[PR] ไมโครซอฟท์มั่นใจเสริม SMB ไทย ก้าวไกลระดับโลก

image002

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เดินหน้าร่วมเป็นกำลังสำคัญของธุรกิจ SMB ไทย ให้ประสบความสำเร็จไม่แพ้ชาติใดบนเวทีโลก  แนะนำแพ็กเกจ SMB Power Up Suite (เอสเอ็มบี เพาวเวอร์ อัพ สวีท) ที่มาพร้อม Office 365 เวอร์ชั่น Office 2016 ด้วยราคาคุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 300 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน โดย Office 365 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดนี้ มีจุดเด่นที่จะช่วยให้ธุรกิจ SMB ไทยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ได้แก่  1) ทำงานแบบมืออาชีพได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น 2) คล่องตัวในการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า 3) ปกป้องข้อมูลสำคัญของธุรกิจได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ยังมีแพ็คเกจเพิ่มเติม สำหรับ SMB ที่ต้องการบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล  (Power BI) และโซลูชั่นด้านการบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์บนระบบคลาวด์  (Dynamics CRM Online) สามารถสมัครใช้บริการเพิ่มได้ในราคา 2,400 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน ซึ่งจะช่วยให้ SMB มีเครื่องมือที่ครบครันเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ให้เปลี่ยนมาเป็นความได้เปรียบในการทำธุรกิจ  ในภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูงในขณะนี้

“กลุ่มธุรกิจ SMB มีสัดส่วนคิดเป็น 93% ของธุรกิจในประเทศไทย กำลังเผชิญหน้ากับการแข่งขันและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งนับเป็นทั้งโอกาสและความท้าท้ายในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ประกอบการ SMB ไทยในการพัฒนาธุรกิจให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้  ไมโครซอฟท์ แน่นอนว่า เราเชื่อในพลังของเทคโนโลยี ที่จะช่วยให้ SMB ไทย ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่สำคัญของเศรษฐกิจในประเทศ มีความแข็งแกร่งและพร้อมประสบความสำเร็จในระดับโลก เทียบเท่าต่างชาติได้ ทั้งนี้ เทคโนโลยี โดยเฉพาะ “คลาวด์” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้ SMB ลดต้นทุนในการทำงานหลังบ้าน สร้างความคล่องตัวในภาวะที่ต้องการขยายตลาด ซึ่งจะเห็นได้จากการเติบโตของการนำคลาวด์มาใช้ในธุรกิจ SMB ทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี อยู่ที่ 23.5% ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2560” นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและบริหารลูกค้า บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว

“ไมโครซอฟท์ มีความเชี่ยวชาญในการเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจ SMB ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยให้แข็งแกร่งและพร้อมแข่งขัน ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุดและคุ้มค่าการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงเวลาของประเทศไทยในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2559 หรือนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล ดังนั้นธุรกิจ SMB ไทยจึงต้องมีความพร้อมที่จะคว้าโอกาสมาเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน”  นายธนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

บริษัท เซ็น คอร์ปอร์เรชั่น กรุ๊ป จำกัด ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นสัญชาติไทย ที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 25 ปี เป็นหนึ่งในธุรกิจไทย ที่ได้นำบริการคลาวด์ของ Office 365 มาใช้ในองค์กรเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน  โดย นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแบรนด์ บริษัท เซ็น คอร์ปอร์เรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันเรามีสาขาถึง 77 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้ 7 แบรนด์ คือ Zen Restaurant, Zen Sushi & Sake, AKA, On The Table, Zen Cucina, Tetsu และ Donburi by Zen ตั้งเป้าที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจอาหารในประเทศและภูมิภาคเอเชีย ในช่วง 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า ภายใต้ตลาดที่มีการแข่งขันสูงและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราตระหนักดีว่า การใช้เทคโนโลยีมีส่วนช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงตัดสินใจอัปเกรดจากการใช้งานโปรแกรม Microsoft Office บนเวอร์ชันเดิม ไปสู่ Office 365 บนคลาวด์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจในหลายด้าน ทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากที่มีอยู่ให้สามารถแปรมาเป็นข้อมูลที่พร้อมใช้ทางการตลาดได้อย่างทันท่วงที เพิ่มความยืดหยุ่นการทำงานจากที่ใดก็ได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน และเตรียมความพร้อมด้านระบบไอที เพื่อรองรับการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ ในอนาคต เราเชื่อว่า Office 365 จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลมากมายที่เข้ามาทุกวัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อขยายธุรกิจรองรับการเปิดเสรี AEC”

นายวรพันธ์ ท่าน้ำเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เซ็น คอร์ปอร์เรชั่น กรุ๊ป จำกัด “เรามีแนวทางในการใช้ประโยชน์จากไอทีใน 3 ประเด็นหลัก หนึ่ง คือ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาใช้วางแผนกลยุทธ์และช่วยในการตัดสินใจได้ดีขึ้น สอง คือ บริหารการทำงาน การให้บริการที่สาขาตามมาตรฐานที่วางไว้ และสุดท้าย การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ซึ่งที่ผ่านมา ทางฝ่ายวิจัยและพัฒนาการตลาดของเรา สามารถใช้เครื่องมือด้าน Business Intelligence และโปรแกรม Excel ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ POS ของทุกสาขา แล้วนำผลการวิเคราะห์มาใช้พัฒนาเมนูอาหาร และโปรโมชันแนวใหม่ขึ้นมาได้ตามความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงหลากหลายมากยิ่งขึ้น เมื่อเราสามารถตอบสนองลูกค้าได้เร็ว ก็จะทำให้เราได้เปรียบทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นจุดสำคัญของธุรกิจอาหาร”

“เราเห็นความสำคัญของแนวโน้มทางเทคโนโลยีคลาวด์ ว่าจะเป็นประโยชน์กับเรา ทั้งในแง่ของการลงทุนทางเทคโนโลยีที่คุ้มค่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลที่อยู่บนคลาวด์ได้จากทุกที่ ด้วยอุปกรณ์พกพาที่กำลังเป็นที่นิยมใช้กัน การใช้ Office 365 ทำให้พนักงานของเราได้ใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นเดียวกัน ซึ่งทางไมโครซอฟท์จะคอยอัพเดตโปรแกรม Office ให้ทันสมัยอยู่เสมอโดยอัตโนมัติ ช่วยให้เราไม่ต้องมาคอยอัพเดตเองอีก และเมื่อใช้ Office เวอร์ชั่นใหม่ เราไม่เพียงแต่ได้ใช้คุณสมบัติใหม่ๆ เท่านั้น แต่เรายังขยายขีดจำกัดของโปรแกรม ทำให้สามารถรองรับข้อมูลจำนวนมากขึ้นของเราได้ เพื่อรองรับธุรกิจที่มีการเติบโตมากขึ้นในอนาคต” นายวรพันธ์ กล่าวเสริม

การติดตั้งระบบ Office 365 ของ บริษัท เซ็น คอร์ปอร์เรชั่น กรุ๊ป จำกัด ได้รับการดูแลและให้คำแนะนำ โดยบริษัท เมโทร ซิสเต็ม คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทคู่ค้าที่ได้รับการรับรองจากไมโครซอฟท์  โดยใช้เวลาในการติดตั้งทั้งระบบในทั้ง 77 สาขา ด้วยระยะเวลาเพียง 3 เดือน

“ปัจจุบันชุดโปรแกรมออฟฟิศ (Microsoft® Office) เป็นชุดโปรแกรมที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้งานถึง 1.2 พันล้านคน Office 2016 เวอร์ชั่นใหม่นี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเปลี่ยนโฉม Office จากแอพพลิเคชั่นที่ใช้ทำงานคนเดียว มาเป็นชุดของแอพพลิเคชั่นและบริการที่ตอบโจทย์การทำงานเป็นทีม Office 365 ที่มาพร้อมกับ Office 2016 ถือเป็นโปรแกรมออฟฟิศที่ปลอดภัยที่สุด และมีประสิทธิภาพเยี่ยมยอดที่สุดตั้งแต่เคยมีมา เราเชื่อมั่นว่าการทำงานบนระบบคลาวด์ Office 365 ที่มาพร้อมกับ Office 2016 นี้ เหมาะกับทุกธุรกิจ  ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลโดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป (Worry Less) สามารถทำงานได้เสร็จเร็วขึ้น  (Work Easier) และการทำงานร่วมกันเป็นทีม (Work Together) สามารถใช้งานได้บนทุกแพลตฟอร์ม และที่สำคัญยังเป็น Office ที่มีความคุ้มค่า ราคาไม่แพง ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 300 บาทต่อเดือนเท่านั้น ธุรกิจ SMB ก็จะสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพเพื่อแข่งขันกับตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้อย่างแท้จริง” นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์ออฟฟิศ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ประโยชน์ของ Office 365 ที่มาพร้อมเวอร์ชั่น 2016 สำหรับ SMB ได้แก่

  • ทำงานแบบมืออาชีพได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
    • ทำงานได้จากทุกที่ สามารถ รีวิว แก้ไข และนำเสนอเอกสาร Office 2016 บนอุปกรณ์ที่หลากหลายได้ตั้งแต่พีซี, โน้ตบุ้ค, แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนของ Windows, Apple® และ Android™
    • สื่อสารได้ทันทีด้วย Skype in-app integration สามารถทำงานข้ามแอพพลิเคชั่น ส่งข้อความ (IM) แชร์หน้าจอ พูดคุย หรือวิดีโอแช็ต ไปพร้อมการทำงานบนเอกสาร
    • ค้นหาเมนูหรือคำสั่งของ Office ได้อย่างง่ายดายด้วย Tell Me
    • ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์เข้ามาในเอกสารได้ทันทีด้วย Smart Lookup
  • คล่องตัวในการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
    • การทำงานบนเอกสารร่วมกัน ในแอปพลิเคชัน Word, PowerPoint และ OneNote เวอร์ชั่นสำหรับคอมพิวเตอร์พีซี ช่วยให้เห็นข้อความหรือคอมเม้นท์ที่คนอื่นๆ ในทีมกำลังพิมพ์ได้ในทันที
    • มีพื้นที่ให้เก็บข้อมูลบนคลาวด์จำนวน 1 TB ใน OneDrive for Business สำหรับผู้ใช้แต่ละราย ให้สามารถ แชร์ไฟล์กับบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างง่ายดาย การแนบไฟล์ไปกับอีเมลโดยส่งไปแค่ลิงก์และแชร์ให้ทีมงานได้จากทุกที่ หมดปัญหาเรื่องการลืมไฟล์เอกสารไว้ที่บ้านหรือที่ทำงาน
    • การจัดการตารางงานทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานจะสะดวกขึ้นมาก สามารถเห็นตารางงานร่วมกันกับผู้อื่นได้ และถ้าหากตั้งค่าการใช้งานเป็นกลุ่มไว้ในฐานข้อมูล เมื่อมีการนัดหมายงานไปยังคนใดคนหนึ่งในกลุ่มนั้น รายชื่อของคนกลุ่มทั้งหมดจะปรากฎขึ้นอัติโนมัติทันทีโดยไม่ต้องใส่รายชื่อทีละคน
  • ปกป้องข้อมูลสำคัญของธุรกิจได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
    • จัดการลบข้อมูลจากอุปกรณ์ที่สูญหายหรือของพนักงานที่ลาออกได้ทันที
    • ข้อมูลที่แชร์จะมีความปลอดภัย โดย OneDrive for Business ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ สามารถตั้งค่าและจัดการระดับขั้นความปลอดภัยของข้อมูลได้ตั้งแต่ระดับโฟลเดอร์ไปจนถึงไฟล์ ควบคุมบุคคลที่จะสามารถดูแลและแก้ไขไฟล์ได้
    • มีระบบการเตือนและป้องกันข้อมูลรั่วไหลออกนอกองค์กรทั้งใน Word, Excel, PowerPoint, Outlook, และ Skype for Business

และเพื่อตอบโจทย์ในการทำธุรกิจ SMB  ไมโครซอฟท์ได้ออกแพ็คเกจ SMB Power Up Suite โดยมีให้เลือกตั้งแต่แพ็คเกจเริ่มต้นธุรกิจของคุณ (Startup Pack) ราคา 300 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน และสำหรับ SMB ที่ต้องการเสริมศักยภาพในการทำงานในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น ไมโครซอฟท์ยังมีแพ็คเกจเสริมธุรกิจ (Topping Pack) ให้เลือกตามความต้องการ ซึ่งประกอบด้วย แพ็คเกจร้านค้าออนไลน์ครบวงจร (Online Shop Pack) ราคา 600 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน แพ็คเกจบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Pack) ราคาเริ่มต้น 2,500 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน แพ็คเกจสำหรับธุรกิจโรงแรมและห้องพัก (Hotel Pack) ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท แพ็คเกจสำหรับร้านอาหารและร้านค้าปลีก  (Restaurant and Retail Pack) ราคาเริ่มต้นที่ 9,000 บาท  สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SMBTH@microsoft.com หรือโทร 02 263 6888