บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าเขย่าตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงส่งท้ายปี ด้วยการเปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องเสียงแบบพกพา ที่จะเสริมประสบการณ์ใหม่ของการฟังเพลงสุดคมชัดแม้เชื่อมต่อแบบไร้สาย ผ่าน LDAC พร้อมด้วยหูฟังในตระกูล h.ear series ด้วยเทคโนโลยีเสียงสุดล้ำในดีไซน์ที่โดดเด่นสุดนำเทรนด์ สีทูโทน(Choice of five two-tone colour combinations)
นำทัพโดยผลิตภัณฑ์ WALKMAN NW-A100 Series วอล์คแมนเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี ส่งมอบเครื่องเล่นเพลงรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมระบบ ปฎิบัติการ Android 9.0 เพิ่มทางเลือกในการฟังเพลงแบบMULTI-SOURCE MUSIC ทั้งการเล่นไฟล์เพลง Hi-Res Audio หรือ ฟังเพลงจากบริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ ชื่นชอบการฟังเสียงดนตรีคุณภาพได้ทุกที่ทุกเวลา ในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
โซนี่ขอส่งความสุขปลายปี ต้อนรับปีใหม่ด้วยความสุนทรีย์จากเสียงเพลงคุณภาพ ด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลแบบพกพาตระกูลวอล์คแมนหลากหลายรุ่น เอาใจคนรักเสียงเพลงได้เลือกอย่างจุใจ อาทิ WALKMAN NW-A100 Series เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลพกพาใหม่ในขนาดเล็กกะทัดรัด ที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 9.0 เพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi รวมทั้ง LDAC เพื่อให้คุณสนุกสนานกับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
และสตรีมมิ่งเพลงโปรดได้อย่างสะดวกง่ายดายในทุกที่พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3.6 นิ้ว และสั่งงานเล่นเพลงด้วย Walkman Application และโดดเด่นด้วยโปรแกรมพักหน้าจอขณะเล่นไฟล์เพลงคุณภาพสูง เป็นรูปเทปคาสเซ็ตที่เปลี่ยนแปลงตามรูปแบบไฟล์ที่แตกต่างกัน เพื่อย้อนเวลารำลึกถึงวอลค์แมนรุ่นแรกเมื่อ 40ปีที่แล้ว บนเครื่องเล่นรุ่นล่าสุดในรูปแบบดีไซน์สมัยใหม่ พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ล่าสุดมากมาย อาทิ S-Master HX และ DSEE HX ซึ่งจะช่วยรักษาคุณภาพเสียงให้คมชัดเพื่อคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม
WALKMAN NW-A100 Series มีให้เลือก 3 รุ่น ประกอบด้วย
- WALKMAN NW-A105 ที่มาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 16GB
- WALKMAN NW-A106HN ที่มาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 32GB พร้อมหูฟังตัดเสียงรบกวน IER-NW510N
- WALKMAN NW-A100TPS ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีวอล์คแมน
WALKMAN® NW-ZX507 เป็นสุดยอดเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลแบบพกพาระดับพรีเมี่ยมของตระกูล Walkman ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว ทุกองค์ประกอบผ่านการคัดสรรย่อส่วนจากต้นแบบรุ่นเรือธงเพื่อเพื่อมอบประสบการณ์ฟังเสียงเพลงคุณภาพสูงจากเครื่องเล่นพกพาที่มีขนาดเล็กได้ดียิ่งกว่าเดิม โดยน้ำหนักเบาเพียง 164 กรัม Real Sound , Real Enjoyment ด้วยโครงสร้างของตัวเครื่องผลิตจากแท่งอะลูมิเนียมตันขึ้นรูปจึงป้องกันสัญญาณรบกวนจาก Electrical Noise อย่างได้ผล ให้ได้เสียงเบสทรงพลังคมชัดทุกโน้ต ผสานชิ้นทองแดงกลึงช่วยลดค่าความต้านทานปรับปรุงระบบกราวนด์ และตัวเก็บประจุ FT CAP II ที่พัฒนาขึ้นใหม่ (High Polymer Capacitor)
เพิ่มกำลังขับให้ภาคขยาย แอมปลิไฟเออร์มีช่วงเสียงร้องที่กว้างและเพิ่มพลังเสียงเบส รวมถึง S-Master HX ที่รองรับไฟล์ DSD แบบ native (11.2 MHz) ฟังก์ชั่นการฟังเพลงที่ปรับปรุงขึ้นใหม่มากมาย Direct Source, 10 Band Equalizer, DSEE HX, DC Phase Linearizer, Dynamic Normalizer, Vinyl Processing และเพิ่มความสะดวกมากขึ้นด้วยการสตรีมมิ่งเพลงผ่านการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบ Android 9.0 รวมถึงการเชื่อมกับบลูทูธ 5.0 (SBC, LDAC, aptX, aptX HD) หรือ Wi-Fi โดยมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 3.6 นิ้ว รวมถึงมีช่องหูฟัง 3.5 ม.ม. และสายต่อบาลานซ์ 4.4 ม.ม. ในตัว แบตเตอรี่สามารถใช้ได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย USB Type-C ตัวเครื่องมีจำหน่ายเฉพาะสีดำ วางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมศกนี้ ในราคา 25,990 บาท
ในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปี โซนี่ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับช่วงแนะนำ เมื่อซื้อวอล์คแมนทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวมาจะได้รับของสมนาคุณพิเศษ สำหรับรุ่น NW-A105/106 รับเคส CKS-NWA100 มูลค่า 1,490 บาท และรุ่น NW-ZX507 รับเคสรุ่น CKL-NWZX500 มูลค่า 2,490 บาท สิทธิพิเศษเฉพาะในเดือนธันวาคม 2019 และมกราคม 2020 เท่านั้น
ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มหูฟัง
ในกลุ่มผลิตภัณฑ์หูฟังตัดเสียงรบกวน โซนี่ไทยขอแนะนำ WI-1000XM2 ซึ่งเป็นหูฟังไฮเรสออดิโอแบบคล้องคอ ที่ต่อยอดมาสู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของหูฟังในตระกูล 1000X โดยนำเทคโนโลยีจากหูฟังระบบตัดเสียงรบกวนระดับพรีเมี่ยม มาใช้เพื่อให้มีคุณสมบัติการถ่ายทอดเสียงได้เหนือระดับมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ HD Digital Noise Cancelling Processor QN1 ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างที่ดียิ่งขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานระหว่างการเดินทาง ขณะเดียวกันยังมาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงแบบ Dynamic ขนาด 9 ม.ม. และ Balanced Armature ทำให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดทุกย่านความถี่เสียงได้อย่างคมชัด นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยี DSEE HX ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพของสัญญาณที่ถูกบีบอัดมาให้ใกล้เคียงกับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Resolution ขณะที่สายคล้องคอได้รับการปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วยวัสดุซิลิโคนเพื่อการสวมใส่ที่นุ่มสบาย สามารถฟังหูเพลงได้ยาวนานาตลอดวันโดยไม่เจ็บหู และมีน้ำหนักเบากว่าเดิมเพียง 44 กรัมเท่านั้น โดยแบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชม. ในขณะเปิดระบบตัดเสียงรบกวน รวมถึงมีฟังก์ชั่น Google Assistant และ Amazon Alex ทั้งยังรองรับ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 80 นาที มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีเงิน เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมศกนี้เป็นต้นไป ในราคา 10,990 บาท
สำหรับผลิตภัณฑ์หูฟังตระกูล h.ear series มาพร้อมสีสันสดใส และการออกแบบใหม่ที่โดดเด่นกว่าเดิมซึ่งเข้ากับไลฟ์สไตล์ของนักฟังเพลงรุ่นใหม่อย่างลงตัวในสีทูโทน โดย h.ear series รุ่นใหม่มาพร้อมกัน 3 รุ่น ครอบคลุมการใช้งานทั้งแบบครอบหู และสอดหู โดยหูฟังแบบครอบหูรุ่น h.ear on 3 Wireless NC รุ่น WH-H910N เป็นหูฟังไร้สายแบบคาดศีรษะขนาดฟูลไซส์ครอบหูรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมสีสันใหม่สุดนำเทรนด์ที่จะมอบประสบการณ์ฟังเพลงคุณภาพสูงอย่างมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ทั้งยังโดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio ด้วยไดร์เวอร์ขนาดเล็ก 25 มม. ที่ให้เสียงอันทรงพลังเทียบเท่ากับไดร์เวอร์ขนาด 40 มม.
พร้อมไมโครโฟนคู่กันเสียงรบกวน ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดียิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเสียงการใช้งานในห้องโดยสารบนเครื่องบิน เสียงการจราจรในเมือง หรือเสียงสนทนาในสำนักงานเพื่อเพิ่มความสะดวกในฟังเพลง ขณะเดียวกันยังมีฟังก์ชั่น Ambient Sound Mode และ Quick Attention Mode ที่เปิดใช้งานได้ทันที เพียงใช้มือวางที่หูฟังด้านขวา ผู้ใช้จะได้ยินเสียงรอบข้างทันที รวมถึงมี Touch Control ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการฟังเพลง เลือกเพลง และปรับระดับความดังของเสียงเพลงด้วยระบบสัมผัส หรือควบคุมสั่งงานผ่าน
แอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect บนสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ขณะที่ตัวหูฟังเพรียวบาง น้ำหนักเบาทำให้สวมใส่สบายได้ตลอดวัน ทั้งยังสามารถพับเก็บได้เหมาะกับการพกพาใช้งานเมื่อเดินทาง รวมถึงมีฟังก์ชั่น Voice Assistant โดยแบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชม. และมี Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณสามารถจะเพลิดเพลินไปกับฟังเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 2.5 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดง และสีน้ำเงิน เริ่มทยอยวางจำหน่ายกลางเดือนธันวาคม ศกนี้ เป็นต้นไป ในราคา 9,990 บาท
หูฟัง h.ear on 3 Mini Wireless รุ่น WH-H810 เป็นหูฟังแบบคาดศีรษะขนาดมินิ ที่ได้รับการออกแบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหูฟังขนาดเล็ก แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ด้วยเทคโนโลยีชั้นเยี่ยมมากมายเพื่อให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดทุกย่านความถี่เสียง ทั้งยังมาพร้อม Touch Control แบบใหม่เพิ่มความสะดวกในการฟังเพลง เลือกเพลง
และปรับระดับความดังของสียงเพลงด้วยระบบสัมผัส หรือควบคุมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect บนสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ขณะที่หูฟังสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกสบายในการพกพา โดยรองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชม.ทั้งยังรองรับ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 3.5 ชั่วโมง มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ, แดง, สีน้ำเงิน, สีส้ม และสีเขียว เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ศกนี้ เป็นต้นไป ราคา 6,990 บาท
สำหรับรุ่น h.ear in 3 Truly Wireless รุ่น WF-H800 เป็นหูฟังแบบไร้สายแบบ Truly Wireless ที่จะทำให้คนรักเสียงดนตรีได้ดื่มด่ำไปกับการฟังเพลงสุดโปรดด้วยเสียงคุณภาพสูง Exceptional Sound Quality ได้อย่างอิสระเต็มที่ยิ่งขึ้นโดยมาในสีสันสดใสนำเทรนด์ พร้อมไดนามิคไดรเวอร์ขนาด6มม พร้อมเทคโนโลยี DSEE HX เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับคุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงระดับ Hi-Res Audio ที่สุด ตัวหูฟังดีไซน์จากวัสดุที่คัดสรร จึงมีน้ำหนักเบาใส่สบายด้วยการออกแบบหูฟังแบบ Tri-Hold พร้อมจุกหูฟังหลายขนาดเพื่อการสวมใส่ที่กระชับพอดีกับช่องหูของแต่ละคน ลดช่องว่างที่เสียงจากภายนอกที่อาจลอดเข้ามารบกวนจึงฟังเพลงได้เต็มอรรถรส
รวมถึงพกพาสะดวกด้วยกล่องบรรจุสำหรับการจัดเก็บและชาร์จไฟในตัว สะดวกด้วยปุ่มปรับเสียงบนหูฟัง หรือควบคุมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect รวมถึงฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียงในระบบต่างๆ เช่น Google Assistant ทั้งนี้หูฟังสามารถใช้งานได้นานรวมสูงสุดถึง 16 ชั่วโมง (8ชม+8ชม) คล่องตัวด้วยระบบ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 70 นาที มีให้เลือก 5 สีคือ สีดำ, สีแดง, สีน้ำเงิน, สีส้ม และสีเขียว จะเริ่มทยอย วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ในราคา 6,990 บาท
พร้อมกันนี้ โซนี่ยังได้จัดเตรียมเครื่องบันทึกเสียงดิจิตอล Hi-Res Audio แบบพกพารุ่นใหม่ล่าสุด ICD-UX570F นับเป็นเครื่องอัดเสียงอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ตอบโจทย์ตอบโจทย์ทั้งการบันทึก และเล่นทั้งเสียงดนตรีและเสียงร้องได้อย่างคมชัด อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเสียงบันทึกได้ด้วยโปรแกรม Sound Organize 2 ที่มากับเครื่องที่ช่วยในการปรับแต่งเสียงอัตโนมัติเพื่อให้ได้เสียงบันทึกที่ชัดเจนและมีความดังเหมาะสม รวมถึงมีฟังก์ชั่นการค้นหาข้อมูลเพื่อช่วยให้การบันทึกทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมหน้าจอ OLED และ UI ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้มีความคมชัดและดูได้อย่างง่ายดาย
ขณะเดียวกัน ยังมีระบบชาร์จไวเพียง 3 นาที โดยสามารถใช้งานได้ 60 นาที และสามารถบันทึกวิทยุ FM และสัญญาณภายนอกผ่านรูปแบบ AUX 3.5 มม.ได้อีกด้วย มาพร้อมหน่วยความจำในตัวเครื่อง 4GB และยังสามารถเพิ่มความจุได้มากกว่า 64GB ด้วย Micro SD Card มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ, สีเงิน และสีทอง พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 3,990 บาท
ᐧ