—ก้าวสู่อนาคตใหม่แห่งปัญญาประดิษฐ์เชิงอุตสาหกรรม
เซี่ยงไฮ้, 21 กันยายน 2568 /PRNewswire/ — Leo Chen รองประธานอาวุโสและประธานฝ่ายจัดจำหน่ายระดับลูกค้าองค์กรของ Huawei แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและแนวปฏิบัติล่าสุดด้านปัญญาประดิษฐ์เชิงอุตสาหกรรมของ Huawei ในงาน HUAWEI CONNECT 2025 ซึ่งรวมถึงเส้นทาง “ACT” สามขั้นตอนของบริษัทสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัจฉริยะ ระหว่างการกล่าวปาฐกถาของ Chen ในหัวข้อ “ก้าวสู่อนาคตใหม่แห่งปัญญาประดิษฐ์เชิงอุตสาหกรรม” Huawei ยังได้เปิดตัวเก้าโซลูชันหลักสำหรับปัญญาประดิษฐ์เชิงอุตสาหกรรมซึ่งพัฒนาร่วมกับพันธมิตรด้วย
ห้าข้อค้นพบสำคัญซึ่งขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์เชิงอุตสาหกรรม
เทคโนโลยี AI พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Chen ตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งนี้ก่อให้เกิดสามคำถามสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจ ได้แก่
- องค์กรจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการลงทุนใน AI จะสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่แท้จริง?
- องค์กรจะใช้ข้อมูลของตนเองเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างไร?
- องค์กรจะช่วยให้กรณีการใช้งาน AI ก้าวข้ามจากโครงการนำร่องไปสู่การใช้งานในวงกว้างได้อย่างไร?
Chen แบ่งปันวิธีที่ Huawei จัดการกับคำถามเหล่านี้ด้วยเรื่องราวความสำเร็จสามประการ
ประการแรก Huawei พัฒนาสถาปัตยกรรมตัวแทนหลัก-ตัวแทนย่อยแบบไดนามิกสำหรับอุตสาหกรรมธนาคารซึ่งผสานความสามารถด้านวิศวกรรมเชิงระบบเข้ากับเวิร์กโฟลว์ของธนาคาร Huawei ช่วยลูกค้าผลักดันการประยุกต์ใช้ AI โดยใช้สถาปัตยกรรมดังกล่าวในสถานการณ์ต่าง ๆ อาทิ การโต้ตอบ การทำธุรกรรม และการควบคุมความเสี่ยง ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเพิ่มรายได้และประสิทธิภาพพร้อมบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
ประการที่สอง China Southern Power Grid ใช้แพลตฟอร์มประมวลผล Ascend ของ Huawei และเฟรมเวิร์ก MindSpore AI เพื่อพัฒนาแบบจำลองขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “MegaWatt” แบบจำลองดังกล่าวทำงานบนคลัสเตอร์ Ascend MoE Expert Parallelism พร้อมผสานวิสัยทัศน์คอมพิวเตอร์และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงประสิทธิภาพการระบุข้อบกพร่องและความเสี่ยงระหว่างการตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าอัจฉริยะได้ห้าเท่า อีกทั้งยังเพิ่มความแม่นยำในการรับรู้ภาพได้มากกว่า 90%
ประการที่สาม Runda Medical ใช้เซิร์ฟเวอร์อนุมาน Ascend ของ Huawei เพื่อพัฒนาโซลูชันอุปกรณ์บันทึกข้อมูลทางการแพทย์ด้วย AI ซึ่งช่วยยกระดับทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพของการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์ นับตั้งแต่มีการนำไปใช้ใน West China Hospital โซลูชันดังกล่าวช่วยให้เวลาในการสร้างบันทึกทางการแพทย์ลดลงเหลือประมาณหนึ่งวินาที ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้คำปรึกษาของโรงพยาบาลได้อย่างมาก
Chen จึงแบ่งปันข้อค้นพบสำคัญห้าประการที่ Huawei ได้พัฒนาขึ้นตลอดโครงการเหล่านี้ตลอดจนโครงการที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงอัจฉริยะอื่น ๆ ไว้ดังนี้
ข้อแรก การเลือกสถานการณ์จำลองที่เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้งานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลง คุณค่าของ AI อยู่ที่ความสามารถในการปฏิรูปกระบวนการต่าง ๆ พร้อมส่งเสริมการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการอัจฉริยะ เมื่อบูรณาการอย่างลึกซึ้งกับสถานการณ์การผลิตหลัก
ข้อสอง ความสามารถของแบบจำลองเฉพาะอุตสาหกรรมขึ้นอยู่กับข้อมูลแนวตั้งคุณภาพสูง แบบจำลองทั่วไปมักประสบปัญหาเมื่อนำไปใช้ในสถานการณ์อุตสาหกรรมต่าง ๆ แบบจำลองซึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดคือแบบจำลองที่ผ่านการฝึกอบรมและปรับแต่งอย่างละเอียดโดยอิงจากข้อมูลอันเป็นกรรมสิทธิ์คุณภาพสูงจำนวนมหาศาล ซึ่งจะแปลงข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นแบบจำลองเฉพาะอุตสาหกรรม แบบจำลองเฉพาะอุตสาหกรรมเหล่านี้กลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญสำหรับองค์กรต่าง ๆ
ข้อสาม อุปสงค์ด้านการอนุมานขนาดใหญ่จะยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานได้อย่างอิสระซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอุปสงค์ดังกล่าว
ข้อสี่ ความร่วมมือระหว่างมนุษย์และ AI กำลังกลายเป็นกระบวนทัศน์ใหม่ขององค์กร
ข้อห้า การกำกับดูแลอย่างเป็นระบบและการบริหารความเสี่ยงกำลังมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย ผลักดันให้หลายองค์กรมุ่งสู่การกำกับดูแลซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป้าหมายของการกำกับดูแลนี้คือการสร้างหลักประกันความปลอดภัย ยั่งยืน และความน่าเชื่อถือของ AI
เส้นทาง “ACT” สำหรับปัญญาประดิษฐ์เชิงอุตสาหกรรม
เส้นทาง “ACT” สามขั้นตอนที่ Huawei เสนอนี้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการนำ AI มาใช้ในทุกอุตสาหกรรม โดย ACT ย่อมาจาก: การประเมินสถานการณ์ที่มีมูลค่าสูง, การปรับเทียบแบบจำลอง AI โดยใช้ข้อมูลแนวตั้ง และการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจด้วยโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานได้อย่างอิสระ (เอเจนต์ AI) ซึ่งมีการปรับขนาด
Huawei ประเมินสถานการณ์ที่มีมูลค่าสูงโดยใช้กรอบการประเมินสถานการณ์ AI จำลองเพื่อคาดการณ์มูลค่าทางธุรกิจ ความสมบูรณ์ของสถานการณ์ ตลอดจนการบูรณาการระหว่างธุรกิจและเทคโนโลยี กรอบการทำงานนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถระบุสถานการณ์การผลิตหลัก ๆ สำหรับการนำ AI มาใช้ได้มากกว่า 1,000 สถานการณ์
บริษัทยังนำเสนอชุดเครื่องมือและระบบป้องกันความปลอดภัย AI แบบครบวงจร เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถสอบเทียบแบบจำลองทั่วไปและสร้างแบบจำลองเฉพาะอุตสาหกรรมได้ ชุดเครื่องมือนี้ใช้ข้อมูลแนวตั้งเพื่อแปลงข้อมูลดิบขององค์กรให้เป็นความรู้ และแปลงความรู้ให้เป็นแบบจำลอง
สำหรับขั้นตอนสุดท้ายของเส้นทาง ACT ซึ่งคือการพลิกโฉมการดำเนินธุรกิจด้วยเอเจนต์ AI ที่มีการปรับขนาด Huawei มีแพลตฟอร์ม Versatile แบบครบวงจรซึ่งสามารถสร้างเอเจนต์ AI และเวิร์กโฟลว์แบบต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ พร้อมขั้นตอนการทำงานมากกว่า 100 ขั้นตอน แพลตฟอร์มดังกล่าวผลักดันการใช้งานเอเจนต์ AI นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาโปรแกรมส่งเสริมความสามารถด้าน AI เพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจสามารถพัฒนา ปรับใช้ และดำเนินการเอเจนต์ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรต่าง ๆ ซึ่งต้องการเดินตามเส้นทาง ACT จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เน้น AI ซึ่งครอบคลุมกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การเตรียมและเคลื่อนย้ายข้อมูล ไปจนถึงการฝึกอบรม การอนุมาน และการพัฒนาแบบจำลอง Chen เน้นย้ำว่า Huawei ยังคงพัฒนานวัตกรรมด้านการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และเครือข่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว รวมถึงกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการที่ช่วยให้กระบวนการดังกล่าวง่ายขึ้นสำหรับลูกค้า ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ได้แก่ ปลั๊กอินสำหรับจัดเก็บข้อมูล AI และ Unified Cache Manager, โซลูชันเครือข่ายศูนย์ข้อมูลความเร็วสูง 800GE, โมดูลออปติคัล StarryLink ที่มีความน่าเชื่อถือสูงของบริษัท และ Ascend AI SuperPoD 384
งานเปิดตัว: เก้าโซลูชันที่พัฒนาร่วมกันสำหรับระบบอัจฉริยะเชิงอุตสาหกรรม
Huawei กำลังส่งเสริมระบบนิเวศความร่วมมือ “Huawei + Partners” ซึ่งกำลังพัฒนาผ่านโครงการริเริ่มหลักสามประการ ได้แก่ การเปิดเสรีซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบต่าง ๆ แพลตฟอร์มและเครื่องมือสำหรับพันธมิตร และการนำแนวปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จมาประยุกต์ใช้อย่างรวดเร็วผ่านการแบ่งปันประสบการณ์ในอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ระบบนิเวศของ Huawei ดึงดูดพันธมิตร Kunpeng กว่า 6,300 ราย พันธมิตร Ascend 2,700 ราย บริษัทที่ปรึกษา 70 แห่ง และผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ 750 ราย
ก่อนจบการบรรยายหลัก Huawei เปิดตัวเก้าโซลูชันหลักสำหรับระบบอัจฉริยะทางอุตสาหกรรมซึ่งพัฒนาขึ้นร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ โซลูชัน City AI Center & Foundation Model, โซลูชัน Intelligent Computing Labs, โซลูชัน Medical Technology Digital and Intelligence 2.0, โซลูชัน Banking AI and Foundation Model, โซลูชัน Intelligent Manufacturing R&D, โซลูชัน SMART Logistics & Warehousing, โซลูชัน Intelligent Distribution, โซลูชัน Intelligent Exploration and Development สำหรับน้ำมันและก๊าซ รวมถึงโซลูชัน Steel Blast Furnace Temperature Prediction
View original content to download multimedia: Read More