Lazada

LED 16,384 ดวงเพื่อปฏิวัติไฟแสงสว่างสำหรับยานยนต์: Nichia และ Infineon เปิดตัวโซลูชัน micro-LED matrix ความละเอียดสูงรายแรกของอุตสาหกรรม

มิวนิก เยอรมนี และโตกุชิมะ ญี่ปุ่น – Media OutReach – 9 มกราคม 2023 – เทคโนโลยีไฟ LED สำหรับยานยนต์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นวิธีการสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในการเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และความปลอดภัยบนท้องถนน ในการนี้ เทคโนโลยี matrix LED สำหรับระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำอัตโนมัติได้กลายมาเป็นคุณสมบัติไฟหน้าที่สำคัญสำหรับความสว่างบนถนนแบบเลือกได้

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว Nichia Corporation และ Infineon Technologies AG (FSE: IFX / OTCQX: IFNNY) ได้ประกาศการพัฒนาร่วมกันของ light engine ความละเอียดสูง (HD) ที่มี micro-LED มากกว่า 16,000 ดวงสำหรับการใช้งานในไฟหน้า ขณะนี้ทั้งสองบริษัทกำลังเปิดตัว micro-LED light engine แบบครบวงจรตัวแรกของอุตสาหกรรมสำหรับการใช้งานระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำอัตโนมัติแบบ HD ซึ่งโซลูชัน micro-LED matrix จะได้เห็นในรถยนต์ระดับพรีเมียมของเยอรมันในปี 2023

“โซลูชัน micro-Pixelated Light Solution ขนาด 16,384 พิกเซล µPLS™ ใหม่ เป็นส่วนเสริมล่าสุดของเราในกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันไฟแสงสว่างยานยนต์ระดับสูงของ Nichia” คุณ Yusuke Yamazaki หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาดยานยนต์ของ Nichia Europe GmbH กล่าว “มันผสมผสานความละเอียดสูงด้วยแสงที่ส่องสว่างได้สูงสุดในอุตสาหกรรม โซลูชันนี้เปิดประสบการณ์ใหม่ของไฟแสงสว่างยานยนต์โดยให้ขอบเขตการมองเห็นที่กว้างขึ้นถึงสี่เท่าพร้อมไฟส่องสว่างที่สูงกว่าโซลูชัน HD matrix-light ที่ใช้ current micro-mirror อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ไฟ HD ขั้นสูงจึงสามารถเตือนผู้ขับขี่ถึงอันตรายได้โดยการเน้นบุคคลหรือวัตถุที่อยู่บนถนนหรือข้างถนน นอกจากนี้ยังสามารถส่องเครื่องหมายบนถนนเพื่อนำทางผู้ขับขี่ผ่านไซต์ก่อสร้างหรือทางแยก

นอกจากนี้ ฟังก์ชันต่าง ๆ อย่างเช่น ไฟสูงแบบไร้แสงสะท้อนหรือไฟแบบปรับองศาตามทิศทางการเลี้ยวที่ทำงานได้แม่นยำและราบรื่นกว่าเมื่อเทียบกับโซลูชันไฟหน้าปรับสูงต่ำอัตโนมัติในปัจจุบัน สิ่งนี้ยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนของผู้ขับขี่และความสะดวกสบายในการขับขี่ไปอีกขั้น”

“µPLS เป็นไดรเวอร์ matrix LED แบบครบวงจรตัวแรกของอุตสาหกรรมที่สามารถขับเคลื่อนไฟ LED ได้ 16,384 ดวง โดยรวมวงจรขับ micro-LED ที่จำเป็นทั้งหมดเข้ากับการวินิจฉัยที่กว้างขวางและวิดีโอความเร็วสูงและอินเทอร์เฟซการควบคุม” คุณ Andreas Doll รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของ Business Unit Body Power แผนกยานยนต์ของ Infineon กล่าว “นวัตกรรม µPLS ของเรานั้นประหยัดพลังงานมากกว่าโซลูชันแสงสว่างแบบ HD matrix ในปัจจุบัน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกและขยายขอบเขตของยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ เรายังเปิดใช้วิสัยทัศน์ให้กับลูกค้าของเราในการปรับใช้ไฟแสงสว่างดิจิทัลเต็มรูปแบบบนท้องถนน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของระบบโดยรวมด้วยฟอร์มแฟคเตอร์ขนาดเล็กมากที่ขนาดของชิปเซมิคอนดักเตอร์ตัวเดียว โดย µPLS เป็นอีกตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการที่ผลิตภัณฑ์ของ Infineon ที่รองรับการแปลงเป็นดิจิทัลและลดการปล่อยคาร์บอนไปสู่สังคม Net Zero”

HD light engine ใหม่ใช้เทคโนโลยี micro-LED ของ Nichia และวงจรขับ (driver IC) LED เบ็ดเสร็จจาก Infineon ที่สามารถขับเคลื่อน micro-LED ทั้งหมด 16,384 ดวงแยกกันโดยใช้การควบคุมแบบ pulse-width modulation (PWM) นอกจากนี้วงจรขับ (driver IC) ยังตรวจสอบ micro-LED แต่ละตัวแยกกันและให้การตรวจสอบอุณหภูมิ on-chip เพื่อให้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเหมาะสม อินเทอร์เฟซวิดีโอในตัวช่วยให้ส่งสัญญาณวิดีโอจากชุดกำเนิดรูปแบบไฟแสงสว่างได้ด้วยความเร็วสูง วงจรขับ (driver IC) ของ Infineon จะเปิดใช้งานเฉพาะไฟ LED ที่จำเป็นสำหรับรูปแบบแสงสว่างเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากโซลูชัน HD matrix ในปัจจุบัน สิ่งนี้เพิ่มประสิทธิภาพพลังงานของ µPLS light engine ที่ฟอร์มแฟคเตอร์ที่เล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับโซลูชัน HD matrix ที่ใช้ micro-mirror ในตลาด

ทั้งนี้ช่วยให้สามารถออกแบบไฟหน้าให้เล็กลงและบางลงได้ในอนาคต นอกจากนี้ HD light engine ใหม่ยังช่วยให้สามารถปรับแต่งค่าต่าง ๆ ที่สามารถตั้งโปรแกรมแบบดิจิทัลที่โรงงานหรือเปิดใช้งานโดยผู้ผลิตรถยนต์หรือผู้ขับขี่ตามความต้องการ ตัวอย่างเช่น สามารถพิจารณาความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ขับขี่ที่ถนัดซ้ายและขวา ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นมิตรต่อผู้ใช้อย่างมาก ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ ไฟ HD ใหม่ช่วยลดความซับซ้อนในการออกแบบและการผลิตสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ได้อย่างมาก

เกี่ยวกับ Nichia Corporation
Nichia มีคติประจำใจว่า “Ever Researching for a Brighter World” และมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและผู้ผลิต LED และเลเซอร์ไดโอดรายใหญ่ที่สุดในโลก Nichia ก่อตั้งขึ้นในปี 1956 ในฐานะผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ และกลายเป็นผู้นำด้านวัสดุเรืองแสง (สารเรืองแสง) อย่างรวดเร็ว ต่อมา Nichia ได้พัฒนาและจำหน่าย LED สีน้ำเงินความสว่างสูงตัวแรกในปี 1993 และ LED สีขาวตัวแรกในปี 1996 มีการพัฒนา LED ที่ใช้ไนไตรด์เพิ่มเติมในสีต่าง ๆ รวมถึงรังสีอัลตราไวโอเลตและเลเซอร์ไดโอดที่มองเห็นได้ Nichia เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของโซลูชันประหยัดพลังงานทั่วโลกในอีกหลายปีข้างหน้า

Nichia จะยังคงเป็นบริษัทที่ทำคุณูปการแก่โลกด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีดั้งเดิมและไม่เหมือนใคร และคติประจำใจที่ว่า “Ever Researching for a Brighter World” ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nichia.com

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Infineon ที่มีต่อ New Mobility: www.infineon.com/cms/en/discoveries/new-mobility/