![]() |
ตั งแต่การสนับสนุนทางการเงินแก่เกษตรกรรายย่อย การฟื นฟูระบบนิเวศ ไปจนถึงนวัตกรรมด้านห่วงโซ่อุปทาน การประชุมประจําปีขององค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ํามันยั งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil: RSPO) ได้สํารวจแนวทางแก้ปัญหาที สามารถขยายผลได้เพื อเร่งให้เกิดการเปลี ยนผ่านของอุตสาหกรรมน้ํามันปาล์มสู่ความยั งยืน
กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย, 7 พฤศจิกายน 2568 /PRNewswire/ — การประชุมโต๊ะกลมประจําปีว่าด้วยน้ํามันปาล์มอย่างยั งยืน หรือ Annual Roundtable Conference on Sustainable Palm Oil (RT2025) ที จัดโดยองค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ํามันยั งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil: RSPO) ได้รวมตัวเหล่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั วโลก
เพื อเรียกร้องให้เกิดการนําเทคโนโลยีและเครื องมือทางวิทยาศาสตร์ที มีอยู่เข้ามาใช้ให้แพร่หลายยิ งขึ น เพื อยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพการผลิต และความยั งยืนของภาคอุตสาหกรรมนี โดยเหล่าผู้เชี ยวชาญได้หารือถึงวิธีที การใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด การเปลี ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล และการดําเนินงานอย่างรอบคอบ จะสามารถปลดล็อกศักยภาพของอุตสาหกรรม สร้างความเท่าเทียมให้กับเกษตรกรรายย่อย และเสริมความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นของการค้า ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี ยนแปลงด้านกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ทั วโลก
ในการเสวนาที่มี ศาสตราจารย์ ไซมอน เอส.ซี. เทย์ (Professor Simon S.C. Tay) ประธานสถาบัน Singapore Institute of International Affairs (SIIA) เป็นผู้ดำเนินรายการ ฯพณฯ อาริฟ ฮาวาส อูโกรเซโน (H.E. Arif Havas Oegroseno) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาสมดุลระหว่างประเด็นสิ่งแวดล้อม ความเป็นธรรมทางสังคม และการพัฒนาเศรษฐกิจ ท่ามกลางความท้าทายของมาตรฐานความยั่งยืนที่กำหนดโดยฝ่ายเดียวในภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง “แม้ว่าโลกจะถูกแบ่งออกเป็นภูมิภาค เขตการค้า และพรมแดน แต่ความยั่งยืนเป็นเรื่องสากล เช่นเดียวกับมาตรฐานที่ควรเป็นสากล ความยั่งยืนจะเข้มแข็งยิ่งขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วม”
ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษ ดร. Ravigadevi Sambanthamurthi ประธานสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เกษตรกรรมและสิ งแวดล้อม จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศมาเลเซีย (Academy of Sciences Malaysia) ได้เน้นถึงบทบาทของแนวทางวิทยาศาสตร์ในการขับเคลื อนภาคอุตสาหกรรมน้ํามันปาล์มอย่างยั งยืน เธอกล่าวว่า “วิทยาศาสตร์ได้มอบนวัตกรรมที ก้าวล้ําให้เราแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบดีเอ็นเอเพื อควบคุมคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ไปจนถึงการใช้ประโยชน์จากชีวมวลในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื อส่งเสริมการผลิตอย่างยั งยืน ความท้าทายที ยิ งใหญ่ที สุดของเราวันนี ไม่ใช่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกต่อไป แต่คือการลงมือนําไปปฏิบัติให้เกิดผลจริง” ในฐานะ Fellow ของราชสมาคมแห่งสหราชอาณาจักร (Royal Society) เธอได้เรียกร้องให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นเอกภาพทั วทั งอุตสาหกรรม โดยระบุว่า เทคโนโลยีที ไม่มีการนําไปใช้จริงกําลังทําให้ภาคน้ํามันปาล์มในประเทศต่าง ๆ เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย สูญเสียศักยภาพผลผลิตปาล์มน้ํามันต่อปีสูงถึงราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลําดับ ทั งยังเพิ มความเปราะบางให้กับกลุ่มเกษตรกรรายย่อยด้วย
เกษตรกรรายย่อยกลายเป็นจุดสนใจ
ประเด็นเรื องการเปิดโอกาสให้เกษตรกรรายย่อยเข้ามามีส่วนร่วม ถือเป็นหัวใจสําคัญของเสวนาซึ งจัดขึ นตลอดสามวัน แม้เกษตรกรรายย่อยจะครอบครองพื นที เพาะปลูกปาล์มน้ํามันราว 40% ของพื นที ทั งหมด แต่พวกเขากลับยังคงถูกกีดกันจากตลาดในระดับชาติภูมิภาค และระดับโลก พวกเขาต่างกําลังเผชิญความท้าทายที เพิ มมากขึ น ทั งการชะลอตัวของความต้องการเครดิตของเกษตรกรรายย่อย การตัดงบประมาณภาครัฐสําหรับการพัฒนา และความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ทางการค้าที เกิดจากการเปลี ยนแปลงนโยบายภาษี
“เกษตรกรรายย่อยได้ทํางานหนักเพื อพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถผลิตได้อย่างยั งยืน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั นผ่านการขอรับรองมาตรฐานจาก RSPO” Joseph D’Cruz ประธานเจ้าหน้าที บริหารของ RSPO กล่าว “แต่ตอนนี พวกเขากําลังต้องแบกรับภาระอันหนักหน่วง ขณะที การสนับสนุนกลับลดน้อยลง การรวมเกษตรกรรายย่อยไว้ในห่วงโซ่อุปทานน้ํามันปาล์มที ยั งยืนจึงเป็นสิ งจําเป็นอย่างยิ งสําหรับการเปลี ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมนี อย่างแท้จริง ”
เสียงเรียกร้องร่วมกันจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย ตั งแต่ผู้ปลูกรายใหญ่ ผู้ประกอบการปลายน้ํา องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสังคมและสิ งแวดล้อม ผู้ให้การรับรองและสถาบันการเงิน ต่างเห็นพ้องถึงความจําเป็นในการสร้างแรงจูงใจทางการตลาดที หลากหลายมากขึ น เพื อให้เกษตรกรรายย่อยที ได้รับการรับรองจาก RSPO (Certified Independent Smallholders: ISH) สามารถเข้าถึงตลาดจริงได้โดยตรง การหารือยังได้เสนอแนวทางที เป็นรูปธรรม เช่น การให้ราคาพิเศษ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การแบ่งปันความเสี ยง และการจัดทําสัญญาระยะยาว เพื อเป็นแนวทางที มีศักยภาพในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเกษตรกรรายย่อยในระดับกว้างขึ น
ระหว่างพิธีเปิดงาน Pedro Seijas Cárdenas ผู้จัดการกลุ่มเกษตรกรรายย่อยของสมาคม Asociación de Productores Monte Alegre de Neshuya (APROMAN) จากเปรูกล่าวย้ําว่า “ทุกเครดิตที ขายได้ทุกเฮกตาร์ที ได้รับการรับรอง และทุกชุมชนที เข้มแข็งขึ น ล้วนเป็นเครื องเตือนใจเราว่าน้ํามันปาล์มอย่างยั งยืนไม่ได้ถูกสร้างขึ นในห้องประชุมของบริษัทใหญ่ หากแต่ถูกเพาะปลูกขึ นจากผืนดิน ภายใต้แสงแดด และอยู่ในมือของผู้ที เพาะปลูกความหวัง”
เฉพาะปี 2567 เพียงปีเดียว มีการซื อเครดิตของเกษตรกรรายย่อยอิสระ (Independent Smallholders Credits) จํานวน 284,188 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ งสร้างผลประโยชน์โดยตรงแก่ กลุ่มเกษตรกรรายย่อยที ได้รับการรับรอง RSPO จํานวน 116 กลุ่ม
เพื อเสริมพันธกิจดังกล่าวให้แข็งแกร่งยิ งขึ น ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างสมาคมเกษตรกรรายย่อยแห่งชาติมาเลเซีย (National Association of Smallholders: NASH) วิทยาลัยธุรกิจแห่งเอเชีย (Asia School of Business: ASB) และ RSPO เพื อร่วมกันส่งเสริมการสร้างศักยภาพของเกษตรกรรายย่อยและเปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงตลาดในระดับนานาชาติสําหรับการค้าผลผลิตที ยั งยืน
การเติบโตที ได้รับการรับรอง การอนุรักษ์และผลลัพธ์เชิงประจักษ์
ในปีที ผ่านมา การรับรองมาตรฐาน RSPO ได้ขยายพื นที ไปยังประเทศเซาตูเมและปรินซิปี (São Tomé and Príncipe) รวมถึงศรีลังกา ทําให้พื นที ปลูกปาล์มน้ํามันที ได้รับการรับรองทั วโลกเพิ มขึ นเป็น 5.1 ล้านเฮกตาร์ครอบคลุมกว่า 24 ประเทศ นอกจากนี ยังมีพื นที รวมกว่า 425,597 เฮกตาร์ ที ในปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ภายใต้การรับรองของ RSPO โดยมีขนาดใหญ่กว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ถึง 17 เท่า และมีการกันพื นที ริมแหล่งน้ํา (riparian reserves) อีก 29,469 เฮกตาร์เพื อปกป้องระบบนิเวศสําคัญเหล่านี
D’Cruz กล่าวว่า “แม้ว่าการได้รับการรับรองจะเป็นความสําเร็จที เป็นหมุดหมายสําคัญ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงส่วนหนึ งของเส้นทางแห่งความยั งยืนเท่านั น โลกกําลังก้าวไกลเกินกว่าการวัดผลด้วยจํานวนใบรับรองหรือขนาดพื นที ที ผ่านการรับรอง เรายังต้องแสดงให้เห็นถึงความสําเร็จในมิติของชุมชนที เข้มแข็ง ป่าที ได้รับการคุ้มครอง และเกษตรกรที ได้รับการส่งเสริมศักยภาพ เรากําลังเปลี ยนผ่านจากเศรษฐกิจแห่งตราสัญลักษณ์ ไปสู่โลกที ให้ความสําคัญกับผลลัพธ์เป็นรูปธรรมที วัดประเมินได้จริงและมีหลักฐานรองรับ”
แนวทางนี ถูกนํามาใช้จริงผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสวนสัตว์หงซานแห่งหนานจิง (Nanjing Hongshan Forest Zoo) และ RSPO ด้วยเป้าหมายเพื อส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างการตระหนักรู้เกี ยวกับน้ํามันปาล์มอย่างยั งยืนในประเทศจีน
จากความมุ่งมั่นของ RSPO เพื่อให้เกิดการสนทนาอย่างมีส่วนร่วม RT2025 ยังได้เน้นบทบาทของเยาวชนในการขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่าน YOUth @ RT2025 ซึ่งเป็นกิจกรรมเพิ่มเติม ที่ผู้แทนเยาวชนกว่า 20 คน ได้เชื่อมโยง เรียนรู้ และหารือเกี่ยวกับอนาคตของความยั่งยืน
นอกจากนี การประชุม RT2025 ยังให้การยกย่องสมาชิกผู้มีผลงานโดดเด่นที สะท้อนถึงความมุ่งมั นต่อความยั งยืน ด้วยรางวัล RSPO Excellence Awards ซึ งมอบให้ใน 5 สาขา โดยมีผู้ได้รับรางวัลประกอบด้วย PT Dharma Satya Nusantara ได้รับรางวัลในสาขา Conservation Leadership, Perkumpulan Petani Mitra Harapan ได้รับรางวัล Smallholder Award, Lestari Capital คว้ารางวัลในสาขา Innovation, Wild Asia Group Scheme รับรางวัลในสาขา Communicating for Good และ AAA Oils & Fats ในสาขา Shared Responsibility
เกี ยวกับ RSPO:
องค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ํามันยั งยืน หรือ Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) เป็นความร่วมมือระดับโลกเพื อทําให้น้ํามันปาล์มมีความยั งยืน RSPO ก่อตั งขึ นในปี 2547 เป็นองค์กรไม่แสวงหากําไรแบบพหุภาคี (multi-stakeholder) ที รวบรวมสมาชิกจากทั วทั งห่วงโซ่คุณค่าน้ํามันปาล์ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตปาล์มน้ํามัน ผู้แปรรูปหรือผู้ค้าน้ํามันปาล์ม ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ค้าปลีก ธนาคาร และนักลงทุน องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ด้านสิ งแวดล้อมหรือการอนุรักษ์ธรรมชาติและองค์กรพัฒนาเอกชนเพื อสังคมหรือการพัฒนา
ในฐานะพันธมิตรเพื อความก้าวหน้าและสร้างการเปลี ยนแปลงที ดีขึ น RSPO มุ่งเอื ออํานวยและส่งเสริมให้เกิดการเปลี ยนแปลงในระดับโลก เพื อทําให้การผลิตและการบริโภคน้ํามันปาล์มเป็นไปอย่างยั งยืน ทั งนี เพื อสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี ยนแปลง เราสื อสารให้เห็นถึงคุณค่าทางสิ งแวดล้อมและสังคมของน้ํามันปาล์มที ผลิตอย่างยั งยืน เพื อขับเคลื อนความก้าวหน้า เราทําหน้าที เป็นตัวเร่งให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ และเพื อสร้างความเชื อมั น เรากําหนดและดูแลมาตรฐานการรับรอง
RSPO จดทะเบียนเป็นสมาคมระหว่างประเทศในเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยมีสํานักงานหลักอยู่ในมาเลเซียและอินโดนีเซีย และมีสํานักงานประจําในจีน โคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2813170/Roundtable_On_Sustainable_Palm_Oil_CEO.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More

