Andrea Bocelli (อันเดรอา โบเชลลี) นักร้องเสียงเทเนอร์ชื่อก้องโลก เปิดการแสดงสุดประทับใจที่เมืองโบราณเฮกรา (Hegra) แหล่งมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยสร้างโมเมนต์ตราตรึงใจมากมาย หนึ่งในนั้นคือการขึ้นแสดงร่วมกับลูกสาววัย 9 ขวบชื่อ Virginia โดยทั้งคู่ขับขานบทเพลง Hallelujah ต่อหน้าผู้ชมที่รับฟังด้วยความอิ่มใจ นอกจากนั้นยังถือเป็นครั้งแรกที่ Bocelli ขึ้นแสดงบนเวทีพร้อมกับลูกสาวและลูกชายชื่อ Matteo โดยครอบครัวที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ได้แสดงความสามารถทางดนตรีอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ Bocelli ที่เล่นเครื่องดนตรีหลากหลายประเภทอย่างคล่องแคล่วตลอดการแสดง
บทเพลงมากมายได้รับการขับขานในคอนเสิร์ตครั้งนี้ อาทิ เพลงยอดนิยมจาก Puccini, เพลงฮิตจาก Believe ซึ่งเป็นอัลบัมใหม่ล่าสุดของ Bocelli รวมถึงเพลงจาก Greatest Showman และ Carousel และเช่นเดียวกับทุกการแสดงของ Bocelli แฟนเพลงได้ขออังกอร์เพลง Time to Say Goodbye ซึ่งผู้เข้าร่วมคอนเสิร์ตและผู้คนนับล้านที่ชมการถ่ายทอดสดผ่าน MBC1 ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และผ่าน YouTube Channel ของศิลปิน ก็ไม่ผิดหวัง
นอกเหนือจากการแสดงสุดเซอร์ไพรซ์ของสาวน้อยมากพรสวรรค์อย่าง Virginia Bocelli แล้ว ปรมาจารย์เสียงเทเนอร์ยังทำการแสดงร่วมกับนักดนตรีจาก Arabian Philharmonic และแขกพิเศษอย่าง Loren Allred, Matteo Bocelli, Francesca Maionchi นักร้องเสียงโซปราโน และ Eugene Kohn นักเปียโน
ว่ากันว่าอัจฉริยะทางดนตรีผู้นี้สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้ทุกประเภท และเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นเมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติอัลอูลา ด้วยการเล่นเพลง O sole mio โดยใช้เครื่องดนตรี Qanoun หรือ Zither
Bocelli กล่าวว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการฉลองให้กับชีวิตและดนตรี “โลกของเรางดงาม และดนตรีก็รวมทุกคนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โมเมนต์นี้เป็นการกระจายความสุขเล็ก ๆ ในขณะที่เราเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์และมีความหวังว่าจะได้เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีด้วยกันในอีกไม่นานนี้”
คอนเสิร์ตครั้งนี้นับเป็นปีที่สามติดต่อกันแล้วที่ Bocelli ได้เปิดการแสดงที่เมืองอัลอูลา โดยการแสดงสองครั้งแรกเกิดขึ้นในเทศกาลดนตรี Winter at Tantora แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เมืองโบราณเฮกราได้จัดการแสดงของนักร้องเสียงเทเนอร์มากความสามารถท่านนี้
เฮกรา ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษแรกก่อนคริสตกาลโดยราชอาณาจักรแนบาเทีย เป็นเมืองโบราณท่ามกลางทะเลทรายที่มีสุสานนับพัน โดยกว่า 100 แห่งในจำนวนนี้มีการตกแต่งผนังภายนอกอย่างวิจิตรงดงามด้วยการขุดภูเขาหินทราย ซึ่งเป็นทักษะเฉพาะของช่างฝีมือชาวแนบาเทีย
Bocelli กล่าวว่า การได้แสดงท่ามกลางสถานที่นี้ถือเป็นโมเมนต์ที่มีความพิเศษอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวของเขาและนักดนตรีทุกคนบนเวที “การได้สร้างประวัติศาสตร์ในสถานที่ที่รุ่มรวยด้วยมรดกและวัฒนธรรม ถือเป็นโมเมนต์ที่ตราตรึงใจไม่รู้ลืม”
หลังจากนี้ Bocelli จะเดินทางจากเมืองอัลอูลา ประเทศซาอุดีอาระเบีย ไปยังเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี เพื่อบันทึกการแสดงโอเปร่า Otello โดย Giuseppe Verdi
Royal Commission for AlUla (RCU) มุ่งมั่นอนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของ RCU คือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความรวดเร็ว รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่
วิดีโอ: https://drive.google.com/drive/folders/11lrSFQHRbyI1eP84dFo_4QUPFcY4zZIR
รูปภาพ – WeTransfer: https://wetransfer.com/downloads/7cb76063f899f1b06153020f5dd3b72220210408204008/d1c8acdad9435c9d3b78273157c0695820210408204106/633b75
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1484330/AlUla_Saudi_Arabia_Bocelli.jpg