CGTN: จีนกระชับความสัมพันธ์สิงคโปร์ หวังร่วมมือร่วมใจให้แข็งแกร่งมั่นคง

นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์กับไชนา มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group) เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับจีนนั้น “ดีมาก” โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ

ก่อนที่ผู้นำสิงคโปร์จะส่งท้ายการเดินทางตลอดทั้งสัปดาห์ ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์เพื่อเป็นพันธมิตรที่ “ครอบคลุม มีคุณภาพ และสอดรับกับอนาคต” เมื่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พบกับนายลี เซียนลุง ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ปธน.สี เปิดเผยว่า สิงคโปร์มีส่วนร่วมในการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีนอย่างลึกซึ้งที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันอย่างใกล้ชิดที่สุดด้วย

ผู้นำจีนเสริมว่า จีนพร้อมเสริมสร้างการสื่อสารในทางยุทธศาสตร์ และกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นขึ้นในเรื่องยุทธศาสตร์กับฝั่งสิงคโปร์ เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสองชาติมีความโดดเด่นในแง่ “คุณภาพ”

แบบอย่างความสัมพันธ์ในระดับภูมิภาค

จีนและสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งและครอบคลุมรอบด้าน โดยตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2564 จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์เป็นเวลา 9 ปีติดต่อกัน ขณะที่สิงคโปร์เป็นแหล่งเงินทุนต่างประเทศที่มากที่สุดของจีนติดต่อกันเป็นปีที่ 10 ในปี 2565

ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2566 นั้น จีนและสิงคโปร์นำเข้าและส่งออกคิดเป็นมูลค่ารวมกัน 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีน

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นประเทศแรก ๆ ในบรรดาชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ทั้ง 10 ที่ออกตัวสนับสนุนโครงการที่จีนเสนออย่างข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) และยังเป็นสมาชิกกลุ่มแผนริเริ่มการพัฒนาโลก (Global Development Initiative หรือ GDI) ด้วย

ระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบก-ทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) เป็นโครงการความร่วมมือคุณภาพสูงระหว่างจีนกับสิงคโปร์ตามข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง มีตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งโดยรถไฟขนส่งสินค้าทางรางและทางทะเลรวม 107,000 TEU ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 9.25% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ในระหว่างการพบปะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ปธน.สีได้ยกย่องจีนและสิงคโปร์ว่าเป็นพันธมิตรรายสำคัญ โดยยกให้เป็นความสัมพันธ์ที่ “สอดรับกับอนาคต มียุทธศาสตร์ และเป็นแบบอย่างอันดี”

ประธานาธิบดีจีนเปิดเผยว่า สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยเร่งการฟื้นฟูการพัฒนาของแต่ละประเทศเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นต้นแบบให้กับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคด้วย

จีนยินดีที่จะเดินหน้าเสริมสร้างระเบียงการค้าร่วมกับสิงคโปร์ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังควรยกระดับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้ล้ำลึกกว่าเดิม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือกับบุคคลที่สาม พร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนระหว่างสองประเทศด้วย

ด้านนายลี เซียนลุง ได้แสดงความเชื่อมั่นในความมีชีวิตชีวาและความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจจีน โดยตอกย้ำข้อความที่เขาได้เน้นย้ำเอาไว้ในการประชุมโป๋อ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia หรือ BFA) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

นายลี เซียนลุง เปิดเผยว่า สิงคโปร์และประเทศเพื่อนบ้านแห่งอื่น ๆ หวังกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ประโยชน์จากความสงบสุข

รายงานจากการประชุมโป๋อ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย เปิดเผยว่า เอเชียได้รับการยกย่องว่าเป็น “แสงสว่างในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่มืดมน” โดยการกำกับดูแลเศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่ “ยุคสมัยของเอเชีย”

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของเอเชียในปี 2566 คาดว่าน่าจะโตประมาณ 4.5% เพิ่มขึ้นจาก 4.2% ในปี 2565 โดยเอเชียน่าจะเข้ามาเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมด้วย

ปธน.สีเปิดเผยระหว่างพูดคุยกับผู้นำสิงคโปร์ว่า แรงผลักดันที่ดีในภูมิภาคนี้เป็นผลจากเส้นทางการพัฒนาที่มีลักษณะเฉพาะแบบฉบับของเอเชียที่สะท้อนให้เห็นความเป็นอิสระ ความเคารพซึ่งกันและกัน ความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน ความเปิดกว้างและความครอบคลุม และความร่วมมือที่ให้ประโยชน์ทุกฝ่าย

เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษ ประเทศในภูมิภาคนี้ควรรักษาพลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่ช่วงชิงมาได้ เพื่อร่วมกันปกป้องผลประโยชน์แห่งสันติภาพในภูมิภาค

ขณะเดียวกัน ปธน.สียังเรียกร้องให้เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจและการบูรณาการในระดับภูมิภาคให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง และคัดค้านความพยายามใด ๆ ในการทำให้ “ซัพพลายเชนแตกแยกออกจากกัน”

ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า “ไม่ควรปล่อยให้ประเทศใดลิดรอนสิทธิของชาวเอเชียในการมีชีวิตที่ดีและมีความสุขขึ้น”

นายลี เซียนลุง เปิดเผยว่า สิงคโปร์เชื่อว่าประเทศต่าง ๆ ควรเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และทำงานร่วมกัน เพื่อจัดการกับความเสี่ยงและปัญหาท้าทายต่าง ๆ

แม้ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน แต่ก็ควรอยู่บนพื้นฐานของความเคารพและความไว้วางใจ โดยไม่ควรมีการเลือกข้าง

นายลี เซียนลุง ได้เน้นย้ำในประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันว่า เกือบทุกประเทศในโลกยอมรับว่ามีจีนเดียว และพัฒนาความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรและร่วมมือกับจีนบนพื้นฐานของนโยบายจีนเดียว

นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เตือนว่า ประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันถือเป็นเรื่องภายในของจีน และการป่าวประกาศว่า “วันนี้ยูเครน พรุ่งนี้ไต้หวัน” จะส่งผลอย่างร้ายแรงและคาดเดาไม่ได้

https://news.cgtn.com/news/2023-03-31/Xi-Jinping-meets-Singaporean-prime-minister-1iCPhk5YmVG/index.html