เจดีด็อทคอม (JD.com) ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 6 ของบริษัทที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดในโลกสำหรับประเภทบริการทางอินเทอร์เน็ตและผู้ค้าปลีกในรายงานฟอร์จูน 2022 (FORTUNE 2022) บริษัทที่ติดอันดับ Top 8 ได้แก่ แอมะซอน, อัลฟาเบท, เสียวหมี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นับเป็นครั้งที่สองติดต่อกันแล้วที่เจดีด็อทคอมติดอันดับในลิสต์นี้ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยฟอร์จูนร่วมกับพันธมิตรอย่างคอร์น เฟอร์รี่ (Korn Ferry) ด้วยการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหาร, กรรมการผู้จัดการ และนักวิเคราะห์กว่า 3,700 คน เพื่อประเมินชื่อเสียงและผลงานของบริษัท อีกทั้งยังมีการใช้หลักเกณฑ์ต่าง ๆ รวม 9 ประการเพื่อประเมินด้วย เช่น มูลค่าการลงทุนระยะยาว, ความรับผิดชอบต่อสังคม, คุณภาพผลิตภัณฑ์/บริการ, นวัตกรรม, ความสามารถในการแข่งขันระดับสากล เป็นต้น
เจดีด็อทคอมทำคะแนนด้าน “ความรับผิดชอบต่อสังคม” ได้เป็นอันดับหนึ่งในบรรดาบริษัทจีนในการจัดอันดับครั้งนี้ และได้แสดงให้เห็นถึงผลงานชั้นเลิศในด้าน “การใช้สินทรัพย์ของบริษัท”, “มูลค่าการลงทุนระยะยาว” และ “คุณภาพผลิตภัณฑ์/บริการ”
ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เจดีด็อทคอมได้ดำเนินการอย่างแข็งขันด้วยการบริจาคเครื่องมือแพทย์และอาหาร และได้ใช้คลังสินค้าและทรัพยากรด้านการขนส่งทั่วประเทศจีนของบริษัทในการช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น ขณะเดียวกัน การยึดมั่นในหลักซัพพลายเชนสีเขียวและระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของเจดีในปีที่ผ่านมาก็ได้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมด้วยปฏิบัติการขนาดใหญ่ของบริษัท ผ่านการใช้พลังงานสะอาด, การลดปริมาณบรรจุภัณฑ์, การรีไซเคิลสินค้ามือสอง และอื่น ๆ
นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา เจดีได้สนับสนุนให้พื้นที่ชนบทของจีนมีผลผลิตอุตสาหกรรมรวมมูลค่า 3.20 แสนล้านหยวน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านโครงการฟื้นฟูชีวิตให้ชนบท ด้วยเป้าหมายผลักดันให้เกิดมูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมรวม 1 ล้านล้านหยวนภายใน 3 ปี
ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพของซัพพลายเชนอย่างต่อเนื่อง เจดีจึงบรรลุเป้าหมายเวลาหมุนเวียนสินค้าคงเหลือเพียง 30 วันภายในไตรมาส 3/2564 รวมถึงทำผลงานระดับสากลในด้านการจัดการ SKU ที่บริหารตัวเองกว่า 10 ล้านหน่วย และทำการจัดส่งในขั้นตอนสุดท้ายในเวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมงได้ในกว่า 300 เมืองในประเทศจีน ทำให้สามารถส่งมอบโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับแบรนด์และพันธมิตร ตลอดจนมอบประสบการณ์ชอปปิงระดับพรีเมียมให้ผู้บริโภคทั่วประเทศจีน
ในช่วงที่ผ่านมา เจดีได้ใช้นวัตกรรมช่วยขยายกิจการสู่ระดับสากล ในเดือนม.ค. 2565 เพียงเดือนเดียว เจดีได้เปิดร้านค้าปลีกที่ใช้หุ่นยนต์แห่งแรกในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นจุดซื้อขายแบบหลายช่องทางในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก เพื่อสำรวจเส้นทางสู่อนาคตให้ภาคการค้าปลีก และหลังจากนั้นในวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกับชอปปิฟาย (Shopify) ด้วยช่องทาง “เร่งด่วน” เพื่อช่วยให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์จากต่างชาติเข้ามาจำหน่ายในตลาดจีนได้ และจากจีนสู่ประเทศอื่น ๆ เช่นกัน
ปัจจุบัน เครือข่ายซัพพลายเชนทั่วโลกของเจดีครอบคลุมกว่า 220 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก โดยฝ่ายโลจิสติกส์ระหว่างประเทศของบริษัทจัดคลังสินค้าทัณฑ์บนและคลังสินค้าในต่างประเทศราว 80 แห่ง รวมถึงเที่ยวบินขนส่งสินค้าระหว่างจีน สหรัฐ สหราชอาณาจักร และประเทศไทย ด้วยการร่วมมือกับผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศ รถไฟ ทะเล และรถบรรทุก ตลอดจนการขนส่งระหว่างประเทศด้วยวิธีอื่น ๆ คำสั่งซื้อจากต่างประเทศจึงสามารถจัดส่งได้รวดเร็วที่สุดเพียง 48 ชั่วโมง
หลายปีที่ผ่านมา เจดีด็อทคอมได้เปลี่ยนแปลงจนกลายมาเป็นผู้ให้บริการและพัฒนาเทคโนโลยีด้านซัพพลายเชนชั้นนำ โครงสร้างพื้นฐานด้านการค้าปลีกอันล้ำยุคของบริษัทเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอะไร เมื่อไหร่ หรือที่ใด ขณะที่กิจการของบริษัทเติบโตยิ่งขึ้นไป ทางบริษัทก็นำเสนอความสามารถด้านการค้าปลีก โลจิสติกส์ และเทคโนโลยี เพื่อเป็นพลังให้กับพันธมิตรและผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเดียวกันนอกเหนือจากอีโคซิสเต็มของเจดี
เจดีให้คำนิยามตัวเองว่าเป็น “วิสาหกิจเพื่อเศรษฐกิจที่แท้จริงในรูปแบบใหม่” ที่มีทั้งความสามารถด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ประกอบเข้ากับดีเอ็นเอและคุณลักษณะของธุรกิจที่จับต้องได้จริง ลักษณะทั้งสองด้านนี้ทำให้เจดีสามารถทำความเข้าใจการพัฒนาวิสาหกิจแบบดั้งเดิมในหลากหลายอุตสาหกรรม และมอบการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีให้กับธุรกิจเหล่านี้เพื่อตอบโจทย์ด้านความต้องการในการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างดีที่สุด