บาเบล ไฟแนนซ์ ระดมทุนรอบซีรีส์ บี ได้ 80 ล้านดอลลาร์

การระดมทุนรอบล่าสุดทำให้บาเบล ไฟแนนซ์ ติดอันดับบริษัทบริการทางการเงินคริปโตที่ทรงคุณค่าที่สุดของโลกในสาขาบริการระดับสถาบัน

บาเบล ไฟแนนซ์ (Babel Finance)ผู้ให้บริการทางการเงินคริปโตรายใหญ่ระดับชั้นนำของโลก ประกาศเสร็จสิ้นการระดมทุนรอบซีรีส์ บี วงเงิน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าแตะ 2 พันล้านดอลลาร์แล้วนักลงทุนหลัก ๆ ในรอบนี้ ได้แก่ เจเนอเรชัน แคปิตอล (Jeneration Capital) และเท็นที โฮลดิงส์ (10T Holdings) รวมทั้งผู้ถือหุ้นรายเดิม อาทิ ดราก้อนฟลาย แคปิตอล (Dragonfly Capital) และบีเอไอ แคปิตอล (BAI Capital) ส่วนผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ได้แก่ เซอร์เคิล เวนเจอร์ส (Circle Ventures) และสำนักงานธุรกิจครอบครัวอีกจำนวนหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

บาเบล ไฟแนนซ์ เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งที่ให้บริการสถาบันในตลาดการเงินคริปโต บริษัททำธุรกิจเจาะจงเหรียญบิทคอยน์ (BTC), อีเธอเรียม (ETH) และสเตเบิลคอยน์ โดยให้บริการลูกค้าประมาณ 500 ราย และ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมียอดเงินกู้ค้างชำระกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ มีปริมาณการซื้อขายตราสารอนุพันธ์โดยเฉลี่ย 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน และได้จัดทำโครงสร้างและซื้อขายผลิตภัณฑ์ออปชันมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ธุรกิจหลัก ๆ ของบริษัทได้แก่การปล่อยกู้และซื้อขายคริปโต โดยเน้นการให้บริการลูกค้ากลุ่มสถาบัน ซึ่งรวมถึงสถาบันที่เกี่ยวข้องกับคริปโต สถาบันการเงินแบบดั้งเดิม อาทิ ธนาคารและกองทุนเพื่อการลงทุน รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง และสำนักงานธุรกิจครอบครัว บาเบิล ไฟแนนซ์ ก่อตั้งในปี 2561 และนับตั้งแต่นั้นก็มีความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านบริการทางการเงินคริปโต และกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมที่สำคัญ และผู้ก่อตั้งตลาดอัตราดอกเบี้ยทางการเงินคริปโต และตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์

“ตลาดการเงินคริปโตเต็มไปด้วยโอกาสและความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ โดยเมื่อมองผลกำไรระยะสั้นแล้ว ตลาดรายย่อยและเหรียญคริปโตทางเลือกอาจจะมีผลกำไรมากกว่า แต่เราให้ความสนใจมากกว่ากับการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ในระยะยาว และเราตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในบริการและนวัตกรรมทางการเงินระดับสถาบัน”เดล หวัง (Del Wang) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอบาเบล ไฟแนนซ์กล่าว “สิ่งนี้นอกจากจะช่วยจัดการกับความไม่แน่นอนมากมายในระยะเริ่มต้นของอุตสาหกรรมนี้ ทั้งความไม่แน่ใจเรื่องกฎระเบียบและตลาด ยังช่วยปกป้องลูกค้าของเราในขอบเขตสูงสุดด้วย”

“ขณะที่อุตสาหกรรมทางการเงินคริปโตเป็นแบบสถาบันมากขึ้น ภารกิจของเราที่บาเบล ไฟแนนซ์ ก็คือการสำรวจและมีส่วนร่วมในการสร้างระเบียบและกฎทางการเงินที่เป็นพื้นฐานสำหรับวงการนี้” คุณหวัง กล่าว “ด้วยการทำแบบนี้ เราจะมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาในระยะยาว ขณะที่เราเติบโตด้วยตัวเอง”

เจสัน ตัน (Jason Tan) หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของเจเนอเรชัน แคปิตอล กล่าวถึงการตัดสินใจลงทุนในการระดมทุนรอบซีรีส์ บี ของบาเบล ไฟแนนซ์ ว่า “ตลาดนักลงทุนสถาบันกำลังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมในกลุ่มประเภทสินทรัพย์คริปโต ซึ่งต้องมีทั้งความมุ่งมั่นต่อการบริหารจัดการความเสี่ยงและความเป็นมืออาชีพในการสร้างความเชื่อมั่นในระบบนิเวศนี้ บาเบล ไฟแนนซ์ กำลังกลายเป็นตัวเชื่อมสำคัญในระบบนิเวศคริปโต ซึ่งจะทำให้นักลงทุนรายเดิมและรายใหม่ประสบความสำเร็จในสินทรัพย์ที่กำลังเฟื่องฟูประเภทนี้”

“บาเบล ไฟแนนซ์ ได้เปิดตลาดที่มีกำแพงกีดขวางไว้สูง และมีมูลค่าสูงในด้านบริการนักลงทุนสถาบันในคริปโต”แดน ทาปิเอโร (Dan Tapiero) ซีอีโอและหุ้นส่วนผู้จัดการจากเท็นที กล่าว”บาเบล ไฟแนนซ์ ได้สร้างชื่อเสียงที่น่าชื่นชมในฐานะสถาบันการเงินคริปโตที่มีความเชี่ยวชาญสูงและน่าเชื่อถือ โดยยังรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ในตลาดที่มุ่งเน้นนักลงทุนสถาบัน”

“บาเบล ไฟแนนซ์ อยู่ถูกที่ถูกเวลาด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม โดยตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและสำนักงานธุรกิจครอบครัวที่ต้องการผลิตภัณฑ์ และบริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทันสมัย”วิลเลียม จ้าว (William Zhao) หุ้นส่วนจากบีเอไอ แคปิตอลกล่าว”บาเบล ไฟแนนซ์ ทำให้ตนเองแตกต่างจากคู่แข่ง โดยพุ่งความสนใจไปที่กลุ่มธุรกิจองค์กรและกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทได้ค้นพบจุดที่น่าสนใจในการนำเสนอช่องทางในระดับท้องถิ่นและความรู้ในภูมิภาคที่ไม่หยุดนิ่งให้แก่นักลงทุนสถาบันที่มีความสนใจในระดับโลก”

นับตั้งแต่ที่บริษัทได้ระดมทุนรอบซีรีส์ เอ ไปในวงเงิน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ทีมของบาเบล ไฟแนนซ์ ก็เติบโตขึ้นจาก 50 คนเป็นกว่า 170 คนในปัจจุบัน บริษัทได้เปิดสำนักงานใหม่ในสิงคโปร์ และได้ยื่นขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องในฮ่องกง ลักเซมเบิร์ก สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และได้รับคุณวุฒิด้านธุรกิจในหลายเขตอำนาจ