Skip to content
Home » News » นครฉงชิ่งเปิดเวทีเสวนาความร่วมมือทางกฎหมายจีน-อาเซียน มีผู้แทนเข้าร่วมกว่า 300 ราย

นครฉงชิ่งเปิดเวทีเสวนาความร่วมมือทางกฎหมายจีน-อาเซียน มีผู้แทนเข้าร่วมกว่า 300 ราย

ฉงชิ่ง, จีน, 21 พ.ย. 2568 /PRNewswire/ — รายงานข่าวจาก iChongqing

การประชุมว่าด้วยความร่วมมือทางกฎหมายจีน-อาเซียน ครั้งที่ 7 ได้เปิดม่านขึ้นที่นครฉงชิ่ง ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน โดยมีผู้แทนจากนานาประเทศเข้าร่วมงานมากกว่า 300 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญจากหน่วยงานด้านนิติบัญญัติ ตุลาการ และองค์กรกฎหมายภาครัฐของกลุ่มประเทศอาเซียน ตลอดจนผู้นำจากภาคการศึกษา ภาคกฎหมาย และภาคธุรกิจ โดยมีผู้เข้าร่วมจากไทย ลาว อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

การประชุมครั้งนี้มีการนำเสนอการปาฐกถาหลัก ควบคู่ไปกับการจัดเวทีการประชุมย่อย 3 หัวข้อ ได้แก่ เวทีคณบดีคณะนิติศาสตร์จีน-อาเซียน, เวทีอนุญาโตตุลาการการค้าสากลว่าด้วยระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศใหม่ (ILSTC) และเวทีจีน-อาเซียน ว่าด้วยธรรมาภิบาลอาชญากรรมข้ามพรมแดน โดยสาระสำคัญของการหารือมุ่งเน้นไปที่การศึกษาด้านกฎหมาย อนุญาโตตุลาการทางการค้า และการควบคุมดูแลอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อยกระดับกรอบกฎหมายให้เข้มแข็ง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาภูมิภาค

ASEAN guests attended the 7th China-ASEAN Legal Cooperation Forum in Chongqing. (Photo/Chen Zhan)
ASEAN guests attended the 7th China-ASEAN Legal Cooperation Forum in Chongqing. (Photo/Chen Zhan)

ในพิธีเปิดนั้น ผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนต่างตอกย้ำความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของความร่วมมือด้านกฎหมาย ในภาวะที่ภูมิรัฐศาสตร์ยังคงผันผวนและการพึ่งพาทางเศรษฐกิจระหว่างกันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีไทย ได้เน้นย้ำว่า กรอบกฎหมายที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะด้านการคุ้มครองการลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา การค้าดิจิทัล และการจัดการข้อมูล เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจข้ามพรมแดนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเพื่อรับประกันว่าภาคธุรกิจจะสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคงและคาดการณ์ผลลัพธ์ได้

ด้านคุณ Viengthong Siphandone เลขาธิการประจำคณะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และประธานศาลประชาชนสูงสุดแห่ง สปป. ลาว ให้ความเห็นว่า ข้อตกลงยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 นั้นตอบโจทย์ความต้องการของประเทศสมาชิกในการเพิ่มความเปิดกว้างและความเสรีทางการค้า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ และเงินทุนได้อย่างอิสระ พร้อมทั้งส่งเสริมกฎเกณฑ์ทางการค้าที่มีความโปร่งใสและให้ผลประโยชน์ร่วมกัน

ส่วนคุณ Suharto, S.H., M.Hum รองประธานศาลฎีกาอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บทบัญญัติใหม่ของข้อตกลงที่ว่าด้วยเศรษฐกิจสีเขียวนั้น สอดคล้องกับเป้าหมายของอินโดนีเซียในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2603 และพัฒนาซัพพลายเชนยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยกรอบการทำงานนี้จะเปิดโอกาสให้เข้าถึงเทคโนโลยีสีเขียวของจีน รวมถึงการลงทุนในภาคพลังงานหมุนเวียนและการแปรรูปแร่ธาตุ

ในระหว่างพิธี ทางศูนย์วิจัยกฎหมายจีน-อาเซียน และมหาวิทยาลัย Southwest University of Political Science and Law ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับพันธมิตรในอาเซียน นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่สิ่งพิมพ์สำคัญหลายรายการ อาทิ กฎหมายสำคัญของอาเซียน คู่มือปฏิบัติจริงสำหรับอนุญาโตตุลาการทางการค้าสากลในกลุ่มประเทศอาเซียน และชุดกรณีศึกษาบริการทางกฎหมายที่เชื่อมโยงกับ ILSTC

นับตั้งแต่เริ่มต้นจัดตั้ง เวทีเสวนานี้ได้รับความสนใจและการมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอจากรัฐบาลอาเซียน องค์กรระหว่างประเทศ และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เกิดข้อตกลงความร่วมมือข้ามพรมแดนกว่า 20 ฉบับ และมีการออกแนวปฏิบัติทางกฎหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเข้ามาขับเคลื่อนความก้าวหน้าทั้งในมิติทางทฤษฎีและทางปฏิบัติของวงการกฎหมาย

 

View original content to download multimedia: Read More