“อาร์ตูร์ โกเมส” เชฟหนุ่มจากโปรตุเกส คว้ารางวัลความรับผิดชอบต่อสังคม ในการแข่งขันเฟ้นหาเชฟดาวรุ่ง ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ประจำปี 2565-2566

เชฟหนุ่มจากโปรตุเกสซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มประเทศในคาบสมุทรไอบีเรีย ได้รับการยกย่องจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความยั่งยืนในทุกขั้นตอนของการทำอาหาร

ก่อนที่การแข่งขันเฟ้นหาเชฟดาวรุ่ง ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy) ประจำปี 2565-2566 รอบสุดท้ายจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองมิลาน ในวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม 2566 ทางซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี มีความยินดีที่จะประกาศว่า อาร์ตูร์ โกเมส (Artur Gomes) เชฟหนุ่มจากโปรตุเกส เป็นผู้ชนะรางวัลความรับผิดชอบต่อสังคม (S.Pellegrino Social Responsibility Award) ที่โหวตโดยสมาคมร้านอาหารยั่งยืน (The Sustainable Restaurant Association)

ดูข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ https://www.multivu.com/players/uk/9183151-young-chef-artur-gomes-winner-spellegrino-social-responsibility-award/

รางวัลนี้เป็นหนึ่งในสามรางวัลรองของการแข่งขันซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ซึ่งมอบให้กับเชฟผู้รังสรรค์เมนูซิกเนเจอร์ที่สะท้อนให้เห็นว่า อาหารจะดีกว่าเดิมเมื่อรังสรรค์ด้วยแนวปฏิบัติที่รับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสื่อถึงข้อความอันทรงพลังของความยั่งยืน

เชฟโกเมสมีความโดดเด่นที่สุดท่ามกลางเชฟรุ่นใหม่ไฟแรง 15 คนซึ่งเป็นผู้ชนะในภูมิภาคของตนเอง และสามารถคว้ารางวัลระดับโลกไปครองด้วยเมนูซิกเนเจอร์ “Vale das Lobas” Celeriac

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลนี้ซึ่งมีความสำคัญต่อผมมาก” เชฟโกเมสกล่าว “ความรับผิดชอบต่อสังคมควรเป็นพันธกิจร่วมกันไม่ใช่แค่ในร้านอาหารเท่านั้น ผมรังสรรค์เมนูนี้ขึ้นมาเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าความยั่งยืนควรเริ่มตั้งแต่ระดับชุมชน วงการอาหาร ไปจนถึงระดับภูมิภาค ผมหวังว่าการก่อสร้างที่ยั่งยืน การทำเกษตรกรรมฟื้นฟู และการจัดการทรัพยากร จะมีส่วนช่วยฟื้นฟูผืนดินและชุมชน”

จูเลียน กายลูเอตต์ โนเบิล (Juliane Caillouette Noble) จากสมาคมร้านอาหารยั่งยืน กล่าวเสริมว่า “เราภูมิใจที่ได้มอบรางวัลนี้ให้แก่เชฟอาร์ตูร์ โกเมส เมนูซิกเนเจอร์ของเขาสะท้อนภาพภูมิทัศน์ในชนบททางตอนเหนือของโปรตุเกส โดยไม่เพียงใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเท่านั้น แต่ยังชูการทำเกษตรกรรมฟื้นฟูที่คำนึงถึงสภาพดินและสภาพอากาศเป็นหลักด้วย เชฟอาร์ตูร์ตระหนักดีว่าความรับผิดชอบต่อสังคมต้องควบคู่ไปกับความรับผิดชอบทางการเงินและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ร้านอาหารสามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือ พร้อมกับสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างแรงบันดาลใจและให้พลังบวก”

เพื่อบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหาร ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี จึงได้จัดเวิร์กชอปสร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายจากทุกภูมิภาค เพื่อเจาะลึกในประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในวงการอาหาร โดยในการจัดเวิร์กชอป “ความยั่งยืน 360 องศา” ที่ดำเนินรายการโดย ทอม เจนกินส์ (Tom Jenkins) นักข่าวของนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส (Fine Dining Lovers) และโฆษกของอคาเดมีนั้น เหล่าเชฟรุ่นใหม่ที่เข้าชิงรางวัลความรับผิดชอบต่อสังคมได้มาร่วมพูดคุยเชิงลึกกับสมาชิกผู้ทรงเกียรติของชุมชนเชฟนานาชาติ ได้แก่ คามิลลา ซีดเลอร์ (Kamilla Seidler), เจฟฟรีย์ เวลลา (Jeffrey Vella), ซูซานน์ บาร์ (Suzanne Barr) และ แดเนียล กอตต์ชลิช (Daniel Gottschlich) รวมถึง มอลลี แมกโดนัลด์ (Molly McDonald) และ อิซาเบล มาร์ติน (Isabel Martin) จากสมาคมร้านอาหารยั่งยืน

ทั้งหมดได้ร่วมกันสำรวจแนวทางสู่ความยั่งยืนซึ่งครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ และหารือถึงวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารค่านิยมเหล่านี้ ในโอกาสนี้ ทอม เจนกินส์ ได้เน้นย้ำข้อความสำคัญว่า “ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นประเด็นร้อนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ประเด็นที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดในเวิร์กชอปคือประเด็นเรื่องความยั่งยืนของมนุษย์ รวมถึงการสร้างอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น เป็นธรรมขึ้น และปลอดภัยขึ้นสำหรับทุกคน เชฟอาวุโสหลายท่านได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติของทีมงานและการปรับโมเดลธุรกิจ ขณะที่เชฟรุ่นใหม่ได้แสดงให้เห็นว่าสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานมีความสำคัญต่อคนรุ่นนี้ และทุกคนก็เห็นด้วยว่าทีมงานที่มีความสุขเท่ากับร้านอาหารที่มีความสุข”

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com

เกี่ยวกับซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี

ศาสตร์การทำอาหารมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงสังคม รวมถึงสร้างอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนมากขึ้น แต่การจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยผู้ที่มีความสามารถ ด้วยเหตุนี้ ซานเพลลีกรีโนจึงจัดตั้งซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy) เพื่อดึงดูด เชื่อมโยง และบ่มเพาะผู้มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารรุ่นใหม่ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมคนรุ่นใหม่ด้วยโอกาสทางการศึกษา การให้คำปรึกษา และประสบการณ์ รวมทั้งสนับสนุนการแข่งขันที่มีชื่อเสียงในระดับโลก

ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เปิดประตูต้อนรับสมาชิกจากกว่า 70 ประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพรสวรรค์ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยภูมิศาสตร์ ชาติพันธุ์ หรือเพศ โดยเป็นสถานที่ที่เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการอาหารระดับโลก และร่วมกันสร้างชุมชนการทำอาหารที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com/

เกี่ยวกับซานเพลลีกรีโน และ อควา ปานน่า

ซานเพลลีกรีโน (S.Pellegrino), อควา ปานน่า (Acqua Panna) และซานเพลลีกรีโน อิตาเลียน สปาร์คลิง ดริงค์ส (Sanpellegrino Italian Sparkling Drinks) เป็นเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศของบริษัท ซานเพลลีกรีโน เอส.พี.เอ. (Sanpellegrino S.p.A.) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ ผ่านสาขาและตัวแทนจำหน่ายใน 5 ทวีป โดยแสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศด้านคุณภาพจากต้นกำเนิด และถ่ายทอดความเป็นอิตาลีออกไปทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความน่าอภิรมย์ สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งนี้ ซานเพลลีกรีโน เอส.พี.เอ. ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2442 และเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของอิตาลี ครอบคลุมทั้งน้ำแร่ เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยไร้แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มอื่น ๆ

ซานเพลลีกรีโนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับโลกใบนี้ ตลอดจนทำงานอย่างมีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรเหล่านี้จะมีอนาคตที่ยั่งยืน

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2150343/Sanpellegrino_Group.jpg
โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/2005247/SPYCA_Logo.jpg