พิธีแลกเปลี่ยนเอกสารจัดขึ้นที่งานประชุมและจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนานาชาติ (IGEM) โดยมีเลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำร่วมเป็นสักขีพยาน
MGTC และเอนวิชัน ดิจิทัล เตรียมนำเสนอระบบปฏิบัติการคาร์บอนต่ำ (LCOS) ที่ช่วยให้องค์กรท้องถิ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็กติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้แบบเรียลไทม์
LCOS จะเข้าถึงบริษัทเกือบ 1,000 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซา มาเลเซีย และ SME 1.2 ล้านราย
มอบแผนงานชั้นนำระดับโลกรองรับความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อเร่งบรรลุเป้าหมายระดับประเทศในการปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก
องค์กรการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งมาเลเซีย (Malaysian Green Technology and Climate Change Corporation หรือ MGTC) ในสังกัดกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำ (KASA) จับมือเอนวิชัน ดิจิทัล (Envision Digital) ผู้นำซอฟต์แวร์การกำจัดคาร์บอนสำหรับการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือฉบับใหม่ เพื่อเร่งการเดินทางสู่การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของมาเลเซีย และส่งเสริมการติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์แบบเรียลไทม์สำหรับองค์กรท้องถิ่น
พิธีแลกเปลี่ยนเอกสารจัดขึ้นที่งานประชุมและจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนานาชาติ (International Greentech & Eco Products Exhibition & Conference Malaysia หรือ IGEM) โดยมีดร.ไซนิ บิน อูจาง (Yang Berbahagia Dato’ Seri Ir. Dr. Zaini bin Ujang) เลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำ ร่วมเป็นสักขีพยาน
ความร่วมมือนี้จะนำเสนอแผนงานที่ดีที่สุดเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วโลกทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนชุมชนธุรกิจในการเร่งสร้างการปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ให้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นไปตามการประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเอนวิชัน (Envision) กับรัฐบาลสเปนในเดือนกรกฎาคม เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่ปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์แห่งแรกของยุโรป
ภายใต้แผนมาเลเซียฉบับที่ 12 มาเลเซียได้ประกาศเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และลดความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) เทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลง 45% ภายในปี 2573 ความร่วมมือระหว่างเอนวิชัน ดิจิทัล กับ MGTC จะช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีเครื่องมือและความสามารถที่จำเป็นในการติดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ในความร่วมมือครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาระบบปฏิบัติการคาร์บอนต่ำ (LCOS) เพื่อให้ธุรกิจในท้องถิ่นทุกขนาดทั่วประเทศมาเลเซียตรวจสอบและจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ โดยจะใช้ได้กับทุกบริษัทในมาเลเซีย รวมถึงบริษัทเกือบ 1,000 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซา มาเลเซีย (Bursa Malaysia) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) 1.2 ล้านแห่ง LCOS ขับเคลื่อนโดย EnOSTM Ark ซึ่งเป็นโซลูชันการจัดการคาร์บอนของเอนวิชัน ดิจิทัล โดยช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักสามารถกระตุ้นการขจัดคาร์บอนและเร่งการเปลี่ยนให้เป็นดิจิทัล และรับข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์
ชัมซุล บาฮาร์ โมห์ด นอร์ (Ts. Shamsul Bahar Mohd Nor) ซีอีโอของ MGTC กล่าวว่า “การทำให้การปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์หมายถึงการลดการสะสมมลพิษในชั้นบรรยากาศที่ทำให้โลกของเราอุ่นขึ้น ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้น โลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่แก้ไขไม่ได้หลายประการ ปัญหาต่าง ๆ เช่น การขาดแคลนอาหารและน้ำ สภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ และการแพร่ระบาดของโรค อาจส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติและคนรุ่นต่อไปในอนาคต”
เขากล่าวเสริมว่า “หลายบริษัททั่วโลกกำลังเริ่มดำเนินการในการเปลี่ยนผ่านสู่การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และการลดคาร์บอนเป็นส่วนแรกและสำคัญที่สุดของวาระนี้อย่างไม่ต้องสงสัย การเป็นหุ้นส่วนของเรากับเอนวิชัน ดิจิทัล จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ วัดการปลดปล่อยคาร์บอน จัดการกิจกรรมทางธุรกิจ และดำเนินการเพื่อลดการปล่อยมลพิษได้ โอกาสนี้จะปูทางให้เราส่งเสริมเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และบรรลุภารกิจระดับชาติในการสร้างประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593”
ไมเคิล ดิง (Michael Ding) กรรมการบริหารระดับโลกของเอนวิชัน ดิจิทัล (Envision Digital) กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับ MGTC เพื่อช่วยเร่งความพยายามในการลดคาร์บอนของมาเลเซีย และเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจที่ปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษทั่วโลก และเราเชื่อว่างานของเรากับมาเลเซียเป็นเหมือนแสงส่องทางให้กับความคิดริเริ่มระดับชาติอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเร่งการเดินทางสู่การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์”
เกี่ยวกับองค์กรการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งมาเลเซีย (MGTC)
MGTC เป็นหน่วยงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำ (KASA) ที่ได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนประเทศในขอบเขตของการเร่งการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การยกระดับการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นโยบายระดับชาติสามประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (NGTP) นโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (NCCP) และแผนแม่บทเทคโนโลยีสีเขียว (GTMP) เป็นตัวกำหนดบทบาทของ MGTC ในฐานะตัวเร่งสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจสีเขียว
หน้าที่หลักของ MGTC คือการบรรลุเป้าหมายของมาเลเซียในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) สุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 โดยลดการปล่อย GHG แบบไม่มีเงื่อนไขลง 45% เมื่อเทียบกับระดับความเข้มข้นในปี 2548 ให้ได้ภายในปี 2573 เพิ่มมูลค่าทาง GDP ให้ได้ 1 แสนล้านริงกิตในภาคเทคโนโลยีสีเขียว และสร้างโอกาสงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 230,000 ตำแหน่ง
เกี่ยวกับเอนวิชัน ดิจิทัล
เอนวิชัน ดิจิทัล (Envision Digital) เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ชั้นนำของโลกสำหรับองค์กร รัฐบาล และเมืองต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งความก้าวหน้าสู่พลังงานที่ปราศจากการปลดปล่อยคาร์บอนและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของมวลมนุษยชาติทั้งหมด แพลตฟอร์มการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ EnOS(TM) ของบริษัท จัดการอุปกรณ์กว่า 220 ล้านเครื่องและกระแสไฟฟ้า 500 กิกะวัตต์ ซึ่งขับเคลื่อนโซลูชัน IIOT แบบครบวงจรที่กำหนดค่าได้ในระดับสูง ซึ่งใช้ AI เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และต้นทุน ปรับปรุงผลตอบแทนจากเงินทุน และทำให้การรายงานและการปฏิบัติตามข้อกำหนดง่ายขึ้น
บริษัทมีพนักงานมากกว่า 1,000 คนและสำนักงาน 14 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.envision-digital.com/
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1921349/image.jpg
จากซ้ายไปขวา: ไมเคิล ดิง กรรมการบริหารระดับโลกของเอนวิชัน ดิจิทัล; เล่ย จาง ซีอีโอของเอนวิชัน กรุ๊ป; อิสกันดาร์ อับดุล ซาหมัด ประธานของ MGTC; ดร.ไซนิ บิน อูจาง เลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำ; ชัมซุล บาฮาร์ โมห์ด นอร์ (Shamsul Bahar Bin Mohd Nor) ซีอีโอของ MGTC