[PR] ดีแทคประกาศจ่ายเงินปันผล 0.72 บาทต่อหุ้นในไตรมาสที่ 3/2558

dtac

ดีแทครายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2558 โดยมีรายได้รวมและกำไรสุทธิเท่ากับ 1.97 หมื่นล้านบาท และ1.2 พันล้านบาท ตามลำดับ โดยดีแทคประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 0.72 บาทต่อหุ้น โดยมีอัตราการจ่ายปันผลอยู่ที่ร้อยละ 138 ของกำไรสุทธิ จากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/2558

ทั้งนี้ ดีแทคได้เปิดให้บริการใหม่ 4G Calling | VoLTE อย่างเป็นทางการเรียบร้อย โดยเป็นเจ้าแรกที่นำสุดยอดเทคโนโลยีต่อยอดการใช้งาน 4G มาเปิดให้บริการในไทยก่อนใคร ดีแทคมั่นใจบริการใหม่จะทำให้การใช้งานการโทรบนเครือข่าย 4G สู่บริการรูปแบบใหม่ในอนาคต โดยลูกค้าดีแทคจะได้สัมผัสประสบการณ์ก่อนใครในการโทรแบบใหม่และการใช้งานวิดีโอคอลล์ ที่ให้ภาพและเสียงคมชัดระดับ HD และสามารถโทรเรียกหมายเลขปลายทางเร็วขึ้น 10 เท่า

สำหรับความต้องการด้านการใช้บริการข้อมูลยังคงส่งผลให้รายได้จากการให้บริการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถชดเชยการลดลงของรายได้จากการให้บริการด้านเสียงได้ อันเนื่องจากพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้รายได้จากการบริการในปีนี้ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้การแข่งขันทางธุรกิจยังส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านการขาย การตลาด และการบริหารงานสูงกว่าปีที่แล้ว อีกทั้งค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายยังเพิ่มขึ้นเนื่องจากการลงทุนในการพัฒนาเครือข่ายทั้งเรื่องการครอบคลุมและคุณภาพ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ได้ถูกชดเชยบางส่วนจากการลดลงของต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ (regulatory costs) และต้นทุนที่เกี่ยวกับเครือข่าย (network operating costs) ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงร้อยละ 52 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ดีแทคมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำการให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย จึงได้มีการปรับปรุงและขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันนี้เครือข่ายของดีแทคมีการครอบคลุมประชากรที่ร้อยละ 93 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของดีแทค และยังคงเป็นไปตามแผนที่มีเป้าหมายที่ร้อยละ 95 รวมถึงการให้บริการ 4G บนแบนด์วิธที่กว้างที่สุดเมื่อสิ้นสุดปี 2558 นอกจากนี้ดีแทคได้เปิดตัวเคมเปญเครือข่ายทั่วประเทศเพื่อสื่อสารถึงคุณภาพและความครอบคลุมของเครือข่ายที่ดีขึ้นและดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็นร้อยละ 60 ของจำนวนผู้ใช้บริการรวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2558 โดยมีปัจจัยหลักมาจากความต้องการการใช้บริการข้อมูล และแคมเปญที่น่าสนใจต่าง ๆ ของอุปกรณ์สื่อสาร

แม้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังคงเป็นไปอย่างช้า ๆ และการแข่งขันทางการตลาดที่เข้มข้นขึ้น ดีแทคยังคงประมาณการเดิมสำหรับปี พ.ศ. 2558 นี้ ได้แก่ 1. รายได้จากการให้บริการ ไม่รวม IC ต่ำกว่าปี พ.ศ. 2557 เล็กน้อย 2. EBITDA margin อยู่ในช่วงร้อยละ 31 ถึง 33 และ 3. เงินลงทุนในเครือข่ายอยู่ระหว่าง 1.8 – 2.0 หมื่นล้านบาท

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค  กล่าวว่า เราต้องการที่จะเป็นผู้นำการให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย และเรายังคงลงทุนในเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะรองรับความต้องการอย่างมากในการใช้บริการข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือ โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ความครอบคลุมของเครือข่ายเราอยู่ที่ร้อยละ 93 ของประชากรรวม ทั้งนี้ เพื่อที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายดีแทคให้เพิ่มมากขึ้น ความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่าง ดีแทค และ กสท โทรคมนาคม หรือ แคท  จึงเกิดขึ้นและมีความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญเพื่อการใช้โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายร่วมกัน และเพื่อระงับข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างสองบริษัท การเข้ามาเป็นพันธมิตรกันจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ในอนาคตที่ยั่งยืนระหว่าง ดีแทค และ แคท ความร่วมมือครั้งนี้ยังส่งผลดีแก่ลูกค้าในด้านการขยายการครอบคลุมที่เร็วกว่า และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ การขยายเสาสัญญาณโทรคมนาคมเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคม เพราะนั่นหมายถึงการปรับปรุงคุณภาพของสัญญาณ และบริการให้ดีขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย พร้อมทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลอีกด้วย

นอกเหนือจากด้านเครือข่ายแล้ว ดีแทคยังคงสร้างความแข็งแกร่งในด้านการขายและการกระจายการให้บริการ มุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้จากการให้บริการข้อมูลให้ดีขึ้น มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าเพื่อที่จะดึงดูดลูกค้าให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น