อดีตประธานาธิบดีสโลวีเนีย: จีนคือเสาหลักสำคัญของเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก

กว่างโจว, จีน, 6 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ – รายงานข่าวจาก GDToday

jwplayer.key=”3Fznr2BGJZtpwZmA+81lm048ks6+0NjLXyDdsO2YkfE=”

 

jwplayer(‘myplayer1’).setup(file: ‘https://mma.prnasia.com/media2/2635535/GDToday.mp4’, image: ‘https://mma.prnasia.com/media2/2635535/GDToday.mp4?p=medium’, autostart:’false’, stretching : ‘uniform’, width: ‘512’, height: ‘288’);

การประชุมสองสภาประจำปีของจีนกำลังจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 4-11 มีนาคม โดยจีนตั้งเป้าการเติบโตของ GDP ปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 5% หลังจากประกาศเป้าหมายไว้ที่ 134.9 ล้านล้านหยวนไว้สำหรับปี 2567 ซึ่งเปิดเผยในสมัยประชุมที่ 3 ของสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 14 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม โดย Li Qiang นายกรัฐมนตรีจีน ในการแถลงรายงานผลการทำงานของรัฐบาล

“การเติบโตของจีนที่ 5% คิดเป็น 1 ใน 3 ของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก หากพิจารณาในมุมนี้ จะเห็นได้ว่าการเติบโตของจีนมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก และการเติบโตอย่างมั่นคงของจีนจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งโลก” Danilo Türk อดีตประธานาธิบดีสโลวีเนียและประธานสโมสร Club de Madrid กล่าวในการสัมภาษณ์พิเศษกับ GDToday

การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างไม่ได้หมายถึง “การล่มสลายทางเศรษฐกิจ”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สื่อและสถาบันตะวันตกบางแห่งได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีน โดยอ้างว่าการขยายตัวของ GDP ปี 2567 (5%) ซึ่งต่ำกว่าปี 2566 (5.2%) อาจบ่งชี้ถึงภาวะถดถอย

Türk กล่าวว่า “การเติบโตในระดับสูงของจีนย่อมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ซึ่งหมายถึงบางอุตสาหกรรมจะเติบโตช้าลง ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่น ๆ จะเติบโตเร็วขึ้น”

จากรายงานผลการทำงานของรัฐบาล การค้าต่างประเทศของจีนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสถิติแสดงให้เห็นว่า มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าการส่งออกสินค้าแรงงานจะลดลงในปี 2567 แต่การส่งออกสินค้าประเภทเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 8.7% คิดเป็นเกือบ 60% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า เครื่องพิมพ์ 3 มิติ และ หุ่นยนต์อุตสาหกรรมยังเพิ่มขึ้น 13.1%, 32.8% และ 45.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2566 สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของจีนจากอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง

Türk มองว่า จีนเป็นปัจจัยหลักของเสถียรภาพในเศรษฐกิจโลก โดยกล่าวว่า “การเติบโตของจีนเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์เศรษฐกิจ เราต้องเตือนตัวเองว่าการเติบโต 5% ในจีนหมายถึง 1/3 ของการเติบโตทั่วโลก”

เขาเชื่อว่าเป้าหมายการเติบโตที่ประมาณ 5% นั้นสามารถบรรลุได้สำหรับจีนในปี 2568

“จีนได้แสดงให้เห็นว่าการกำหนดนโยบายของตนมีความน่าเชื่อถือ” เมื่อตอบคำถามเกี่ยวกับเป้าหมายการเติบโตของ GDP ของจีนในปี 2568 แล้ว Türk เน้นย้ำจากการสังเกตของเขาว่า จีนสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ซึ่งแตกต่างจากกรณีส่วนใหญ่ทั่วโลก เพราะเป้าหมายทุกข้อผ่านการพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบคอบ

ปี 2568 เป็นปีสุดท้ายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะเวลา 5 ปีฉบับที่ 14 (ปี 2564-2568) ซึ่ง Türk มองว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญไปสู่แผนพัฒนาฉบับที่ 15 ซึ่งจะสะท้อนทิศทางระยะยาวของจีนและดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก 

ในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในยุโรป Türk ได้แสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมสามารถรับประกันความต่อเนื่องของการพัฒนาในระดับสูง ซึ่งจีนประสบความสำเร็จในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ในช่วงต้นปี 2568 DeepSeek โมเดล AI ขนาดใหญ่ของจีนได้รับความสนใจจากทั่วโลก เนื่องจากมีต้นทุนต่ำและสามารถดำเนินงานในขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของนวัตกรรมจีน DeepSeek ก่อตั้งขึ้นในปี 2566 โดย Liang Wenfeng โปรแกรมเมอร์วัย 39 ปีจากเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง

“ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีมักมาจากคนหนุ่มสาว และ DeepSeek ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มีบทบาทสำคัญ” Türk กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทหลายแห่งในภาค สุขภาพและเทคโนโลยี กำลังนำโมเดล AI มาใช้เพื่อสร้างสังคมที่สะดวกสบายมากขึ้น

“จีนจะยังคงเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า” Türk กล่าว

เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าคือโมเดลพิเศษที่ไม่เหมือนใครในโลก

เป็นเวลา 8 ปี แล้วที่แผนพัฒนาเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าได้รับการบรรจุในรายงานผลการทำงานของรัฐบาลตั้งแต่ปี 2560 และในปีนี้ รัฐบาลจีนยังคงมุ่งเน้นการยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรมของภูมิภาคนี้

“ผมเคยเดินทางไปจีนประมาณ 40-50 ครั้ง และทุกครั้งที่ไป ผมรู้สึกเหมือนไปเยือนประเทศใหม่ เพราะมีอาคารใหม่ ๆ และสิ่งใหม่ ๆ ให้ดูมากมาย พื้นที่อ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าเป็นภูมิภาคที่พัฒนาแล้วมากที่สุดแห่งหนึ่ง” Türk กล่าว

เขามองว่าเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า เป็นพื้นที่ที่มีความพิเศษในระดับโลก เพราะรวมเอา การค้า พาณิชยกรรม การเงิน และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน “มันไม่ใช่แค่การพัฒนาเขตใหม่ แต่เป็นการพัฒนาแบบบูรณาการที่แต่ละเมืองในเขตมีเอกลักษณ์ของตัวเอง”

“เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊ามี 4 โมเดลที่แตกต่างกันตั้งแต่แรกเริ่ม และกำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่มีคุณภาพสูงขึ้น” เขากล่าวเสริม

ตามรายงานของสภาประชาชนแห่งชาติเมื่อวันที่ 4 มีนาคม GDP ของเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าแตะระดับ 14 ล้านล้านหยวน และปัจจุบัน ผู้คนสามารถเดินทางระหว่างเมืองในเขตนี้ได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

Türk กล่าวว่าเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า จะกลายเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่น่าจับตามองที่สุดในโลก และเขาจะติดตามความก้าวหน้าของพื้นที่นี้อย่างใกล้ชิด

 

View original content to download multimedia: Read More