วันแรกของการประชุมแอสปายร์ อคาเดมี โกลบอล ซัมมิท ประจำปี 2565 (Aspire Academy Global Summit 2022 หรือ AAGS) ที่จัดร่วมกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (FIFA) ปิดฉากลงด้วยงานกาล่าดินเนอร์ ที่คุณจานนี อินฟานติโน (Gianni Infantino) ประธานฟีฟ่า ได้กล่าวชื่นชมผลงานของเหล่าตัวแทนในการประชุม AAGS ครั้งที่ 8 นี้
ช่วง “คุยกับดารา” (Star Chat) ในงานเลี้ยงภาคค่ำนี้ คุณเดวิด เบ็คแฮม (David Beckham) อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ได้มาร่วมพูดคุยถึงมรดกของแอสปายร์ อคาเดมี ที่มีผลกระทบต่อของกาตาร์ ผู้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2565 โดยความเห็นของเบ็คแฮมมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ตัวแทนจาก 32 ชาติที่สามารถฝ่าฟันเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบ 32 ทีมสุดท้ายและสมาชิกของแอสปายร์ อิน เดอะ เวิลด์ เฟลโลวส์ (Aspire in the World Fellows) ร่วมถกกันในหัวข้อสร้างแรงบันดาลใจต่าง ๆ ที่แอสปายร์ อคาเดมี ตั้งแต่การพัฒนาเยาวชนไปจนถึงการใช้ข้อมูล
คุณอินฟานติโนกล่าวต้อนรับว่า “ผลงานที่คุณทำอยู่นี้ ทำให้เราในฐานะแฟนลูกหนังรู้สึกหัวใจพองโตได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อเราได้เห็นฝีเท้าของเหล่านักเตะรุ่นใหม่”
“การที่เราได้เห็นผู้เล่นทุกคนที่คุณฝึกฝน และผลงานในสนามที่เราทุกคนได้เห็นและชื่นชม มันเข้าถึงอารมณ์และประทับใจเราอย่างยิ่ง”
“มันทำให้พวกเขาโห่ร้อง ทำให้พวกเขาเฉลิมฉลอง และทำให้พวกเราทุกคนตกหลุมรักในความสวยงามของกีฬาชนิดนี้”
ในช่วง “คุยกับดารา” คุณเบคแฮมกล่าวถึงมรดกของกาตาร์ในการเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก 2565 และพลังของฟุตบอลในฐานะกีฬาแห่งความสามัคคี
“ดูไปที่แอสปายร์สิ นั่นแหละผลงานที่เป็นมรดก” คุณเบคแฮมกล่าว
“คุณควรสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นต่อไปอยากเล่นฟุตบอล และมันไม่ใช่แค่เพื่อการเป็นนักเตะอาชีพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงทุนในด้านความเป็นอยู่ ในด้านสุขภาพ และในด้านอนาคตซึ่งไม่จำกัดอยู่เฉพาะในกาตาร์ แต่รวมถึงทั้งภูมิภาคด้วย มันเป็นเรื่องของนักฟุตบอลรุ่นต่อไป หรือนักกีฬาดาวเด่น หรือแค่คนที่รักสุขภาพและเอ็นจอยกับกีฬา”
หลายประเด็นที่พูดถึงโดยคุณเบ็คแฮมและคนอื่น ๆ ถูกหยิบยกไปถกกันต่อในวันที่ 2 ของการประชุม AAGS
ในช่วง “คุยกับดารา” ของวันที่ 2 เริ่มกันที่คุณจิล เอลลิส (Jill Ellis) โค้ชคนเก่งซึ่งนำพาทีมคว้าชัยฟุตบอลโลกหญิง (Women’s World Cup) ได้ถึง 2 สมัย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสโมสรซานดิเอโก เวฟ (San Diego Wave) ในสหรัฐ เธอเปิดเผยว่า สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับเธอคือการพยายามทำให้ดีขึ้นทุกวัน และความล้มเหลวนั้นก็มีส่วนช่วยให้เกิดพัฒนาตัวเองในกระบวนการนี้ได้
“ความล้มเหลวจะให้ทั้งฟีดแบ็กและโอกาสแก่คุณ” คุณเอลลิสกล่าว
เธอชี้ให้เห็นว่า หลังจากที่คว้าชัยในแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงปี 2558 สหรัฐก็พลาดท่าไปอย่างน่าผิดหวังในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2559 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะล้มเหลว แต่ 3 ปีต่อมา เหล่านักเตะก็ยังรักษาตำแหน่งแชมป์โลกไว้ได้ เธออธิบายว่า หลังจากมองเห็นจุดบอดที่ต้องปรับปรุงแล้ว พวกเขาก็เริ่มมองหาผู้เล่นที่สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ แม้อาจจะไม่ได้แก้ทันทีแต่ก็พร้อมสำหรับการดวลแข้งในปี 2562 นอกจากนี้ คุณเอลลิสยังเน้นย้ำถึงบทบาทของนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและนักจิตวิทยาของทีมในการช่วยให้ทีมของเธอประสบความสำเร็จ
ต่อมา “คุยกับดารา” ช่วงที่ 2 ของวันนั้นพบกับคุณยูริ จอร์เกฟฟ์ (Youri Djorkaeff) ผู้ชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2541 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเขาได้ทำนายการแข่งขันฟุตบอลโลกในกาตาร์ครั้งนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
“การเริ่มแข่งในช่วงกลางฤดูกาลจะทำให้เราเห็นความแตกต่างออกไป” คุณจอร์เกฟฟ์กล่าว
“การแข่งขันฟุตบอลแบบทัวร์นาเมนต์กับการแข่งในระดับสโมสรนั้น เป็นคนละเรื่องกันเลย”
คุณจอร์เกฟฟ์สนับสนุนให้นักเตะเยาวชนทำตามความฝัน โดยเล่าว่าตอนที่เขาอายุ 12 ปี เขาเคยเขียนเรียงความที่โรงเรียนว่าอยากชนะการแข่งขันฟุตบอลโลก และหลังจากที่เขาทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ในปี 2541 ครูก็ส่งเรียงความฉบับนั้นกลับไปให้เขาพร้อมบอกว่า ครูเชื่อมั่นในตัวเขา
และแล้วกิจกรรมทั้ง 2 วันก็จบลงด้วยการแชร์ผลลัพธ์ของการเวิร์กช็อปด้านเทคนิคใน 3 หัวข้อ ได้แก่ การสร้างผลกระทบด้วยข้อมูล การเตรียมความพร้อมผู้เล่นและทีมสำหรับการแข่งขัน และการเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การฟื้นตัว
ผู้ร่วมประชุมได้สรุปความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากการอภิปรายออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้
เราไม่สามารถพึ่งพาแต่ข้อมูลเพียงอย่างเดียวได้ เพราะข้อมูลนั้นเป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจ
สนับสนุนนักเตะอย่างเต็มที่เสมอ และตระหนักว่า ในการเตรียมทีมสำหรับการแข่งขัน ไม่มีสูตรสำเร็จหนึ่งเดียวที่ใช้ได้กับทุกคน
กลยุทธ์ในการปรับตัวและปัจเจกบุคคลคือกุญแจสำคัญในการฟื้นตัว
ติดต่อ:
ราวัน ยูซิฟ (Rawan Yousif)
โทร. +974 33475991
อีเมล: rawan.yousif@qanect.com
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1914305/Aspire_Academy.jpg