกที่ได้รับการรับรองและนักบำบัดด้วยเสียง, ดร. Batoul Salman Kherbiek ผู้ก่อตั้ง FutureVerse, Anna Kuusela สถาปนิกด้านความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และผู้ทรงอิทธิพลอีกมากมาย
การขับเคลื่อนระดับโลกครั้งนี้ก่อให้เกิดกิจกรรมย่อย การเผยแพร่ข่าวสาร และแคมเปญความร่วมมืออีกหลายสิบรายการร่วมกับศิลปิน นักนวัตกรรม และผู้สนับสนุนด้านสุขภาวะ ครอบคลุมทุกเขตเวลา และมีการจัดกิจกรรมพร้อมกันในเวลา 11:11 น. และ 23:11 น. ตามเวลาท้องถิ่นทั่วโลก
โครงการนี้ได้เชิญชวนชุมชนและพันธมิตรทั่วโลก ให้เข้ามามีส่วนร่วมและจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ
- Eddie Stern ครูสอนโยคะและนักเขียน ณ นครนิวยอร์ก
- องค์กรการกุศล Harmony House จากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
- Aiglon College ในสวิตเซอร์แลนด์
- Master Oh ผู้เชี่ยวชาญด้านลมปราณและทูตแห่งความสุข ณ ประเทศเม็กซิโก
- Lang Lang International Music Foundation ในลอนดอน
- Wellness Collective ในฟิลิปปินส์
- High Frequency Highway ณ เมืองชาร์ลอตต์ สหรัฐอเมริกา
- Wellness Omakase Experience จากประเทศมาเลเซีย และอีกมากมาย
Janet C. Salazar ประธานกรรมการ ALPHAWIN Venture Group และประธานบริหารของ Foundation for the Support of the United Nations (FSUN) กล่าวว่า
“เรากำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติความเป็นผู้นำระดับโลก ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าที่เคย นั่นคือความเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลง โดยต้องมุ่งเน้นไปที่การนิยามใหม่ว่าอำนาจและอิทธิพลส่งผลอย่างไรในสังคมของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ขณะที่เรากำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทั่วโลก เราต้องการสถาปนิกที่จะเข้ามาสร้างยุคใหม่ของความเป็นผู้นำแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นยุคที่สร้างสรรค์ ครอบคลุม ยั่งยืน และเป็นธรรมยิ่งขึ้น โดยที่การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มต้นจากพลังที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอำนาจ”
Kshitij Sainani ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Learnstar และผู้อำนวยการ KGSK Alliance ประจำแอฟริกาตะวันตกและเอเชีย กล่าวว่า
“วันความถี่โลกถือเป็นการกำเนิดของจิตสำนึกใหม่ ที่ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ และความสั่นสะเทือน หลอมรวมเข้าด้วยกันเพื่อยกระดับมนุษยชาติ ที่ Learnstar นั้น เราเชื่อมั่นเสมอว่า การศึกษาไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้เท่านั้น แต่คือเรื่องของพลัง พลังที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ยกระดับ และเชื่อมโยงผู้คนข้ามวัฒนธรรม ด้วยความร่วมมือกับ Frequency School วันแห่งประวัติศาสตร์นี้จึงเป็นมากกว่าการรวมตัวของนักสร้างสรรค์ แต่เป็นการเคลื่อนไหวระดับโลกที่แสดงให้เห็นว่า เสียงและการเล่าเรื่องสามารถพลิกโฉมวิธีการที่เราเรียนรู้และใช้ชีวิตได้อย่างไร นี่คือรุ่งอรุณแห่งบทใหม่ ที่การศึกษาจะสั่นสะเทือนในความถี่ที่สูงขึ้น เพื่อปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์และเป้าหมายให้กับนักคิดและนักฝันรุ่นใหม่ทั่วโลก”
Kingsley Maduka ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Frequency School กล่าวว่า
“ผมรู้สึกซาบซึ้งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเปิดตัววันความถี่โลก การสร้างความตระหนักรู้ว่าดนตรีและสุขภาวะมีความสัมพันธ์กันอย่างไรนั้น เปิดโอกาสให้ Frequency School และองค์กร ตลอดจนบุคคลที่มีแนวคิดเดียวกัน สามารถส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้แก่มนุษยชาติได้อย่างมีเจตนาชัดเจน โดยการเรียกร้องให้ลงมือทำในครั้งนี้แสดงให้เห็นการนำเสียงบำบัดและเครื่องมือด้านสุขภาวะไปใช้ในแต่ละวัน เพื่อดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของเรา”
Brandon Lee ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Frequency School กล่าวว่า
“วันความถี่โลกย้ำเตือนเราว่า เสียงไม่ใช่แค่สิ่งที่ได้ยิน แต่ยังหล่อหลอมอารมณ์ สุขภาพ และความสัมพันธ์ของเราด้วย โดยการที่เราปรับจูนเข้าหาพลังของคลื่นความถี่ จะทำให้เราสามารถจัดระเบียบตัวเองและโลกของเราให้ปรองดองกันได้มากขึ้น”
Aaron Dawson ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Frequency School กล่าวว่า
“วันความถี่โลกคือวันแห่งการเฉลิมฉลองพรแห่งชีวิตที่เรียกว่าเสียงและพลังของดนตรี ในการสร้างความสั่นพ้องและความเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก นับเป็นโอกาสสำคัญที่โลกจะได้ประสานเสียงกันในเรื่องสุขภาวะ ความเป็นเอกภาพ และความปิติยินดี วันนี้มีไว้สำหรับเหล่านักฝันที่ยังคงมีความเชื่อมั่นและทุ่มเทเพื่อสิ่งนี้ทุกวัน โดยเริ่มต้นจากภายในตัวเราเอง”
เกี่ยวกับวันความถี่โลก
วันความถี่โลก (World Frequency Day) คือวันสำคัญระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 11 พฤศจิกายน เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับผลกระทบเชิงบวกที่ความถี่เสียงมีต่อสุขภาพจิต สุขภาพกาย และสุขภาวะโดยรวมของผู้คนทั่วโลก
วันสำคัญนี้ริเริ่มขึ้นในปี 2568 โดย The Frequency School ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่ก่อตั้งโดย Maejor โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ร่วมกับ Martina Fuchs, Kingsley M, Brandon Lee และ Aaron Dawson เพื่อส่งเสริมการนำเสียงบำบัดไปใช้เป็นเครื่องมือดูแลจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ
เพื่อร่วมฉลองโอกาสนี้ เราขอเชิญชวนทุกท่านปรับจูนเข้าสู่คลื่นความถี่ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ลองฝึกสมาธิหรือการหายใจ ขันทิเบตหรือฆ้อง หรือดื่มด่ำไปกับเสียงแห่งธรรมชาติ
เกี่ยวกับ THE FREQUENCY SCHOOL
เว็บไซต์: https://frequency.school
Instagram: @thefrequencyschool
LinkedIn: www.linkedin.com/company/the-frequency-school
The Frequency School ได้เปิดตัวครั้งแรกที่ Aiglon College ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 2567 โดยนำการบำบัดด้วยเสียงและดนตรีเข้ามาใช้สนับสนุนสุขภาพจิตและความผาสุกทางอารมณ์ของผู้เรียน
Frequency School ถือกำเนิดจากประสบการณ์จริง ไม่ใช่เพียงความตั้งใจ โดยเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Maejor ศิลปินผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ได้หันมาใช้พลังของเสียงบำบัดระหว่างการพักฟื้นจากโรคมะเร็ง และค้นพบศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของสิ่งนี้ จากนั้นเขาพร้อมด้วยผู้ร่วมก่อตั้ง ได้แก่ Brandon Lee, Kingsley Maduka, Martina Fuchs และ Aaron Dawson จึงมุ่งมั่นที่จะทำให้สุขภาวะที่ใช้เสียงเป็นแกนหลักเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผ่านเครื่องมือที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
หัวใจสำคัญของ Frequency School คือความเชื่อในการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่สม่ำเสมอ หรือการพัฒนาให้ดีขึ้น 1% ในทุก ๆ วัน โดยอาศัยพลังของดนตรี ความคิดสร้างสรรค์ และการฝึกปฏิบัติด้วยเสียงที่มีหลักการวิทยาศาสตร์รองรับ เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนได้เชื่อมโยงกับตนเองอีกครั้ง เพื่อสร้างความชัดเจน ความสมดุล และความยืดหยุ่น จากภายในสู่ภายนอก
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2814432/The_Frequency_School.jpg?p=medium600
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2699891/5603532/Frequency_School_Logo.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More