คุณ Li Peng จาก Huawei นำเสนอการใช้ประโยชน์สูงสุดจากคุณค่าของเครือข่าย 5G ในยุค AI

บาร์เซโลนา สเปน, 4 มี.ค. 2568 /PRNewswire/ — ในงาน MWC Barcelona ประจำปี 2568 คุณ Li Peng รองประธานอาวุโสฝ่ายองค์กร และประธานฝ่ายขายและบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ของ Huawei กล่าวบรรยายเกี่ยวกับแนวทางที่ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจาก AI เพื่อปลดล็อกคุณค่าของเครือข่ายของตนอย่างเต็มที่ คุณ Li คาดการณ์ว่าการพึ่งพากันระหว่างเทคโนโลยี 5G-A และ AI จะกระตุ้นการเติบโตระดับตัวเลขสองหลักในทั้ง DOU (ปริมาณการใช้งานข้อมูล) และ APRU (รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน) จากผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่

“เรากำลังเข้าสู่โลกอัจฉริยะเต็มรูปแบบอย่างรวดเร็ว การประยุกต์ใช้งานอัจฉริยะแผ่ขยายอยู่ในทุกที่ ก่อให้เกิดความต้องการใหม่ ๆ สำหรับเครือข่าย” คุณ Li กล่าว “ด้วยการโอบรับและพัฒนา 5G เราสามารถปลดล็อกศักยภาพไร้ขีดจำกัดของเครือข่ายเคลื่อนที่ ในการนี้ Huawei ยินดีและพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพันธมิตรในอุตสาหกรรมทั่วโลกเพื่อส่งเสริมการสนับสนุนการใช้งานดิจิทัล เสริมสร้างพื้นฐานเครือข่าย และนำ AI มาสู่คนทั้งมวล ด้วยการร่วมมือกัน เราสามารถกำหนดสร้างดีเอ็นเอสำหรับโลกที่อัจฉริยะ”

Li Peng, Huawei's Corporate Senior Vice President and President of ICT Sales & Service, speaking at MWC Barcelona 2025
Li Peng, Huawei’s Corporate Senior Vice President and President of ICT Sales & Service, speaking at MWC Barcelona 2025

AI กำลังเปลี่ยนแปลงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเครื่อง ทำให้มีความต้องการระดับความหน่วงที่แตกต่างกัน

ด้วยความก้าวหน้าของ AI การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเครื่อง หรือ HMI กำลังพัฒนาจากการสื่อสารด้วยข้อความอย่างเรียบง่ายเป็นการตอบโต้ด้วยเสียง ท่าทาง และปฏิสัมพันธ์หลายรูปแบบอื่น ๆ ส่งผลให้ HMI เป็นไปอย่างเรียลไทม์และสะดวกกว่าที่เคย นำไปสู่กระแสใหม่ของการประยุกต์ใช้เชิงนวัตกรรม ยกตัวอย่างเช่น คนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับอุปกรณ์ของตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยใช้ผู้ช่วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI และในโทรศัพท์ระบบคลาวด์ รูปตัวแทนที่ใช้ AI สามารถมอบการตอบสนองเชิงภาพได้ด้วย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะบุคคลมากขึ้นสำหรับบริการอย่างการติดตามสุขภาพ ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมือถือเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้และมีผลิตภาพกว่าเดิมมากสำหรับผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการใช้งานเหล่านี้ เครือข่ายจำเป็นต้องสามารถมอบการรับประกันความหน่วง ซึ่งจะต้องมีการยกระดับอย่างต่อเนื่องจากเครือข่าย 5G NSA เป็น 5G SA และเป็น 5G-A ในที่สุด ผู้ให้บริการเครือข่ายยังสามารถใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมอย่าง CUPS (การแยกส่วนระหว่างระนาบควบคุมและระนาบผู้ใช้) และ GBR (อัตราบิตที่รับประกัน) เพื่อลดความหน่วงพื้นฐานและรับประกันค่าความหน่วงที่แตกต่างและมีการกำหนดสำหรับสภาวการณ์ที่จำเพาะ

การสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ด้วย AI ยกระดับมาตรฐานความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลด

คุณ Li กล่าวต่อว่า AI จะเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี AIGC ทำให้สามารถสร้างวิดีโอสองมิติและสามมิติภายในคลิกเดียว ขณะเดียวกัน การแนะนำโดย AI มีการมุ่งเป้ามากกว่าที่เคย ทำให้สามารถเผยแพร่คอนเทนต์ที่เฉพาะบุคคลมากขึ้นสู่ผู้ชมในวงกว้างขึ้นทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต กระแสแนวโน้มทั้งสองนี้จะทำให้ทราฟฟิกของเครือข่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงห้าปีข้างหน้านี้ ซึ่งก่อให้เกิดความต้องการสำหรับเครือข่ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อให้รองรับได้ ผู้ให้บริการเครือข่ายจะต้องมีสเปกตรัมเพิ่มเติม ความจุเครือข่ายที่สูงขึ้น และแบนด์วิดธ์การส่งถ่ายอัปลิงก์และดาวน์ลิงก์ที่กว้างขึ้นมาก

บริการ AI ที่หลากหลายจะต้องมีความครอบคลุมของเครือข่ายที่มุ่งเน้นประสบการณ์เป็นหลัก

ทั้งระบบคลาวด์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้บริการอัจฉริยะเข้าถึงได้มากขึ้น และอุตสาหกรรมจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับความครอบคลุมของเครือข่ายที่มุ่งเน้นประสบการณ์เป็นหลัก ข้อมูลขององค์กรภายนอกชี้ว่า โทรศัพท์ระบบคลาวด์และไดรฟ์ระบบคลาวด์จะมีผู้ใช้งานมากกว่าหนึ่งพันล้านคนภายในปี 2573 ซึ่งทุกคนจะต้องการการเข้าถึงพลังประมวลผลระบบคลาวด์ที่รวดเร็ว นอกจากนี้ แอปพลิเคชันอัจฉริยะในยานพาหนะจะต้องมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วทั้งเมือง ทางหลวง และพื้นที่ชนบท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ต่อเนื่องและเชื่อถือได้

ในการก้าวต่อไปข้างหน้า การรองรับความต้องการเหล่านี้จะต้องใช้การพัฒนาความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจากเครือข่าย 5G NSA เป็นเครือข่าย 5G SA เพื่อประสบการณ์การใช้งานภายในและภายนอกอาคารที่ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น และในที่สุดไปสู่เครือข่าย 5G-A ที่มุ่งเน้นประสบการณ์เป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายขยายความครอบคลุมและสามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นสำหรับการเชื่อมต่อใหม่หลายหมื่นล้านรายการสำหรับผู้คน และการเชื่อมต่อ IoT ใหม่หลายแสนล้านรายการระหว่างสิ่งต่าง ๆ

ความซับซ้อนของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นจะขับเคลื่อนการพัฒนาสู่การปฏิบัติการและบำรุงรักษา (O&M) ที่มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้งานเป็นหลัก

AI จะนำมาซึ่งสภาวการณ์การประยุกต์ใช้งานที่ซับซ้อนขึ้นและความต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายขึ้น ซึ่งจากมุมมองด้านเครือข่าย จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงจากการปฏิบัติการและบำรุงรักษาที่มุ่งเน้นทรัพยากรแบบเดิมไปสู่แนวทางที่มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้งานมากขึ้น

ขณะนี้ผู้ให้บริการเครือข่ายบางรายกำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการและบำรุงรักษาที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัจฉริยะ AI แล้ว เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการ ระบบอัจฉริยะ AI เหล่านี้สามารถใช้แฝดเสมือนดิจิทัลพยากรณ์ความต้องการเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ใช้แต่ละราย ซึ่งช่วยลดระยะเวลานำออกสู่ตลาดจากหลักวันเหลือเพียงหลักนาที ในแง่ของการบำรุงรักษาเครือข่าย ระบบอัจฉริยะ AI ซึ่งมีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง สามารถพยากรณ์และระบุตำแหน่งของการขัดข้องได้ภายในหลักวินาที ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ปัญหาได้ 30% นอกจากนี้ สำหรับการยกระดับประสิทธิภาพเครือข่าย แซนด์บ็อกซ์ดิจิทัลสามารถจำลองทราฟฟิกของการประยุกต์ใช้งานในโลกจริง โดยทำให้ระบบอัจฉริยะ AI สามารถวิเคราะห์รูปแบบทราฟฟิกและยกระดับเครือข่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยอิงจากความต้องการในการใช้งาน

ผู้เริ่มต้นก่อนกำลังขยายการติดตั้ง 5G-A เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ในยุค AI

“สมรรถภาพใหม่ ๆ ของเครือข่ายจะนำไปสู่โมเดลธุรกิจใหม่ ๆ” คุณ Li กล่าวต่อ “ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถก้าวข้ามการสร้างรายได้โดยอิงจากทราฟฟิก ไปสู่การเริ่มสร้างรายได้จากประสบการณ์โดยตรง”

ปัจจุบัน ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกกำลังสำรวจหนทางใหม่ ๆ ที่จะสร้างรายได้จากประสบการณ์โดยมีพื้นฐานเป็นหลายปัจจัย อย่างความเร็ว ความหน่วง และสิทธิประโยชน์สำหรับวีไอพี ผู้ให้บริการเหล่านี้ได้ออกบริการโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจ ผู้สตรีมสด และผู้ใช้โทรศัพท์ระบบคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI นอกจากนี้ บางส่วนได้ขยายเข้าสู่ตลาดระหว่างธุรกิจด้วยกันไปสู่ผู้บริโภค (B2B2C) แล้ว ด้วยการขยายสมรรถนะของเครือข่ายด้วย Open API

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายในจีนกำลังทำงานร่วมกับกว่า 100 อุตสาหกรรม รวมถึงบริษัทประกันภัยและบริษัทรับจัดเลี้ยง เพื่อมอบบริการโทรด้วย AI แบบใหม่ผ่าน Open API ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้จากลูกค้าในอุตสาหกรรมได้ถึง 10 เท่า

“โอกาสมีอยู่อย่างมหาศาล” คุณ Li กล่าว “และเวลาที่ต้องลงมือคือตอนนี้ ขณะนี้ผู้บุกเบิกกำลังยกระดับขยายอย่างรวดเร็วในกว่า 200 เมืองทั่วโลก โดยเป็นการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเพื่อปลดล็อกคุณค่าใหม่ที่ยอดเยี่ยม”

งาน MWC Barcelona ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 มีนาคมถึง 6 มีนาคมในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ระหว่างงานนี้ Huawei จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ล่าสุดที่บูธหมายเลข 1H50 ใน Fira Gran Via Hall 1

ในปี 2568 การติดตั้งใช้งาน 5G-Advanced เชิงพาณิชย์จะทวีความรวดเร็วขึ้น และ AI จะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายเปลี่ยนแปลงธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และการปฏิบัติการและบำรุงรักษา Huawei ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพันธมิตรในทั่วโลกอย่างแข็งขันเพื่อเร่งส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่โลกอัจฉริยะ

ดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าชม https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2025 

 

View original content to download multimedia: Read More