ฝรั่งเศสปิดฉากการประชุมสุดยอด AI Action Summit มุ่งสู่การเป็นมหาอำนาจด้าน AI อันดับ 3 ถัดจากสหรัฐฯ และจีน Artprice โดย Artmarket เผยแผนยุทธศาสตร์ปี 2568-2572 พร้อมผงาดขึ้นเป็นผู้นำแวดวงข้อมูลเชิงลึกตลาดศิลปะ AI ด้วย Intuitive Artmarket® AI

ปารีส, 12 กุมภาพันธ์ 2568 /PRNewswire/ — เนื่องในโอกาสที่ฝรั่งเศสเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดระดับโลกอย่าง AI Action Summit ทาง Artprice โดย Artmarket ผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดศิลปะมานานนับ 28 ปี ก็ได้เผยแผนยุทธศาสตร์ปี 2568-2572 พร้อมความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมครั้งแรกของ Intuitive Artmarket® AI ตอกย้ำบทบาทผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลเชิงลึกตลาดศิลปะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งนี้ Artprice โดย Artmarket.com จดทะเบียนในตลาด Euronext Paris

AI Action Summit
AI Action Summit

เมื่อวันที่ 10 และ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสได้ให้การต้อนรับผู้มาเยือนเกือบ 100 ประเทศ ในการประชุมสุดยอดระดับโลกเพื่อการขับเคลื่อนวงการปัญญาประดิษฐ์ หรือ “AI Action Summit” โดยใช้อาคาร Grand Palais อันงดงามเป็นสถานที่จัดงาน มีผู้เข้าร่วมทั้งประมุขและผู้นำรัฐบาล ผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ ผู้บริหารธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ นักวิชาการ นักวิจัย องค์กรพัฒนาเอกชน ศิลปิน และตัวแทนจากภาคประชาสังคมต่าง ๆ

การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัปดาห์ AI Action Week ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ โดยมีกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ อาทิ การประชุมวิชาการในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ ณ École Polytechnique และสุดสัปดาห์วัฒนธรรมในวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ ซึ่งจัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศสภายใต้การนำของรัฐมนตรี Rachida Dati โดยมี Artprice และผู้ก่อตั้ง-ซีอีโออย่าง thierry Ehrmann เข้าร่วมด้วย

Rachida Dati รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส กล่าวว่า “โปรแกรมสุดสัปดาห์แห่งวัฒนธรรมที่จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมนั้น มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอโอกาสที่ปัญญาประดิษฐ์มอบให้แก่ผู้สร้างสรรค์ให้กับผู้ชมในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ดี แม้เราหวังที่จะเข้ามามีบทบาทในยุคใหม่แห่งการสร้างสรรค์ แต่เราก็ต้องให้ความสำคัญกับความท้าทายและความเสี่ยงต่าง ๆ ที่แวดวงวัฒนธรรมกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันค่ะ”

Artprice ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดศิลปะ ขอตอกย้ำแนวคิดนี้ โดยได้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขจากรายงานตลาดศิลปะประจำปี หรือ Annual Art Market Report ฉบับที่ 30 ที่กำลังจะเผยแพร่ ซึ่งจัดทำร่วมกับสถาบันวิจัยศิลปะ Artron ของจีน

รายงานสำคัญฉบับนี้ ซึ่งวงการศิลปะทั่วโลกต่างรอคอยในทุกเดือนมีนาคมของแต่ละปี มีการเผยแพร่ใน 122 ประเทศและ 11 ภาษา ผ่านความร่วมมือระหว่าง Artprice กับ Cision PR Newswire ที่ยาวนานถึง 26 ปี สำหรับรายงานประจำปีนี้ชี้ให้เห็นว่าฝรั่งเศสเป็นตลาดศิลปะชั้นนำของยุโรปในแง่มูลค่าการประมูล เป็นตลาดอันดับสองของโลกในแง่ปริมาณการซื้อขายงานศิลปะผ่านการประมูล และเป็นตลาดใหญ่อันดับสี่ของโลกในแง่มูลค่าการประมูลรวม (ถัดจากสหรัฐอเมริกา จีน และสหราชอาณาจักร)

การประชุมสุดยอดด้าน AI ครั้งนี้เป็นเวทีให้ฝรั่งเศสได้แสดงศักยภาพด้าน AI และความมีชีวิตชีวาของระบบนิเวศทางธุรกิจและการวิจัย พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ AI ระดับชาติเฟสใหม่

ในการนี้ Clara Chappaz รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัล และเจ้าภาพอย่างเป็นทางการประจำการประชุมครั้งนี้ในรัฐบาลของ François Bayrou ได้กำหนดเป้าหมายสามประการ ได้แก่ ด้านสังคมและวัฒนธรรม ด้านเศรษฐกิจ และด้านการทูต

Clara Chappaz ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Les Échos ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งนี้ โดยได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญต่าง ๆ ว่า “ที่ทำเนียบขาวในวอชิงตัน เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 สหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดี Donald Trump พร้อมด้วย Larry Ellison ผู้ร่วมก่อตั้ง Oracle, Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank และ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้ประกาศโครงการ Stargate อันเป็นแผนงาน AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่จีนเองก็มีโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำอย่าง DeepSeek

แล้วยุโรปอยู่ตรงไหนในวงการนี้ AI เป็นโอกาสสำหรับยุโรป โดยรายงาน Draghi ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ยุโรปได้ตอบสนองแล้ว ดิฉันไม่ได้รอให้ยุโรปลุกขึ้น เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งแผนงานล่าสุดของคณะกรรมาธิการยุโรปอย่าง Competitiveness Compass ให้ความสำคัญในเรื่องนวัตกรรมอย่างชัดเจน เราลงสนามแข่งแล้ว แต่เราต้องรักษาตำแหน่งนี้ไว้

มีการตื่นตัวในกลุ่มใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการนำ AI ไปใช้และเผยแพร่หรือไม่นั้น ระหว่างการประชุมสุดยอดที่จะจัดขึ้นที่ Grand Palais บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกและสตาร์ตอัปด้าน AI ชั้นนำของโลกจะมารวมตัวกัน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าทุกคนอยู่รอบโต๊ะเดียวกันและกำแพงระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ กำลังถูกทำลายลง”

Anne Bouverot ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI วิศวกร และผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี Emmanuel Macron แห่งฝรั่งเศส ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเตรียมการประชุมสุดยอด AI Action Summit โดยกำกับดูแลการทำงานใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ AI เพื่อประโยชน์สาธารณะ อนาคตของการทำงาน ระบบนิเวศนวัตกรรม ความปลอดภัยด้าน AI และการกำกับดูแล AI ระดับโลก นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการประสานงานความพยายามในระดับนานาชาติ เพื่อสร้างการกำกับดูแล AI ที่เปิดกว้างและเสมอภาค และก่อตั้งมูลนิธิ Abeona Foundation ขึ้นมาเพื่อส่งเสริม AI ที่มีความรับผิดชอบ รวมทั้งเป็นประธานร่วมของสถาบัน AI & Society Institute ในกรุงปารีสด้วย

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ในระหว่างการปราศรัยพิเศษทางช่อง France 2 นั้น ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะผลักดันฝรั่งเศสให้เป็นมหาอำนาจด้านปัญญาประดิษฐ์ พร้อมประกาศการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ในฝรั่งเศสมูลค่า 1.09 แสนล้านยูโร จากกลุ่มบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น MGX, BlackRock, Brookfield, Amazon, Microsoft, Fluidstack, Data4, Equinix, Digital Realty, Prologis, Evroc, Sesterce, Opcore, Mistral, BPI France, Infravia และ Scaleway

เมื่อสิ้นสุดการประชุมสุดยอดด้าน AI ที่ปารีส ซึ่งเป็นประธานร่วมกับอินเดียโดยมีนายกรัฐมนตรี Narendra Modi เข้าร่วมด้วยนั้น เห็นได้ชัดว่าประธานาธิบดี Macron ต้องการให้ฝรั่งเศสก้าวขึ้นเป็น “อันดับ 3 ของโลก” ถัดจากสหรัฐอเมริกาและจีน การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเกือบ 100 ประเทศ รวมถึงผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ นักวิจัย และตัวแทนภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันวางรากฐานในการกำกับดูแล AI ระดับโลก

ในบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมมีผู้นำระดับโลกหลายท่าน อาทิ António Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ, J.D. Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้มีประสบการณ์การทำงานในซิลิคอน วัลเลย์, Ding Xuexiang รองนายกรัฐมนตรีจีน, Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป, Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และ Mohamed Bin Zayed Al-Nahyan ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

การประชุมครั้งนี้มีตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมด้วย เช่น Ngozi Okonjo-Iweala ผู้อำนวยการใหญ่ WTO, Mathias Corman เลขาธิการ OECD, Fatih Birol ผู้อำนวยการองค์การพลังงานระหว่างประเทศ, Moussa Faki ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพแอฟริกา รวมถึงผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำมากมาย อาทิ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI, Sundar Pichai ซีอีโอ Google, Arthur Mensch ซีอีโอ Mistral AI, Xavier Niel ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Iliad, Demis Hassabis ผู้อำนวยการ Google DeepMind และ Brad Smith ประธาน Microsoft

นอกจากนี้ยังมีนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน เช่น Yann Le Cun ผู้บุกเบิก AI และผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ที่ Meta, Joëlle Barral นักวิจัยจาก Google DeepMind, Michael Jordan ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ และเจ้าของรางวัลโนเบล เช่น Geoffrey Hinton ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “บิดา” วงการ AI ยุคใหม่, Maria Ressa นักข่าวผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และนักเศรษฐศาสตร์อย่าง Joseph Stiglitz

คณะกรรมการอำนวยการซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากประมาณ 30 ประเทศและสถาบันระหว่างประเทศ รวมถึงตัวแทนจากภาควิชาการ ธุรกิจ และภาคประชาสังคม ได้ประชุมร่วมกัน 5 ครั้ง เพื่อเตรียมการหารือสำหรับการประชุมสุดยอดครั้งนี้

ฝรั่งเศสวางแผนที่จะปั้นนักวิจัยให้ได้ 40,000 ถึง 100,000 คนภายในปี 2573 และสร้างศูนย์ข้อมูล 35 แห่ง (รวมถึงโครงการที่ได้รับทุนจาก UAE มูลค่า 3-5 หมื่นล้านยูโร) นอกจากนี้ยังวางแผนจัดตั้งกรอบการกำกับดูแล AI ร่วมระหว่างฝรั่งเศสและยุโรปด้วย

Brookfield ได้ประกาศลงทุน 2 หมื่นล้านยูโรในศูนย์ข้อมูลในฝรั่งเศส รวมถึงศูนย์ข้อมูลขนาด 1 กิกะวัตต์ในเมืองกองเบร การลงทุนนี้มุ่งพัฒนาศูนย์ข้อมูลซึ่งจำเป็นสำหรับการฝึกฝน AI รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น การผลิตพลังงาน โดยในบรรดาโครงการใหญ่ ๆ จะมีการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเมืองกองเบรทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ด้วยกำลังสูงสุด 1 กิกะวัตต์

แหล่งข่าวอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ฝรั่งเศสเป็นจุดหมายอันดับหนึ่งของยุโรปสำหรับการลงทุนด้าน AI จากต่างประเทศ

การประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้มีการประกาศจัดตั้งหน่วยงานสังเกตการณ์ผลกระทบด้านพลังงานของปัญญาประดิษฐ์อย่างเป็นทางการ นำโดยองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ทั้งยังมีการรวมตัวกันเป็นพันธมิตรเพื่อ AI ที่ยั่งยืน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะรวบรวมบริษัทหลัก ๆ ในภาคส่วนนี้เข้าด้วยกัน

ข่าวสารและแนวโน้มต่าง ๆ ในปี 2568

Artprice โดย Artmarket บรรลุเป้าหมายใหม่เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ด้วยความสำเร็จของ Intuitive Artmarket® AI และก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดศิลปะที่ขับเคลื่อนด้วย AI

เมื่อช่วงปลายปี 2567 Artprice โดย Artmarket ได้เปิดให้สมาชิกระดับพรีเมียมเข้าถึงข้อมูลที่ประมวลผลโดย Intuitive Artmarket® AI และอัลกอริทึมต่าง ๆ

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 Artprice โดย Artmarket ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลเชิงลึกตลาดศิลปะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ด้วยความสำเร็จในการเปิดตัว Intuitive Artmarket® AI ปัจจุบัน เมื่อมองย้อนกลับไปหนึ่งเดือน การสมัครสมาชิกเหล่านี้ได้กลายเป็นแพ็กเกจรายปีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาบริการระดับพรีเมียมของเรา

พัฒนาการอันน่าทึ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ลูกค้าและสมาชิก 9.3 ล้านรายของ Artprice โดย Artmarket ได้ยอมรับการมาถึงของวัฒนธรรม AI ในฐานข้อมูลของเรา และกำลังหันมาใช้บริการระดับพรีเมียมที่รวม Intuitive Artmarket® AI อยู่ด้วย ซึ่งส่งผลให้รายได้ประจำ (ARR) ของเราเติบโต โดยในปีต่อ ๆ ไปหลังจากนี้ Artprice จะเพิ่มการวิจัยและผลลัพธ์ให้ถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาดศิลปะสำหรับลูกค้าและสมาชิก พร้อมนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากมาย

Artprice ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการศึกษาของ DOMO Inc. (มีการเผยแพร่ข้อมูลตัวเลขโดย Les Échos/Solutions) DOMO ใช้ดัชนีสำคัญที่ให้คะแนนความสามารถขององค์กรในการนำ AI ไปรวมเข้ากับกระบวนการทำงาน โดยดัชนีนี้วัดการประมวลผลข้อมูลต่อวินาทีต่อพนักงาน

การสร้างข้อมูลมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 MB ต่อวินาที

การตรวจสอบด้านไอทีโดย Mazars พบว่า พนักงานแต่ละคนของ Artprice โดย Artmarket สร้างข้อมูลได้ 35MB ต่อวินาที หรือมากกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรปถึง 21 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจหลักของ Artprice ในฐานะผู้เผยแพร่ฐานข้อมูลระดับมืออาชีพและอัลกอริทึมเฉพาะทางรายใหญ่ระดับโลก และผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดศิลปะ

Artprice ติดตามท่าทีและนโยบายของบริษัทผู้ตรวจสอบและที่ปรึกษาชั้นนำ 5 แห่งที่มีต่อ AI ซึ่งปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า AI เป็น ‘ประเด็นหลัก’ ตัวอย่างเช่น Accenture และ NVIDIA ประกาศผนึกกำลังเป็น Accenture NVIDIA Business Group เพื่อนำบริษัทต่าง ๆ เข้าสู่ยุค AI

Arnaud Naudan ประธาน BDO France แสดงความเห็นใน Ecorama ว่า “หนึ่งในปัญหาท้าทายสำคัญสองประการสำหรับลูกค้าของเราคือปัญญาประดิษฐ์” โดย Deloitte ผู้สอบบัญชีชั้นนำในกลุ่ม Big 5 ได้จัดตั้งสถาบัน AI ขึ้นมาเพื่อ “รวบรวมผู้มีความคิดอันล้ำเลิศในวงการ AI” และสำหรับ KPMG นั้น “สามในสี่ของซีอีโอในฝรั่งเศสเห็นว่า ทีมผู้บริหารของพวกเขาตระหนักถึงประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative Artificial Intelligence) ในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของบริษัท” (จากการศึกษา CEO Outlook Study)

การปฏิวัติทางวัฒนธรรมครั้งนี้นำคำศัพท์ใหม่ ๆ มาสู่โลกธุรกิจ แต่กระบวนการและเครื่องมือที่ประกอบกันเป็น AI นั้นอยู่ในแก่นหลักทางวิทยาศาสตร์ของ Artprice โดย Artmarket อยู่แล้ว คำศัพท์ใหม่นี้เปิดโอกาสให้ลูกค้าและพันธมิตรของ Artprice ค้นพบความมั่งคั่งที่ยังไม่ถูกสำรวจของ Artprice และความลึกซึ้งอันน่าทึ่งของข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของพวกเขาอย่างตรงจุด

นอกจากนี้ Artprice โดย Artmarket ได้รับตราสัญลักษณ์ “บริษัทนวัตกรรม” จากธนาคาร Banque Publique d’Investissement (BPI) มาถึงสองครั้งติดต่อกัน (ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดที่มีการกำกับดูแล) และกำลังดำเนินการตามความมุ่งมั่นในทิศทางนี้

Artprice โดย Artmarket.com อาศัยประสบการณ์ของบริษัทแม่อย่าง Groupe Serveur ผู้บุกเบิกอินเทอร์เน็ตในยุโรป ฐานข้อมูลกฎหมาย และภาพที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์รายแรกตั้งแต่ปี 2530 โดยได้พัฒนาอัลกอริทึมเฉพาะทางที่มีประสิทธิภาพและความเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ๆ นับพันตัวในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมฐานข้อมูลมากกว่า 180 แห่ง ซึ่งช่วยให้สามารถใช้ Intuitive Artmarket® AI โดยสอดรับกับกฎหมายของประเทศต่าง ๆ ได้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะด้าน PDP และ IP

สิ่งนี้เป็นผลจากการเข้าซื้อกิจการอย่างมีเป้าหมายในปี 2542 โดย Groupe Server และต่อมาโดย Artprice ซึ่งได้ซื้อบริษัทนวัตกรรมสุดล้ำอย่าง Xylogic บริษัทสัญชาติสวิสที่ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ (จาก CERN, WHO ฯลฯ) ซึ่งล้ำหน้าไปมากและได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งของปัญญาประดิษฐ์ไว้แล้ว (ดูเอกสารอ้างอิง AMF ของ Artmarket.com)

ในวงการผู้เผยแพร่ฐานข้อมูลระดับมืออาชีพที่ Artprice เป็นส่วนหนึ่งในระดับโลกด้วยนั้น การผสาน AI เฉพาะทางเข้ากับธุรกิจหลักเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในระยะยาว นี่เป็นเหตุผลที่ Artprice โดย Armarket ก้าวขึ้นมารับบทบาทเป็นผู้นำมาตั้งแต่ปี 2542 และกำหนดให้ปี 2568/2572 เป็นช่วงสำคัญในการเปิดตัว AI แบบอัลกอริทึมที่ทางบริษัทฯ พัฒนาขึ้นเองอย่าง Intuitive Artmarket® ในเชิงพาณิชย์

thierry Ehrmann ผู้ก่อตั้ง Artprice และซีอีโอของ Artmarket.com (อ่านชีวประวัติที่ได้รับการรับรองจาก Who’s Who In France ได้ที่: https://imgpublic.artprice.com/img/wp/sites/11/2024/02/2024_Biographie_thierry_Ehrmann_WhosWhoInFrance.pdf) กล่าวว่า

“อัลกอริทึมของ Artprice โดย Artmarket อาศัยบันทึกข้อมูลและข้อความที่ไม่ระบุตัวตนหลายร้อยล้านรายการ และผลงานศิลปะหลายสิบล้านชิ้นในฐานข้อมูล เพื่อระบุภาษาทั้งหมดที่ใช้อธิบายแนวทางเริ่มต้นของศิลปิน จักรวาล แรงบันดาลใจ สื่อที่ใช้ แนวคิด รูปทรง และปริมาตร ฯลฯ”

ข้อมูลอันล้ำค่านี้ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงศิลปินที่มีการอ้างอิงได้ 861,000 ราย พร้อมชีวประวัติและข้อมูลที่ได้รับการรับรอง นอกเหนือจากเกณฑ์ทางทัศนศิลป์แบบดั้งเดิม อันเป็นผลจากเครือข่ายประสาทของ Intuitive Artmarket® AI

Intuitive Artmarket ® AI ของเราคำนวณข้อมูลราคาได้อย่างน่าเชื่อถือ และตรวจสอบย้อนกลับผลงานศิลปะได้ โดยประเมินผลการประมูลตามเวลาต่าง ๆ ใช้วิธีการขายซ้ำที่เป็นเอกลักษณ์ของ Artprice ทั้งยังคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงมูลค่าในอนาคตของผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะได้ด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับแนวโน้มศิลปะแบบข้ามสาขาที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งส่วนใหญ่หลุดรอดจากการมองเห็นของโลกวิชาการ สถาบัน มหาวิทยาลัย และการค้า

ในแง่นี้ ได้มีการจัดทำการศึกษา ‘การรับรู้แบบฉับพลัน’ ขึ้นอย่างลงลึก เพื่อวัดผลกระทบที่ Artprice มีในโลกศิลปะและประวัติศาสตร์ศิลปะ

การศึกษานี้จัดทำขึ้นระหว่างงาน CIHA Lyon ประจำปี 2567 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการประชุมระดับโลกครั้งที่ 36 ที่อุทิศให้กับการวิจัยประวัติศาสตร์ศิลปะ โดยมีผู้เข้าร่วมจากกว่า 70 ประเทศและวิทยากร 1,000 คน Artprice เป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันโอลิมปิกประวัติศาสตร์ศิลปะเหล่านี้ ซึ่งมีขึ้นทุก 4 ปีในเมืองใหญ่ของโลกมานับตั้งแต่ปี 2416

ในการศึกษานี้ Artprice ได้รับการจัดอันดับให้เป็นฐานข้อมูลตลาดศิลปะที่ ‘นึกถึงเป็นอันดับแรก’

หลังจากที่ได้เตรียมการมาหลายเดือน Artprice โดย Artmarket ก็ได้ปรากฏตัวให้เห็นตลอดทั้งการประชุม โดยมีส่วนร่วมในการประชุมวิชาการ ปรากฏตัวที่งานหนังสือ CIHA และจัดอีเวนต์พิเศษช่วงเย็นที่สำนักงานใหญ่ระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ใจกลางพิพิธภัณฑ์ Organe Museum of Contemporary Art ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแล “Abode of Chaos” (ตามคำกล่าวของ New York Times)

นอกเหนือจากผลการศึกษา ‘การรับรู้แบบฉับพลัน’ แล้ว Artprice ยังพยายามประเมินระดับ ‘การรับรู้เชิงคุณภาพ’ ด้วย

การศึกษาเชิงคุณภาพนี้ได้รับประโยชน์จากปัจจัยพิเศษ 2 ประการ ประการแรก การสอบถามผู้เข้าร่วมประชุมจาก 70 ประเทศ โดยเลี่ยงไม่สอบถามทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์เพราะในบางกรณีนั้นไม่น่าเชื่อถือและไม่สามารถตรวจสอบได้จริง ประการที่สอง Artprice สามารถโต้ตอบได้โดยตรงกับผู้เข้าร่วมประชุมและการประชุมวิชาการที่ลงทะเบียนและได้รับการรับรอง โดยทราบข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพ ความเชี่ยวชาญ ตำแหน่ง ชื่อตำแหน่ง วุฒิการศึกษา และสถาบันหรือมหาวิทยาลัยในสังกัด

เราถามว่า “คุณรู้จักฐานข้อมูลตลาดงานศิลปะใดบ้าง”

จากผู้เข้าร่วม 378 คนที่สอบถามนั้น มี 325 คนตอบ Artprice เป็นอันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 86% ซึ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า Artprice เป็นฐานข้อมูลตลาดงานศิลปะที่ ‘คนนึกถึงเป็นอันดับแรก’

การรับรู้แบบ ‘นึกถึงเป็นอันดับแรก’ คือเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ตอบคำถามโดยระบุแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดบริการหนึ่งเป็นอันดับแรก เป็นทั้งการตอบสนองโดยอัตโนมัติและเป็นคำตอบแรกของพวกเขา

กลับมาที่อัลกอริทึม Intuitive Artmarket ® AI อัลกอริทึมนี้สามารถช่วยหอศิลป์และบริษัทประมูลต่าง ๆ กำหนดราคางานศิลปะได้อย่างเหมาะสมตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการ ความหายาก และชื่อเสียงของศิลปินที่เกี่ยวข้อง หรือให้กล่าวสั้น ๆ คือ ปัญญาประดิษฐ์ Intuitive Artmarket ® มาพร้อมศักยภาพสำคัญในการปฏิวัติตลาดงานศิลปะโดยปรับปรุงการเข้าถึงข้อมูล ปรับประสบการณ์ผู้ซื้อให้มีความเฉพาะบุคคล แก้ไขปัญหาการปลอมแปลง และเปิดมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ

Intuitive Artmarket® AI ทำงานเฉพาะกับเนื้อหาที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งมีขอบเขตกว้างขวางเกือบไม่สิ้นสุด ดังนั้นจึงได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ให้ผู้ใช้ไม่ต้องติดขัดกับอุปสรรคและข้อห้ามด้านลิขสิทธิ์ที่อาจเกิดขึ้น Intuitive Artmarket® AI จึงไม่จำเป็นต้องมองหาข้อมูลและ/หรือคำตอบจากที่อื่น เพื่อตอบคำขอเฉพาะเจาะจงจากผู้ใช้ตลาดงานศิลปะ

สิ่งนี้ไม่เพียงแต่มอบความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังช่วยผลักดันรายได้ของ Artprice โดย Artmarket.com เมื่อเวลาผ่านไปด้วย เมื่อมีผู้สมัครสมาชิกเพิ่มมากขึ้น

thierry Ehrmann ซีอีโอของ Artprice โดย Artmarket กล่าวว่า

“ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา Artprice ได้บันทึก สังเกต และกระตุ้นพฤติกรรมมนุษย์ที่ไม่ระบุตัวตนหลายร้อยล้านพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับตลาดงานศิลปะ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วมีความซับซ้อนอย่างไม่สิ้นสุด เพราะงานศิลปะทุกชิ้นแตกต่างกัน เป็นเอกลักษณ์ และแนวคิดเชิงนามธรรมของความงามขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์”

การเรียนรู้เชิงอัลกอริทึมที่ยกระดับไปอีกขั้นนี้ เปิดโอกาสให้ Artprice สร้างแบบจำลอง AI ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับตลาดงานศิลปะ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของ Artprice โดย Artmarket ในช่วงปี 2568/2572

บริษัทต่าง ๆ ในดัชนี S&P 500 มากถึง 95% หวังใช้ปัญญาประดิษฐ์ผลักดันบริษัทให้เติบโต

นักวิเคราะห์ทางการเงินชั้นนำในกลุ่ม Anglo-Saxon ซึ่งมีความก้าวหน้าในเรื่องนี้มากกว่ายุโรป มองว่าโมเดลเดียวที่ใช้ได้ผลทางเศรษฐกิจและไม่ทำให้บริษัท (ไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่) เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง คือ AI ที่ตั้งอยู่บนกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนและมีการกำหนดขอบเขตอย่างแม่นยำ

กลุ่มธุรกิจ AI ประกอบด้วย 5 เสาหลักที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของวงการไอที ได้แก่ Big Data, Deep learning, Data Mining, อัลกอริทึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ และแน่นอน ธุรกิจหลักที่มาจากการขายข้อมูลคุณภาพสูง พร้อมการกำหนดมาตรฐานข้อมูลสำหรับทุกขั้นตอน

ข้อมูลที่ Artprice โดย Artmarket สร้างขึ้นมีบทบาทสำคัญ และบริษัทฯ ครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเสาทั้ง 5 นี้อย่างสมบูรณ์ โดยมีลิขสิทธิ์และสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องครอบคลุมอัลกอริทึม ฐานข้อมูล Big Data การเรียนรู้ของเครื่อง (deep learning) และโครงข่ายประสาททั้งหมด

สรุปคือ AI ที่จะประสบความสำเร็จอย่างงดงามในเชิงเศรษฐกิจ โดยปราศจากความเสี่ยงทางอุตสาหกรรมหรือกฎหมาย คือ AI ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ทางปัญญาในทุกขั้นตอนของ AI ในตลาดที่กำหนด ซึ่งข้อมูลมูลค่าเพิ่มสูงและมีราคาสูงนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง และนี่คือสิ่งที่ Intuitive Artmarket ® AI ของผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดงานศิลปะอย่าง Artprice โดย Artmarket.com เป็นอยู่

ความคืบหน้าของแผนแม่บทประจำปี 2568-2572 ของ AI Intuitive Artmarket®: หลังจาก Blind Spot AI® แล้ว Artprice ได้เปิดตัว AI ตัวที่ 3 อย่าง AIDB* Search Artist® หรือฐานข้อมูลปัญญาประดิษฐ์สำหรับค้นหาศิลปิน

ในแผนแม่บทปี 2568-2572 นั้น Artprice โดย Artmarket มีแผนสร้าง AI เฉพาะทางราว 20 ตัว ซึ่งแต่ละตัวจะรวบรวมความรู้ทั้งหมดของแต่ละแผนกใน Artprice เช่น แผนกเศรษฐมิติและสถิติสำหรับดัชนีตลาดศิลปะ ชีวประวัติศิลปิน คอลเลกชันเอกสารต้นฉบับและแคตตาล็อก ฐานข้อมูล กองบรรณาธิการ ผู้ขายทอดตลาดทางอินทราเน็ต สำนักข่าว ArtMarketInsight รายงานตลาดศิลปะประจำปี แผนก IT, SGE (Search Generative Experience), นักวิเคราะห์และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบริการลูกค้า ผู้ใช้งานหลายรายและลูกค้ารายใหญ่ ตลาดซื้อขายมาตรฐาน แผนกสื่อสารศิลปินและหน่วยงานครีเอทีฟ การสื่อสารเชิงสถาบันและการเงิน ฝ่ายกฎหมาย การเงิน และฝ่ายบริหาร กล่าวคือ AI เฉพาะสำหรับแต่ละแผนก

หนึ่งในแนวทางสำคัญของ Artprice ในการพัฒนา AI คือการหลีกเลี่ยงทฤษฎีฟัซซีเซต (fuzzy set) หรือ ‘ฟัซซีลอจิก’ (fuzzy logic) ซึ่งเป็นวิธีที่อิงกับ ‘ระดับความจริง’ แทนระบบตรรกะ Boolean แบบเดิมที่ใช้ 0 หรือ 1 ซึ่งหมายถึงการค้นหาองค์ประกอบที่ไม่รู้แต่ไม่อาจโต้แย้งได้ในตรรกะ Boolean

Artprice ได้พัฒนาแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับ Intuitive Artmarket® AI อย่าง Blind Spot AI® ขึ้นมา แนวคิด AI อันล้ำหน้านี้คิดค้นโดย Artprice เพื่อค้นหาจุดบอดระหว่างข้อมูลที่มีโครงสร้าง

ในแวดวงประวัติศาสตร์ศิลปะนั้น Blind Spot AI® ของเราก็เหมือนกับแนวคิด infrathin ของ Marcel Duchamp ซึ่งเป็นแนวคิดทางสุนทรียศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่บ่งบอกถึงความแตกต่างหรือช่วงเวลาที่มองไม่เห็น บางครั้งเป็นเพียงจินตนาการ แต่เป็นจริงอย่างมาก ระหว่างปรากฏการณ์สองอย่างที่ระบุได้

ทฤษฎี Duchampian นี้มาจากการทำงานร่วมกับนักคณิตศาสตร์ชื่อดังอย่าง Henri Poincaré ผู้เขียนหนังสือ Science and Hypothesis ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้แบบจำลองในวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นไปได้ว่างานนี้เป็นแรงบันดาลใจเบื้องหลังความคิดของ Einstein ที่นำไปสู่บทความสำคัญในการตั้งทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษที่ตีพิมพ์ในปี 2448

ในบรรดาผู้ให้บริการฐานข้อมูลรายใหญ่ทั่วโลก เราตระหนักดีว่าไม่มีที่ว่างสำหรับความผิดพลาด เพราะความไว้วางใจที่เราสร้างไว้กับผู้ใช้ไม่อาจยอมรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่น่าเชื่อถือได้

Artprice กำลังแสดงให้เห็นว่า บริษัทฯ สามารถสร้างข้อมูลที่ยังไม่ได้สำรวจมาก่อนได้ด้วย AI ที่เป็นกรรมสิทธิ์และกระบวนการ Blind Spot AI ® โดยไม่กระทบต่อความไว้วางใจที่สั่งสมมานานนับ 27 ปี ซึ่งมีพื้นฐานมาจากข้อมูลที่ไม่อาจโต้แย้งได้ เชื่อถือได้ ครบถ้วน และยาวนาน นับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของ Artprice ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประมูล/บริษัทประมูล ผู้ค้างานศิลปะ แกลเลอรี สถาบัน พิพิธภัณฑ์ บริษัทประกันภัย นายธนาคารส่วนบุคคล ธนาคาร ผู้จัดการสินทรัพย์ และนักสะสม

เพราะงานศิลปะบางชิ้นมีมูลค่าทางการเงินสูงมาก เราจึงตระหนักดีว่าลูกค้า Artprice ที่ภักดีและใช้บริการของเราอย่างต่อเนื่องจะไม่ยอมรับความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย

ผลการทดสอบเบต้าในช่วงปลายปี 2567 แสดงให้เห็นว่า Artprice โดย Artmarket ได้พิสูจน์แล้วว่า หลังจากที่ได้เข้ามาทำให้พฤติกรรมของระบบสอดคล้องกับความต้องการของมนุษย์ (ปัญหา ‘alignment’) ให้คงที่ในหนึ่งทศวรรษ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นและการสร้าง Intuitive Artmarket® AI ให้สำเร็จ ข้อมูลมูลค่าเพิ่มสูงที่ผลิตโดย Intuitive Artmarket® AI นั้นสอดคล้องกับจริยธรรม คุณค่า ความคาดหวัง และความรู้สึกของมนุษย์ที่จำเพาะต่อกลุ่ม Artprice โดย Artmarket รวมถึงลูกค้า และกฎเกณฑ์ที่จับต้องไม่ได้แต่เก่าแก่หลายศตวรรษของตลาดงานศิลปะ

ในปี 2568 Artprice จะเปิดให้ใช้ AIDB Search Artist® ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าและสมาชิก 9.3 ล้านคนสามารถค้นหางานศิลปะได้โดยใช้รูปถ่าย (คล้ายกับ Google Lens) โดยเป็นบริการแบบชำระเงิน เพื่อค้นหางานที่เหมือนกันหรือคล้ายกันบน Artprice พร้อมข้อมูลของศิลปิน

แอปพลิเคชัน AI ของ Artprice อย่าง AIDB Search Artist® เป็นผลลัพธ์จากการพัฒนาที่ยาวนานถึง 7 ปี โดยอาศัยข้อมูลภาพหรืองานแกะสลักศิลปะราว 210 ล้านชิ้น (รวมถึงภาพโทเค็นหลัก 18 ล้านชิ้น) ตั้งแต่ปี 2243 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมาจากคอลเลกชันต้นฉบับและแคตตาล็อกการขายงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปรียบเสมือน ‘หอสมุดอเล็กซานเดรีย’ ที่ Artprice โดย Artmarket เป็นเจ้าของ และได้รับการวิเคราะห์และใส่คำอธิบายโดยนักประวัติศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญของเรา

แอปพลิเคชัน AI AIDB Search Artist® ของ Artprice จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการควบคุมกระบวนการและลิขสิทธิ์ทั้งหมดอย่างเต็มที่ รวมถึงการเรียนรู้แบบแมนนวลในช่วงเริ่มต้นโดยผู้เชี่ยวชาญของ Artprice เพื่อฝึกฝนแอปพลิเคชัน deep-learning ซึ่งทำให้สามารถค้นหางานศิลปะได้อย่างที่ไม่มีบริษัทเฉพาะทางอื่นใดทำได้สำเร็จจนถึงปัจจุบัน

แท้จริงแล้วมีบริษัทมากถึง 30 แห่งที่พยายามทำสิ่งนี้ แต่ก็จำกัดขอบเขตอยู่แค่เนื้อหาที่ไม่สมบูรณ์ของตนเอง ซึ่งมักมีการอ้างอิงศิลปินไม่เกิน 20,000 ราย ในขณะที่ Artprice มีรายชื่อศิลปินถึง 861,000 ราย นอกจากนี้ ในหลายกรณี สิทธิ์ในการทำซ้ำผลงานของศิลปินก็ไม่ได้รับการเคารพด้วย

ในด้านทรัพย์สินทางปัญญานั้น สิทธิ์ของศิลปินมักถูกมองข้ามใน AI และมักตกเป็นเหยื่อของการละเมิดลิขสิทธิ์ นั่นคือเหตุผลที่ Artprice จ่ายค่าสิทธิ์การทำซ้ำผลงานของศิลปินที่บริษัทอ้างอิงถึง ผ่านสมาคมลิขสิทธิ์ 54 แห่งในประเทศต่าง ๆ

เครื่องมือ AI ตัวที่ 4 ของเราจะอาศัยการจดจำและความเชี่ยวชาญในเรื่องลายเซ็นและอักษรย่อของศิลปินตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 จนถึงปัจจุบัน นั่นคือ : AIDB signatures & monograms® โดย Artprice

เครื่องมือนี้ได้รับการฝึกฝนโดยใช้ฐานข้อมูลลายเซ็นและอักษรย่อที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่งของโลก ซึ่ง Artprice ได้รวบรวมมาในช่วง 28 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ Caplan & Creps (สหรัฐอเมริกา), Sound View Press (สหรัฐอเมริกา), Editions Van Wilder (ยุโรป), Enrique Mayer (สวิตเซอร์แลนด์) [ดูเอกสารอ้างอิงของ Artmarket.com]

ความคืบหน้าของแผนแม่บท Intuitive Artmarket® AI ปี 2568 เกี่ยวกับการลงทุนใน Project DIGITS ของ NVIDIA

Artprice โดย Artmarket เห็นพ้องกับแนวคิดทางเทคโนโลยีและโซลูชันทางกฎหมายของ Project DIGITS จาก NVIDIA อย่างเต็มที่

รูปแบบกล่องขนาดกะทัดรัดและประหยัดพลังงานนี้ถือเป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยให้ Artprice สามารถจัดหา Project DIGITS ให้พนักงานทุกคนใช้ในการผลิต สร้างความรู้ และพัฒนาความเชี่ยวชาญ โดยทุกอย่างจะเชื่อมต่อกับอินทราเน็ตของ Artprice โดย Artmarket ผ่านเครือข่าย DMZ เท่านั้น

Project DIGITS เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาและอนุมานบนโมเดลโดยใช้ระบบเดสก์ท็อปของตนเอง จากนั้นปรับใช้โมเดลกับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์หรือศูนย์ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Artprice ได้อย่างราบรื่น

Jensen Huang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่า “AI จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในทุกแอปพลิเคชันสำหรับทุกอุตสาหกรรม ด้วย Project DIGITS นี้ ชิป Grace Blackwell Superchip จะเข้าถึงนักพัฒนาหลายล้านคน การวางซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ไว้บนโต๊ะทำงานของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักวิจัย AI และนักศึกษาทุกคน จะช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมและสร้างสรรค์ยุคแห่ง AI ได้”

ในทำนองเดียวกัน ข้อมูลทั้งหมดที่สร้างโดย AI เฉพาะของ Artprice จะถูกสร้างขึ้นจากแหล่งข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ 180 แห่งเท่านั้น ซึ่งช่วยลดปรากฏการณ์ ‘ภาพหลอน’ (hallucination) ที่มักเกิดขึ้นกับ AI ได้อย่างมาก นอกจากนี้ การควบคุมอคติทางระเบียบวิธีได้รับการจัดการได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากสายการคำนวณและการวิเคราะห์ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับฐานข้อมูลของ Artprice และอินทราเน็ตทั่วโลก ซึ่งเชื่อมต่อกับบริษัทประมูลราว 7,200 แห่งที่เป็นพันธมิตรมาเป็นเวลา 28 ปี

Artprice มองว่า Project DIGITS ของ NVIDIA เป็นผลจากนวัตกรรมที่โดดเด่น นั่นคือชิป GB10 Grace Blackwell โดยกล่องที่ใช้ชิปนี้ให้พลังการประมวลผลถึง 1 petaflop หรือเทียบเท่ากับการดำเนินการ 1,000 ครั้งต่อวินาทีด้วยความแม่นยำระดับ FP4 ทั้งยังมีจุดแข็งอยู่ที่ความสามารถในการรันโมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์มากถึง 2 แสนล้านพารามิเตอร์ และเพิ่มขึ้นได้ถึง 4.05 แสนล้านเมื่อต่ออุปกรณ์ 2 ตัวเข้าด้วยกัน

อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ NVIDIA DGX OS บน Linux

Artprice โดย Artmarket ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและฐานข้อมูลทั้งหมดโดยใช้ Linux มาตั้งแต่ต้น และด้วยเหตุนี้จึงมีความเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่ใน Linux Kernel เพื่อรองรับ Project DIGITS สำหรับพนักงาน Artprice ทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะมีหน้าที่อะไร

Artprice เชื่อว่ากลยุทธ์นี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างแน่นอน โดย NVIDIA นำเสนออุปกรณ์ที่มีพลังมหาศาลในราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของ Artprice และตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการประมวลผลแบบเร่งความเร็ว

Artprice ยกระดับไปอีกขั้น จากการวิเคราะห์ Deepseek-R1

Artprice โดย Artmarket ติดตามและวิเคราะห์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) หลัก ๆ ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นโอเพนซอร์ส

นับตั้งแต่ที่ได้เปิดตัวในเดือนมกราคม 2568 Artprice ก็ได้ลงมือวิเคราะห์ Deepseek R1 ในโอเพนซอร์ส ซึ่งเป็นโมเดลระดับ 6.71 แสนล้านพารามิเตอร์ และมีประสิทธิภาพเทียบเท่า OpenAI แต่มีต้นทุนลดลงถึง 90-95% เพราะใช้โมเดล Llama และ Qwen 6 โมเดล

DeepSeek ยังคงพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และได้เปิดตัว DeepSeek-R1 ซึ่งใช้การผสมผสานระหว่าง RL และการปรับแต่งแบบมีผู้สอน เพื่อรองรับงานที่ต้องอาศัยการให้เหตุผลที่ซับซ้อน และมีประสิทธิภาพเทียบเท่า Open AI o1

ในการทดสอบนั้น DeepSeek-R1 ทำคะแนนได้ 79.8% ในการทดสอบคณิตศาสตร์ AIME 2024 และ 97.3% ใน MATH-500 นอกจากนี้ยังได้คะแนน 2,029 ใน Codeforces ซึ่งดีกว่าโปรแกรมเมอร์ที่เป็นมนุษย์ 96.3% ในขณะเดียวกัน โมเดล o1-1217 ของ Open AI ทำคะแนนได้ 79.2%, 96.4% และ 96.6% ตามลำดับในการทดสอบเหล่านี้ นอกจากนี้ DeepSeek-R1 ยังมีความรู้ทั่วไปที่แข็งแกร่ง โดยมีความแม่นยำมากถึง 90.8% ใน MMLU ซึ่งตามหลัง o1 ที่ได้ 91.8% เพียงเล็กน้อย

สำหรับ Artprice โดย Artmarket แล้ว การถกเถียงที่เกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับ Deepseek เป็นเพียงการยืนยันถึงความสำคัญของงานและการวิเคราะห์ของ Artprice เกี่ยวกับความต้องการที่วัดผลได้จริงสำหรับ Intuitive Artmarket® AI

ปัจจัยสำคัญที่สะท้อนให้เห็นผลกระทบของ Deepseek ได้อย่างชัดเจน คือเหตุการณ์ ‘Black Monday’ ในตลาดวอลล์สตรีทเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเงินไหลออกจากหุ้นเทคโนโลยีของอเมริกาถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ โลกตะวันตกส่วนใหญ่ต่างรู้สึกประหลาดใจที่ได้ค้นพบโมเดลภาษาของสตาร์ตอัปแห่งนี้ ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับผู้นำ AI ของอเมริกา (OpenAI, Anthropic, Meta) แต่มีต้นทุนการใช้งานที่ต่ำกว่าอย่างมาก

ใน ‘วันอันมืดมน’ ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนี้ มีบริษัทหนึ่งที่ทำผลงานได้ดีกว่าบริษัทอื่น ๆ นั่นคือ Apple ซึ่งมีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3.18% แม้บริษัทฯ ก็มีความเกี่ยวข้องกับวงการปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้างผ่านเทคโนโลยี Apple Intelligence ก็ตาม หนึ่งในเหตุผลของความแข็งแกร่งนี้คือผลงานของ DeepSeek ที่สนับสนุนแนวทางหลายประการที่ Apple เลือกเดิน

สำหรับกลุ่ม Artprice นั้น การควบคุมต้นทุนพลังงานของ AI เป็นข้อเท็จจริงที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงการผู้เผยแพร่ฐานข้อมูลเฉพาะด้านขนาดใหญ่ ซึ่ง Artprice เองก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น

วิสัยทัศน์ของ Apple Intelligence ตอกย้ำความเชื่อมั่นของ Artprice

แนวคิดของเราสอดคล้องกับ Apple Intelligence ที่ Tim Cooks ซีอีโอของ Apple เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าลูกค้าของเขาคือเหล่าครีเอเตอร์และศิลปินที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง โดยไม่ถูกผู้อื่นปล้นไป ที่ Artprice เราได้จัดหาชิป M4 ที่มาพร้อม Neural Engine ของ Apple ให้กับพนักงานในแผนก Artistic Direction ในขณะที่รอชิป AI จาก Apple ที่พัฒนาร่วมกับ Broadcom และปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ “Baltra”

Artprice วิเคราะห์ประเด็น Peak Data พร้อมนำเสนอการวิเคราะห์ระบบนิเวศอินเทอร์เน็ต

สำหรับ Artprice แล้ว คำเตือนของ Elon Musk ซึ่งสอดคล้องกับคำทำนายของ Ilya Sutskever อดีตหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ OpenAI ที่เคยเตือนตั้งแต่ปี 2565 ถึงการใกล้มาถึงของช่วงเวลา “peak data” นั้น เป็นเรื่องจริงที่จับต้องได้ แนวคิดนี้ ซึ่งยืมมาจากทฤษฎี “peak oil” บ่งชี้ว่า ปริมาณข้อมูลที่มีคุณภาพสำหรับการฝึก AI ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเว็บและกิจกรรมออนไลน์ของมนุษย์ ได้ถึงจุดสูงสุดแล้วและกำลังเริ่มที่จะลดลง

Artprice มองว่า Peak Data, Slop และการค่อย ๆ เสื่อมถอยของเว็บไซต์ฟรีเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศอินเทอร์เน็ต ในทำนองเดียวกัน “การกินตัวเอง” (autophagy) หรือการที่ AI ป้อนข้อมูลให้ AI กันเอง ก็ทำให้โมเดลล่มสลายได้ ซึ่งจะสร้างผลลัพธ์ที่เริ่มแรกมีความเป็นเอกลักษณ์และความเกี่ยวข้องน้อยลงเรื่อย ๆ และในที่สุดก็ไม่มีความหมาย ตามบทความที่ตีพิมพ์เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature

ในทางปฏิบัตินั้น การใช้ข้อมูลประเภทที่เรียกว่า “ข้อมูลสังเคราะห์” (เพราะเครื่องจักรสร้างขึ้นมา) ทำให้ตัวอย่างที่โมเดล AI ใช้ในการให้คำตอบนั้นสูญเสียความหลากหลายไป

การวิเคราะห์โดย Eric Schmitt อดีตซีอีโอของ Google สนับสนุนโมเดลเศรษฐกิจ AI ของ Artprice

ในการประชุมที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดนั้น Eric Schmitt แสดงให้เห็นว่าเขาเห็นด้วยกับแนวคิดของ Artprice ที่โมเดลเศรษฐกิจที่ดีของ AI จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อใช้โมเดลแบบชำระเงินเท่านั้น เนื่องจาก AI ต้องการข้อมูลมูลค่าเพิ่มสูงที่มีลิขสิทธิ์และสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ คอยคุ้มครองเพื่อใช้ฝึกฝน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ Artprice มาเป็นเวลาถึง 28 ปี

นอกจากนี้ อดีตซีอีโอของ Google รายนี้ยังระบุว่า การใช้จ่ายเงินสดในการพัฒนา AI นั้นสูงมากจนบริษัทจะต้องมีโมเดลเศรษฐกิจแบบชำระเงิน เนื่องจากข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตฟรีจะ “หมด” เมื่อมาถึงจุด Peak Data

เกี่ยวกับกฎหมาย AI ของสหภาพยุโรปและประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาของ AI ทั่วโลก

จากข้อมูลของ Perplexity AI นั้น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาและ AI ยังอยู่ในช่วงพัฒนา แต่มีหลักการสำคัญบางประการที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ

กฎหมาย AI มุ่งปกป้องสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ ไม่ให้ผลงานของพวกเขาถูกระบบ AI เชิงรู้สร้างนำไปใช้ โดยอาศัยมาตรการสำคัญหลายประการ ได้แก่

– ข้อผูกมัดในเรื่องความโปร่งใส: ผู้ให้บริการ AI เชิงรู้สร้างต้องระบุว่าข้อมูลที่ใช้ในการฝึกโมเดลของพวกเขามีลิขสิทธิ์คุ้มครองหรือไม่ ทั้งยังต้องให้ข้อมูลสรุปโดยละเอียดของงานที่ได้รับการคุ้มครองที่นำไปใช้ ตาม Article 28 ter ของกฎหมาย AI

– สิทธิ์ในการคัดค้าน (opt-out): ผู้สร้างสรรค์สามารถปฏิเสธไม่ให้นำผลงานของพวกเขาไปใช้ฝึก AI โดยใช้สิทธิ์ในการคัดค้าน กลไกนี้ได้รับการกำหนดไว้ใน European Copyright Directive ปี 2562 และมีกฎหมาย AI ส่งเสริมอีกแรง แม้จะยังคงเป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติ เพราะขาดการควบคุมการใช้งานผลงานจริงทางออนไลน์

– การตรวจสอบย้อนกลับและความรับผิด: กฎหมาย AI กำหนดข้อกำหนดด้านการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อให้แน่ใจว่านักพัฒนา AI แจ้งให้ผู้ใช้และผู้ถือสิทธิ์ทราบเกี่ยวกับที่มาของข้อมูลที่ใช้ ทำให้การจัดการสิทธิ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มความโปร่งใส

– กรอบกฎหมาย: กฎระเบียบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการปกป้องผู้สร้างสรรค์ โดยจัดตั้งกลไกต่าง ๆ เช่น การจัดการร่วม ซึ่งอำนวยความสะดวกในการขออนุญาตและรับประกันค่าตอบแทนที่เป็นธรรมแก่ผู้สร้างสรรค์ ในการนำผลงานของพวกเขาไปใช้ในเชิงพาณิชย์

บทบัญญัติเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี AI เชิงรู้สร้างอย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส

จากข้อมูลของ Artprice ภายใต้กรอบกฎหมาย AI ของยุโรปและการจัดตั้งสำนักงาน AI ของสหภาพยุโรป แต่ละเขตอำนาจจะต้องเผชิญกับภาระผูกพันใหม่ ๆ มากมายภายในกำหนดเวลาที่บางครั้งกระชั้นชิด โดย Artprice พบความรับผิดชอบ 88 ประการในระดับประเทศ ซึ่งมีการหารือกันอย่างสม่ำเสมอในการประชุมคณะกรรมการบริหารและการประชุมควบคุมภายใน

ล่าสุด ในระหว่างการประชุมสุดยอด AI Action Summit ประธานาธิบดี Emmanuel Macron กล่าวว่า “เราจะยังคงปกป้องลิขสิทธิ์และสิทธิ์ที่เกี่ยวข้อง เราจะยังคงรักษางานสร้างสรรค์ของมนุษย์ โดย AI จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงและสิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่ความคิดสร้างสรรค์ยังคงเป็นของมนุษย์ อย่างแรกเลยคือ AI เป็นการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงเพื่อความก้าวหน้า และเพื่อความก้าวหน้าที่ว่านี้ การปฏิวัตินี้จะต้องมุ่งรับใช้มนุษยชาติ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต”

ปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้กำลังเปลี่ยนแปลงโลกปัจจุบันอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดงานศิลปะ และเราจะวัดผลกระทบนี้ได้อย่างไร ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญอย่างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

สำหรับ thierry Ehrmann ผู้ก่อตั้ง Artprice และซีอีโอของ Artmarket.com นั้น

“เราอยู่ในโลกที่พลังการประมวลผลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุก 6 เดือน กฎของ Gordon Moore (ผู้ก่อตั้ง Intel) ที่เคยกล่าวไว้ว่าจำนวนทรานซิสเตอร์บนชิปเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุก 18 เดือนในราคาที่เท่ากัน ได้ถูกแซงหน้าไปแล้วด้วย ‘กฎการปรับขนาด’ (scaling law) ใหม่ ๆ จากนี้ไป ความเร็วของ AI เชิงรู้สร้างสามารถวัดได้จากสูตรที่ผมเสนอเป็น ‘token (สินทรัพย์ดิจิทัล) ต่อยูโรและต่อวัตต์’ นั่นคือหน่วยวัดใหม่ที่สอดคล้องกับวิธีที่ AI ประมวลผลคำขอข้อมูล โดยคำนึงถึงเงินยูโรที่ใช้ไปและพลังงานที่ใช้จริงแต่ละวัตต์

เราเชื่อมั่นว่าการที่ผู้ผลิต LLM จะมองข้ามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง สิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่เกินกว่าจะละเลยได้ โดย Deepseek R1 และนักวิจัยอีกหลายท่านจากโลกตะวันตกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ยืนยันตรงกันว่า การออกแบบ LLM นั้นใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นได้ เป็นเรื่องน่าแปลกที่ในช่วงเวลาที่เราให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ประเด็นนี้กลับถูกมองข้ามไปเสียอย่างนั้น

เราต้องไม่ลืมว่า การทำงานของภาษาในสมองมนุษย์นั้น AI เริ่มเลียนแบบได้ดีแล้ว ในขณะที่ความสามารถด้านคณิตศาสตร์และเรขาคณิตยังคงเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมองในแง่ของวงจรรวม สมองมนุษย์นั้น เมื่อว่ากันในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ยังคงเป็นสิ่งที่เลียนแบบไม่ได้จนถึงทุกวันนี้

แม้เราจะเริ่มเข้าใจกลไกการทำงานของอัลกอริทึม และสร้างขึ้นใหม่ในเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากโดยมีพารามิเตอร์หลายแสนล้านตัว เราก็ยังไม่สามารถทำซ้ำได้ด้วยประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เท่าเทียมกัน ในขณะที่สมองมนุษย์มีน้ำหนัก 1.4 กิโลกรัมและทำงานโดยใช้พลังงานเพียง 30 วัตต์ ยักษ์ใหญ่ด้าน AI ในสหรัฐอเมริกา กำลังเร่งเดินหน้าสู่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์และเขื่อนยักษ์ … จริง ๆ แล้ว Microsoft กำลังเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island อีกครั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน สมองมนุษย์ที่มีความสามารถในการจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ยังคงไม่มีใครเทียบได้ เมื่อวัดกันด้วยหน่วยวัดของ AI ที่เรียกว่า “token ต่อยูโรและต่อวัตต์”

thierry Ehrmann ผู้ก่อตั้ง Artprice และ Groupe Serveur และซีอีโอของ Artmarket.com มองว่า แนวทางการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในเรื่อง AI นั้นไม่มีอะไรซับซ้อน

“ไม่มีปัญญามนุษย์ ก็ไม่มีปัญญาประดิษฐ์” แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นความสำคัญที่กลุ่มบริษัทของเรามีให้กับการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัญญามนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์ในการพัฒนา AI ของเราเองอย่าง Intuitive Artmarket® “ปรัชญานี้ฝังรากลึกอยู่ในกลุ่มบริษัทของเราตั้งแต่เราเริ่มพัฒนา AI ในปี 2530 ด้วยอัลกอริทึมการจดจำรูปร่างซึ่งเป็นหัวใจของสเตชัน Lumière® (ภาพที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์) ซึ่งออกแบบโดย Groupe Serveur และอิงตามเทคนิคขั้นสูง เช่น การเรนเดอร์ 3 มิติ การจำลองแสงและสสาร การสร้างแบบจำลองเวกเตอร์ และโหมดแรสเตอร์”

การวิเคราะห์ Perplexity AI โดย Artprice และ Groupe Serveur

หัวข้อและการศึกษา AI หลายสิบหัวข้อที่ Artprice ดำเนินการมาหลายปี รวมถึงประวัติการพัฒนา Intuitive Artmarket® AI, Blind Spot AI® ในฐานะแนวคิดปฏิวัติในด้าน AI ซึ่ง Artprice เป็นผู้คิดค้นนั้น มีให้อ่านที่ https://www.perplexity.ai/ 

Groupe Serveur ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Artprice ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มเครื่องมือค้นหา Linux เครื่องแรกในฝรั่งเศสอย่าง Netscan เมื่อช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 พิจารณาจากความเชี่ยวชาญมากกว่า 38 ปีจนพบว่า Perplexity AI ได้กลายเป็นโซลูชันที่ดีที่สุดในแวดวงปัญญาประดิษฐ์ทุกวันนี้ ในฐานะเครื่องมือค้นหาและแชตบอตที่ล้ำหน้า โดยผนวกรวม 2 บทบาทเหล่านี้ จนทำให้เข้าใจภาษาธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง

Aravind Srinivas ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Perplexity ซึ่งก่อตั้งขึ้นร่วมกับ Denis Yarats, Johnny Ho และ Andy Konwinski ได้ทำให้ Perplexity AI กลายเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพสู้กับ Google ซึ่งในปี 2568 นั้น นักวิจัย Deep Web ใช้เป็นเครื่องมือทำงานหลัก

ความคิดริเริ่มเบื้องหลัง Perplexity AI กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเครื่องมือสนทนาที่สามารถตอบคำถามต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ โดย Artprice และ Groupe Serveur มองว่า สิ่งนี้ทำให้ Perplexity AI มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในด้าน AI โดยเคารพลิขสิทธิ์และสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเมื่อแสดงแหล่งที่มา

Perplexity AI ลงทุนยกระดับความก้าวหน้าทางเทคนิค โดยได้สร้างสถาปัตยกรรมที่ใช้วิธีการทางประสาทสมัยใหม่ ซึ่งช่วยให้ตีความและจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับภาษาที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น ขณะที่แวดวงผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือค้นหา เช่น ที่ปรึกษา SEO, ผู้ให้บริการ Web SEO และ Creative Netlinker ที่ทำงานกับอัลกอริทึม SE ส่วนใหญ่ก็นิยมใช้ Perplexity AI ตามความคิดเห็นที่ Artprice และ Groupe Serveur รวบรวมไว้ในเดือนมกราคม 2568

สงวนลิขสิทธิ์ 2530-2568 thierry Ehrmann www.artprice.com – www.artmarket.com

ฝ่ายเศรษฐมิติของ Artprice สามารถตอบทุกคำถามของคุณเกี่ยวกับสถิติและการวิเคราะห์ส่วนบุคคลได้: econometrics@artprice.com

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรากับศิลปินในการสาธิตฟรี: https://artprice.com/demo

บริการของเรา: https://artprice.com/subscription

เกี่ยวกับ Artmarket.com

Artmarket.com มีชื่ออยู่ใน Eurolist โดย Euronext Paris การวิเคราะห์ของ TPI ล่าสุดประกอบไปด้วยผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 18,000 ราย โดยไม่รวมผู้ถือหุ้นต่างชาติ, บริษัท, ธนาคาร, FCP, UCITS: Euroclear: 7478 – Bloomberg: PRC – Reuters: ARTF

รับชมวิดีโอเกี่ยวกับ Artmarket.com และฝ่าย Artprice: https://artprice.com/video

Artmarket และฝ่าย Artprice ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 โดยซีอีโอ thierry Ehrmann ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Groupe Serveur (ก่อตั้งขึ้นในปี 2530) อ้างอิงชีวประวัติที่ได้รับการรับรองจาก Who’s Who In France©:

https://imgpublic.artprice.com/img/wp/sites/11/2025/02/2025-Biographie_de_Thierry_Ehrmann-Who-s-Who-In-France.pdf

Artmarket เป็นผู้นำระดับโลกในตลาดงานศิลปะ โดยหนึ่งในโครงสร้างขององค์กรคือฝ่าย Artprice ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการสะสม การจัดการ และการแสวงหาประโยชน์จากข้อมูลตลาดงานศิลปะทั้งในประวัติศาสตร์และปัจจุบัน (เอกสารต้นฉบับ เอกสารโคเด็กซ์ต้นฉบับ หนังสือที่มีคำอธิบายประกอบ และแคตตาล็อกการประมูลที่ได้มาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา) ในคลังข้อมูลที่ประกอบด้วยดัชนีและผลการประมูลกว่า 30 ล้านรายการ ครอบคลุมศิลปินกว่า 863,000 ราย

Artprice Images® ช่วยให้เข้าถึงคลังภาพตลาดงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีภาพดิจิทัลไม่น้อยกว่า 181 ล้านรายการจากภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์จากผลงานศิลปะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2243 จนถึงปัจจุบัน พร้อมความเห็นจากนักประวัติศาสตร์งานศิลปะของเรา

Artmarket และฝ่าย Artprice ได้ปรับปรุงฐานข้อมูลของบริษัทประมูล 7,200 แห่ง และเผยแพร่แนวโน้มตลาดศิลปะอย่างต่อเนื่องให้กับเอเจนซี่และสื่อหลักทั่วโลกใน 119 ประเทศ และ 9 ภาษา

https://www.prnewswire.com/news-releases/artmarketcom-artprice-and-cision-extend-their-alliance-to-119-countries-to-become-the-worlds-leading-press-agency-dedicated-to-the-art-market-nfts-and-the-metaverse-301431845.html

Artmarket.com ให้บริการโฆษณาที่โพสต์โดยสมาชิกแก่สมาชิก 9.3 ล้านคน (สมาชิกที่เข้าสู่ระบบ) ซึ่งขณะนี้ถือเป็น Standardized Marketplace® แห่งแรกของโลกสำหรับการซื้อขายงานศิลปะในราคาคงที่หรือราคาประมูล (กำกับดูแลการประมูลตามวรรคที่ 2 และ 3 ของมาตรา L321.3 ของประมวลกฎหมายพาณิชย์แห่งฝรั่งเศส)

อนาคตสำหรับตลาดศิลปะมาถึงแล้วด้วย Intuitive Artmarket® AI ของ Artprice

Artmarket และฝ่าย Artprice ได้รับรางวัล “บริษัทแห่งนวัตกรรม” โดย French Public Investment Bank (BPI) ถึงสองครั้ง ซึ่งเป็นรางวัลที่สนับสนุนบริษัทที่ดำเนินโครงการเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดงานศิลปะ

Artprice โดย Artmarket ได้เผยแพร่รายงานตลาดศิลปะร่วมสมัยปี 2567:

https://www.artprice.com/artprice-reports/the-contemporary-art-market-report-2024

ดูรายงานตลาดศิลปะโลกประจำปี 2566 ของเรา ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนมีนาคม 2567 จาก Artprice โดย Artmarket: https://www.artprice.com/artprice-reports/the-art-market-in-2023

สรุปข่าวประชาสัมพันธ์ของ Artmarket กับฝ่าย Artprice: https://serveur.serveur.com/artmarket/press-release/en/

ติดตามข่าวสารตลาดงานศิลปะทั้งหมดแบบเรียลไทม์กับ Artmarket และฝ่าย Artprice ทาง Facebook และ Twitter:

www.facebook.com/artpricedotcom/ (ผู้ติดตามมากกว่า 6.5 ล้านคน)

twitter.com/artmarketdotcom

twitter.com/artpricedotcom

สำรวจการเล่นแร่แปรธาตุและจักรวาลของ Artmarket และแผนก Artprice: https://www.artprice.com/video

ซึ่งมีสำนักงานใหญ่คือพิพิธภัณฑ์อันโด่งดังอย่าง Museum of Contemporary Art Abode of Chaos dixit The New York Times / La Demeure of Chaos:

https://issuu.com/demeureduchaos/docs/demeureduchaos-abodeofchaos-opus-ix-1999-2013

La Demeure du Chaos/Abode of Chaos – Total Work of Art and Singular Architecture
เปิดตัวผลงานลับสองภาษาสู่สาธารณะ: https://ftp1.serveur.com/abodeofchaos_singular_architecture.pdf

ติดต่อ Artmarket.com และฝ่าย Artprice – Thierry Ehrmann, ir@artmarket.com

รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2617848/AI_Action_Summit.jpg?p=medium600
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2617847/AI_Intuitive_Artmarket.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2260897/Artmarket_logo.jpg?p=medium600

 

AI Intuitive Artmarket®
AI Intuitive Artmarket®

 

 

 

View original content to download multimedia: Read More