มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ME HappyFridge ตอบรับวิถีชีวิตแบบ New Normal ด้วย แอปฯ คู่หูตู้เย็น ตัวช่วยอัจฉริยะแจ้งเตือนวันหมดอายุอาหาร

บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ขอแนะนำแอปพลิเคชั่น เพื่อวิถีชีวิตแบบ New Normal ที่จะช่วยให้การกักตุนอาหารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยแอปพลิเคชั่น “ME HappyFridge” ตัวช่วยอัจฉริยะสำหรับตู้เย็นมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ให้ชีวิตคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยสามารถตรวจเช็คปริมาณอาหารในตู้เย็นหรือวันหมดอายุได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงบันทึกข้อมูลประเภทอาหาร ปริมาณ และวันหมดอายุลงไป นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งเตือนเมื่ออาหารใกล้หมดอายุเพื่อวางแผนการนำมาใช้ ลดการเหลือทิ้ง และลดปัญหาการซื้อซ้ำได้นอกจากนี้หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นอีกด้วย ME HappyFridge สามารถใช้งานได้กับตู้เย็นมิตซูบิชิ อีเล็คทริคตั้งแต่รุ่นปี 2017 เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้แล้วทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mitsubishi-kyw.co.th หรือโทร. 0-2763-7000 กด 7

เตรียมพร้อมสู่ยุคใหม่ของความปลอดภัยและสุขภาพ

บทความโดย นายฟาบิโอ ทิวิติ รองประธาน ประจำภูมิภาคอาเชียน บริษัท อินฟอร์ ไม่มีใครทราบเลยว่า การแพร่ระบาดของโควิดนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด และโลกของการทำงานจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหลังจากเหตุการณ์นี้ แต่ที่แน่ ๆ ดูเหมือนว่าเราจะรับรู้ได้ถึงผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตเรานี้  ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายที่เราได้ประสบในช่วง 12-18 เดือนที่ผ่านมา จะพบว่า การทำงานเสมือนจริงไม่ว่าจะเป็นแบบไฮบริดที่ทำงานจากบ้านหรือจากที่ใดก็ตาม หรือเข้าออฟฟิศทุกวันเต็มเวลา ดูเหมือนว่าการทำงานแบบนี้จะยังคงอยู่กับเราต่อไปอีกนาน ในมุมหนึ่ง โควิดให้โอกาสพิสูจน์แนวคิดเรื่องการทำงานจากที่บ้าน (work from home = WFH) ว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่ จากการศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดแสดงให้เห็นว่า พนักงานที่ได้รับอนุญาตให้ WFH มีความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้น เทียบได้กับการทำงานเต็มวันในทุกสัปดาห์  ยิ่งไปกว่านั้น ผลสำรวจเพิ่มเติมจากรายงานฉบับนี้ยังแสดงให้เห็นว่า การ WFH ทำให้การลาออกของพนักงานลดลง 50% และมีการลาป่วยน้อยลงอีกด้วย  ซึ่งสิ่งที่ตอกย้ำข้อเท็จจริงนี้คือ การลดพื้นที่สำนักงานได้ช่วยประหยัดเงินค่าเช่าลงได้อย่างมาก โดยผลการศึกษาระบุว่า สามารถประหยัดได้ถึง 2,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อพนักงานหนึ่งคน ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ในทำนองเดียวกัน จากผลสำรวจของ Gartner เมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้จะยังคงอยู่ตลอดไป […]

จาก Office Syndrome สู่ยุค Work From Home Syndrome ใครว่าทำงานที่บ้านแล้วจะชิล

จาก Office Syndrome สู่ยุค Work From Home Syndrome ใครว่าทำงานที่บ้านแล้วจะชิล นับตั้งแต่ได้สัมผัสกับชีวิตแบบ Work From Home เป็นครั้งแรก ในใจก็ได้แต่คิดว่าความสุขของชีวิตทำงานกำลังจะประดังเข้ามา เพราะเรากำลังไม่ต้องยื้อแย่งที่ว่างบนท้องถนน ทั้งความเครียดในวันวุ่นๆ ก็คงลดน้อยลง จนทำงานได้แบบชิลๆ ทั้งวันแน่ๆ แต่เมื่อวันเวลาของการ WFH ค่อยๆ ผ่านไป กลับกลายเป็นเราเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับความเครียด จนแทบจะเป็น Work From Home Syndrome แทน Office Syndrome แล้ว กระทั่งวิธีการคลายเครียดเดิมๆ ที่เคยทำก็ดูจะเอาไม่อยู่ จนเราแทบไม่เหลือทางเลือกอื่นใด นอกเสียจากสรรหาวิธีการใหม่ มารับมือกับอาการที่ไม่คุ้นเคยนี้ เพื่อทวงวันคืนสงบสุขกลับมาโดยเร็วที่สุด จากคำบอกเล่าของ แพทย์หญิงดุจฤดี อภิวงศ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลพระรามเก้า เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของโรคโควิด-19 รวมถึงการทำงานแบบ WFH คือสิ่งที่ส่งผลกระทบทางลบต่อจิตใจอย่างมาก ปัญหาที่คนส่วนใหญ่พบเจอคือภาวะตึงเครียดจากการต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นจากมาตรการเพื่อลดการระบาด หรือมาตรการทำงานของบริษัทก็ตาม “เมื่อพื้นที่ที่ควรเป็นบ้านสำหรับพักผ่อน เปลี่ยนมาเป็นที่ทำงาน ผู้คนส่วนใหญ่จึงมีปัญหาในการปรับตัวที่เลี่ยงได้ยาก […]