ผื่นลมพิษขึ้น ภูมิคุ้มกันไม่ดี อาการใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

โรคลมพิษ คัน และตุ่มผื่นแดง อาจดูไม่ร้ายแรง แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเนื่องจากหากภูมิคุ้มกันตกต่ำ ระบบเลือด และระบบน้ำเหลืองเกิดการอุดตันคั่งค้างในร่างกาย จะทำให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง ผื่นคัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลมพิษที่มักเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ บางรายเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง และหากปล่อยทิ้งไว้เรื้อรังจะทำให้เกิดความไม่สบายตัว และส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้เป็นลมพิษได้

พท.ป.ฐิตารีย์ สุนทรพิสิทธิ์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ กล่าวว่า “ลมพิษ เป็นผื่นผิวหนังที่มีลักษณะตั้งแต่เป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ จนเป็นปื้นนูนแดง ขนาดรูปร่างต่างกันไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณใบหน้า
แขน ขา และลำตัว มีอาการคันหรือแสบร้อนในบริเวณที่เป็น ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่าง ๆ ทั้งปัจจัยภายในหรือภายนอกร่างกาย โดยผื่นมักจะขึ้นไม่เกิน 24 ชั่วโมง และจะค่อย ๆ จางหายไปเอง ถ้าผื่นลมพิษขึ้นเป็นประจำทุกวันจะเรียกว่า ลมพิษเรื้อรัง ซึ่งในบางรายอาจมีอาการของลมพิษขั้นรุนแรง เช่น ปวดท้อง แน่นจมูกหรือหายใจติดขัด สาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นลมพิษมาจากระบบเลือดน้ำเหลือง และภูมิคุ้มกันของร่างกาย เนื่องจากระบบเลือดน้ำเหลืองประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่มีความไวต่อปัจจัยที่มากระตุ้น เช่น อาหารหรืออากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการสัมผัสฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เป็นต้น ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีการหลั่งสารออกมาสู่ระบบเลือดน้ำเหลืองและเซลล์อวัยวะต่าง ๆ เช่น ฮีสตามีน และสารอื่น ๆ ที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัวแล้วเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้มีอาการผื่นคันบวมแดง รวมไปถึงอาการรุนแรงอย่างน้ำมูกไหล แน่นจมูกและหายใจติดขัดได้ ซึ่งการรักษาทางการแพทย์แผนไทย การดื่มน้ำ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของหมักดอง หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น มาม่า ปลากระป๋อง อาหารแช่แข็ง ของทอด ของมัน อาหารทะเล และอาหารที่มียีสต์ เช่น ขนมปัง เหล้าเบียร์ การหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จะช่วยทำให้ระบบเลือดและน้ำเหลือง ได้รับการฟื้นฟูและเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอาการแพ้ได้”

“นอกจากนี้การรักษาโดยการรับประทานสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลระบบเลือด
และแก้น้ำเหลืองเสีย ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย เช่น หัวยาข้าวเย็นทั้ง 2 ได้แก่ ข้าวเย็นเหนือและข้าวเย็นใต้ ที่มีสรรพคุณทางการแพทย์แผนไทยในการแก้ผดผื่นคัน แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ประดง (ไข้ออกผื่น) ซึ่งสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดนี้ยังมีรายงานการวิจัยที่พบว่ามีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ
และเสริมภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย” พท.ป. ฐิตารีย์ กล่าวปิดท้าย

ยาแคปซูลจากสมุนไพร ตรา M•HERBS เป็นอีกหนึ่งยาสมุนไพรไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไทยมาอย่างยาวนาน มีการคิดค้น วิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนได้ขึ้นทะเบียนยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ รวมถึงได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ ประจำปี 2564 จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข โดยในตัวยามีส่วนประกอบของ เห็ดกระถินพิมาน ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ และตัวยาอื่น ๆ มีสรรพคุณแก้น้ำเหลืองเสีย และบรรเทาอาการผดผื่นคัน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 02 117 9899 หรือแอดไลน์ @natureherbinter หรือเว็บไซต์ www.natureherbinter.com