Skip to content
Home » News » หัวเว่ยเผยวิสัยทัศน์การผสานรวมเครือข่ายภาคพื้นดินและใต้น้ำไว้ด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยีออปติคัลอัจฉริยะ

หัวเว่ยเผยวิสัยทัศน์การผสานรวมเครือข่ายภาคพื้นดินและใต้น้ำไว้ด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยีออปติคัลอัจฉริยะ

MAY PR 2025 09 24 120518 หัวเว่ยเผยวิสัยทัศน์การผสานรวมเครือข่ายภาคพื้นดินและใต้น้ำไว้ด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยีออปติคัลอัจฉริยะ

สิงคโปร์ – Media OutReach Newswire – 25 กันยายน 2568 – หัวเว่ยได้เผยวิสัยทัศน์ด้านการผสานรวมเครือข่ายใต้น้ำและเครือข่ายบนพื้นดินไว้ด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยีออปติคัลอัจฉริยะเป็นครั้งแรกในงานประชุมด้านการสื่อสารใต้น้ำระดับโลก Submarine Networks World 2025 ที่สิงคโปร์ พร้อมนำเสนอโซลูชั่นล้ำสมัยและผลิตภัณฑ์เรือธงที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการบูรณาการและการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างเครือข่ายใต้น้ำและเครือข่ายบนพื้นดิน

MAY PR 2025 09 24 120518 หัวเว่ยเผยวิสัยทัศน์การผสานรวมเครือข่ายภาคพื้นดินและใต้น้ำไว้ด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยีออปติคัลอัจฉริยะ

บูธแสดงสินค้าและนวัตกรรมของหัวเว่ยในงาน Submarine Networks World 2025 ที่สิงคโปร์

กลยุทธ์ของหัวเว่ยมุ่งเน้นการก้าวข้ามแนวทางเดิมที่แยกการสร้างเครือข่ายใต้น้ำและบนพื้นดินออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้ทรัพยากรถูกแยกขาดและความสามารถในการทำงานร่วมกันจำกัด แนวทางของหัวเว่ยจึงออกแบบมาเพื่อช่วยให้การให้บริการสื่อสารมีความเร็วสูงมาก มีความน่าเชื่อถือสูง และมีความยืดหยุ่นสูง ผ่านการบริหารจัดการทรัพยากรเครือข่ายแบบข้ามโดเมนที่มองเห็นภาพรวมชัดเจน มีการจัดตารางงานและปกป้องบริการแบบข้ามโดเมน รวมถึงการบำรุงรักษาและดำเนินงานอัจฉริยะ

หัวเว่ยได้เปิดตัวเครือข่ายรุ่น OptiX OSN 9800 K แพลตฟอร์มบูรณาการเครือข่ายใต้น้ำและบนพื้นดินสำหรับ DC รุ่นแรกของอุตสาหกรรม ความจุ 100T ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการรับส่งข้อมูลข้ามโดเมนขนาดใหญ่ โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

1. สถาปัตยกรรมแบบบูรณาการ – แพลตฟอร์มเดียวที่รวมเครือข่ายภาคพื้นดินและใต้น้ำเข้าไว้ด้วยกัน
2. ความจุสูงพิเศษ – มีความสามารถในการประมวลผลบริการได้ 4T ต่อสล็อต, รองรับได้สูงสุดมากกว่า 100T ต่อแชสซี, และ 96T ต่อไฟเบอร์
3. ประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงมาก– การรวมฟังก์ชันหลายอย่างช่วยลดการใช้พลังงานต่อบิตเหลือเพียง 0.1 W/Gbit ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมถึง 65%
4. ความชาญฉลาดสูงเป็นพิเศษ – รองรับการจัดการและบำรุงรักษาอัจฉริยะผ่านแบบจำลองดิจิทัล (digital twins) ซึ่งเปลี่ยนการตอบสนองแบบตั้งรับเป็นการดำเนินงานเชิงรุก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 40%

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้นำเสนอการ์ด 1.6T รุ่นล่าสุดที่ออกแบบมาสำหรับระบบ SLTE (Submarine Line Terminal Equipment) โดยเฉพาะ ซึ่งมีความสามารถในการปรับอัตราการส่งข้อมูลได้ตั้งแต่ 300G ถึง 1.6T และรองรับระยะทางการส่งสัญญาณได้ไกลถึง 11,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความจุของเครือข่ายใต้น้ำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

Gavin Gu ประธานฝ่าย Optical Transmission Domain ของหัวเว่ย กล่าวว่า หัวเว่ยมีแผนที่จะสร้างสถาปัตยกรรมเครือข่ายภาคพื้นดินและใต้น้ำแบบบูรณาการ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือ แบนด์วิดท์กว้างพิเศษ ความน่าเชื่อถือสูง ความยืดหยุ่นสูง และความชาญฉลาด เพื่อให้การส่งข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและบำรุงรักษาเครือข่าย รวมถึงคุณภาพของบริการให้ดียิ่งขึ้นผ่านระบบอัจฉริยะ

ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและความอัจฉริยะที่รวดเร็วทั่วโลก ความต้องการเครือข่ายใต้น้ำในฐานะส่วนสำคัญของเครือข่ายสื่อสารทั่วโลกก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์ 30 ปีในด้านการส่งสัญญาณแบบออปติคัลและขีดความสามารถด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง หัวเว่ยจึงพร้อมที่จะนำแรงขับเคลื่อนใหม่ ๆ มาสู่อุตสาหกรรมเครือข่ายใต้น้ำ