พร้อมทั้งประกาศการขยายคอนเซ็ปต์สโตร์ Impact Retail ของ Fabrica X ทั่วฮ่องกงและทั่วโลก
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง – Media OutReach – 16 พฤศจิกายน 2566 – Fabrica X ซึ่งเป็น Impact Retail Store ที่ดำเนินการโดย The Mills Fabrica วันนี้เปิดตัวแคมเปญใหม่ Denim Futures โดย Denim Futures จะให้ความสำคัญกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับความยั่งยืนของผ้าเดนิมในช่วง 8 เดือนข้างหน้าผ่านการสนับสนุนจาก Levi’s® และ Advance Denim
ปัจจุบัน ผู้บริโภคและธุรกิจจำนวนมากต่างตระหนักดีว่าอุตสาหกรรมเดนิมแบบเดิมได้ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ตั้งแต่การเพาะปลูกฝ้าย การย้อมเส้นด้าย ไปจนถึงการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป การผลิตผ้าเดนิมทำให้ทรัพยากรน้ำจืดลดลง โดยกางเกงยีนส์แต่ละตัวจะใช้น้ำถึง 3,781 ลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 33.4 กิโลกรัม (CO2eq)1 อย่างไรก็ตาม ความนิยมของเดนิมจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเสื้อผ้าตัวเก่งที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าของทุกคน
The Mills Fabrica เติบโตขึ้นจากมรดกสิ่งทอของ Nan Fung Group ในฮ่องกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตผ้าเดนิม The Mills ซึ่งเป็นที่ตั้งของ The Mills Fabrica ได้รับการฟื้นฟูจากโรงงานฝ้ายที่มีความมุ่งมั่นและเริ่มเข้าสู่การผลิตผ้าเดนิมในช่วงทศวรรษ 1980 ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเดนิม The Mills Fabrica จึงภูมิใจนำเสนอแคมเปญใหม่ Denim Futures ให้กับ Fabrica X ซึ่งมาพร้อมคอนเซ็ปต์สโตร์ล่าสุดอย่าง Impact Retail ด้วยแรงผลักดันจากการนำเสนอ 2 หัวข้อล่าสุด ได้แก่ วัสดุชีวภาพ (Biomaterials ) และการนำพลาสติกกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ (Plastic Circularity) แคมเปญนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภคมากขึ้น และแนะนำผู้เล่นต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจต่าง ๆ แคมเปญใหม่นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีในการบ่มเพาะนวัตกรรม การพัฒนา และการนำไปใช้ในธุรกิจเทคสไตล์ (การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์) อีกด้วย
พัฒนาอนาคตของผ้าเดนิมผ่านนวัตกรรมและระบบการศึกษาของรัฐบาล
Cintia Nunes ผู้จัดการทั่วไป หัวหน้าภาคพื้นเอเชียของ The Mills Fabrica กล่าวว่า “ในฐานะ ธุรกิจเงินร่วมลงทุนและผู้ริเริ่มโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพ เดนิมเป็นธุรกิจที่เราให้ความสำคัญมาก เนื่องจากได้รับความนิยมในระดับสากล และยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เป้าหมายของเราคือการรวบรวมบริษัทในพอร์ตโฟลิโอ พันธมิตร และสายสัมพันธ์จากทุกระดับในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อแสดงถึงอนาคตของเดนิมและเฉลิมฉลองความก้าวหน้าและความมุ่งมั่นในการดำเนินการนี้ด้วย”
“ปัจจุบันถึงเวลาที่จะเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมของเดนิมแบบเดิมให้แก่สาธารณชน และอธิบายเหตุผลให้ผู้คนเหล่านั้นหันมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์เดนิมที่ยั่งยืน แคมเปญ Denim Futures ที่ Fabrica X จะนำเสนอเบื้องหลังเทคโนโลยีเดนิมสุดสร้างสรรค์และล้ำสมัย ขณะเดียวกัน เรายังขอการสนับสนุนจากผู้เล่นในระบบนิเวศทุกราย ตั้งแต่ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต ไปจนถึงผู้บริโภค เพื่อเร่งขยายธุรกิจและการเข้าถึงผ้าเดนิมที่ยั่งยืน เพื่อเข้าใกล้อนาคตของผ้าเดนิมเร็วขึ้นอีกหนึ่งก้าว”
แคมเปญใหม่ของ Fabrica X ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบโอกาสพิเศษให้กับผู้บริโภคในการเรียนรู้ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของอุตสาหกรรมเดนิม ผ่านการพิจารณาและสัมผัสนวัตกรรมวัสดุใหม่ ๆ พร้อมทั้งโอกาสในการซื้อผลิตภัณฑ์เดนิมที่ยั่งยืนจากผู้ค้าปลีกมากมาย เวิร์คช็อปการอัพไซเคิลและประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัล 3 มิติใน Denim Lab ของ Fabrica X จะทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์ถึงอนาคตของเดนิม
แนะนำผู้เล่นในห่วงโซ่อุปทานทางเลือกที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ
การจัดแสดงนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความพยายามของพันธมิตรในระบบนิเวศจากส่วนต่าง ๆ ของห่วงโซ่อุปทานเดนิม ตั้งแต่การออกแบบ การผลิตวัสดุ และการผลิตเดนิม ไปจนถึงโซลูชันการแก้ปัญหาเมื่อหมดอายุการใช้งาน ซึ่งรวมถึงผู้สนับสนุนหลัก 2 ราย Levi’s® และ Advance Denim โดย Levi’s® มีความมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านคอลเลกชันที่ยั่งยืนอย่าง WellThread® และ Advance Denim ซึ่งเป็นโรงงานเดนิมที่เก่าแก่ที่สุดในจีน ได้สร้างรูปแบบการผลิตใหม่ ซึ่งประกอบด้วยการย้อมแบบ BigBox Dyeing ที่ประหยัดน้ำ และการย้อมแบบ Botanic Dyes จากพืช พร้อมปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่รีไซเคิลได้ซึ่งเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการพัฒนา ผู้สนับสนุนรายอื่น ๆ ได้แก่ พันธมิตรที่อยู่มายาวนานอย่าง Lenzing Group ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เส้นใยอย่าง TENCEL™ และเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตเส้นใยพิเศษที่ทำจากวัสดุหมุนเวียนและไม้อย่างมีความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศ
พันธมิตรในระบบนิเวศจะนำเสนอวิธีการรับมือกับความท้าทายด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรมเดนิมด้วยโซลูชันสุดล้ำ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทในพอร์ตโฟลิโอของ The Mills Fabrica เช่น unspunTM ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นที่ยั่งยืนที่ผลิตผ้าเดนิมตามความต้องการของลูกค้าและสร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย โดยใช้การสแกนร่างกาย 3 มิติเพื่อให้ได้รายการสินค้าที่ปราศจากคาร์บอน ถัดมา Circ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีรีไซเคิลทางเคมีที่สามารถรีไซเคิลผ้าฝ้ายโพลีคอตตอนให้กลายเป็นเส้นใยที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยโพลีคอตตอนเป็นหนึ่งในผ้าผสมที่ใช้กันมากที่สุดในการผลิตเสื้อผ้า และ Renewcell ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีรีไซเคิลที่จะย่อยผ้าฝ้ายที่ใช้แล้วและสิ่งทอที่มีเซลลูโลสอื่น ๆ และเปลี่ยนให้เป็นวัสดุใหม่ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพอย่างเยื่อกระดาษ CIRCULOSE® ในปี 2565 เยื่อกระดาษชนิดใหม่ได้รับการดัดแปลงโดย Levi’s® โดยมีเป้าหมายเพื่อนำผ้าเดนิมที่ยั่งยืนมาให้คนทั่วไปใช้งาน
James Chang ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด TW & HK ของ Levi’s® กล่าวว่า “เราหวังที่จะกระตุ้นให้เกิดการรับรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนของเดนิมในฮ่องกงผ่านความร่วมมือกับ The Mills Fabrica ในครั้งนี้ เรามีโซลูชันการออกแบบมากมายใน Levi’s® ที่ช่วยให้การผลิตเดนิมสิ้นเปลืองน้อยลง”
Michael Lam ผู้อำนวยการของ Advance Denim กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับแคมเปญ Denim Futures ที่ The Mills Fabrica ได้คัดสรรมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโซลูชันของห่วงโซ่การผลิตผ้าเดนิมที่ยั่งยืน รวมถึงการที่ผู้บริโภคสามารถจัดการกางเกงยีนส์ของตนเองด้วยวิธีการที่ยั่งยืนมากขึ้น ที่ Advance Denim เรามีพันธกิจเดียวกันกับ The Mills Fabrica ในการสนับสนุนนวัตกรรมทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น เราเพิ่งร่วมมือกับ Gracell X CIRCULOSE® โดย Renewcell จะผลิตเส้นใยวิสโคสที่ผสมกับเยื่อผ้า CIRCULOSE® 50% ที่ทำจากสิ่งทอรีไซเคิล จากความทุ่มเทในการทำงานร่วมกัน เราหวังว่าจะทำให้เดนิมเป็นหนึ่งในผ้าที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลก”
เนื่องจากผ้าเดนิมที่ยั่งยืนต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของระบบนิเวศทั้งหมด เราจึงเชิญแบรนด์ค้าปลีกที่คัดสรรมาอย่างดีให้เข้าร่วมในแคมเปญ เช่น M.ATO แบรนด์จากฮ่องกงที่ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่นในการย้อมสีครามธรรมชาติ การเย็บซาชิโกะ และการปักเศษผ้าสไตล์โบโระ เพื่อสร้างชิ้นงานสีครามธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วน Story Wear ซึ่งเป็นกิจการเพื่อสังคมของไต้หวันที่รีไซเคิลขยะผ้าเดนิมจากผู้เชี่ยวชาญในการผลิตที่ด้อยโอกาส ขณะที่ Sophie Hawkins เวิร์กช็อปในลอนดอนที่ผลิตชุดจั๊มสูทรักษ์โลกผ่านกระบวนการผลิตแบบหมุนเวียนในญี่ปุ่น เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์สามารถนำไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่และย่อยสลายทางชีวภาพได้เมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน และ klee klee ซึ่งเป็นแบรนด์จากเซี่ยงไฮ้ที่เน้นความเรียบง่ายและส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เดนิมที่สร้างผลกระทบในเชิงบวก
นอกจากห่วงโซ่อุปทานและพันธมิตรการค้าปลีกแล้ว ยังมี Fashionary ซึ่งเป็นบริษัทในฮ่องกงที่ออกแบบและผลิตเครื่องมือใช้งานสำหรับนักออกแบบแฟชั่นและแฟชั่นนิสต้ามืออาชีพ รวมทั้ง The Magic of Denim Consultancy ผู้สนับสนุนความยั่งยืนและกระบวนหมุนเวียนนำเดนิมกลับมาใช้ใหม่ภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเป็นพันธมิตรด้านความรู้ (Knowledge Partner) ของแคมเปญ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาความรู้ที่ใช้ในแคมเปญมีการตรวจสอบ สร้างการเปลี่ยนแปลง และไม่ดูเป็นการสร้างภาพว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Fabrica X กำลังเดินหน้าจัดแสดงพื้นที่อื่น ๆ นอกเหนือจากฮ่องกงและลอนดอน
แคมเปญ Denim Futures ประสบความสำเร็จในการจัดแสดงวัสดุชีวภาพ ซึ่งเฉลิมฉลองวัสดุใหม่ที่ผลิตขึ้นใหม่จากขยะอินทรีย์ผ่านกระบวนการทางชีวภาพตามธรรมชาติเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนกว่าเดิม แคมเปญนี้ได้รับผลตอบรับเชิงบวกจากสาธารณชน โดยผู้เข้าร่วมการสำรวจมากกว่าครึ่ง (66%) เห็นพ้องว่าพวกเขาควรคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ผลิตเสื้อผ้าให้มากขึ้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่ (73%) ยินดีจ่ายแพงขึ้น 10% หรือมากกว่าเพื่อสินค้าที่ยั่งยืน
เพื่อสร้างการเข้าถึงและให้ความรู้แก่ผู้ชมในวงกว้างจากกลุ่มประชากรที่แตกต่างกัน แคมเปญ Fabrica X ที่แล้วจะมีการทำโรดโชว์รอบฮ่องกง โดยนำเสนอวัสดุชีวภาพและการนำพลาสติกกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางไปจัดแสดงที่ Nan Fung Place (Sheung Wan) และ AIRSIDE (Kai Tak) ตามลำดับ
นอกจากนี้ The Mills Fabrica ยังวางแผนที่จะขยายคอนเซ็ปต์สโตร์ Impact Retail เพิ่มเติมด้วยการเปิดตัว Fabrica X ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก นอกเหนือจากแกลเลอรีนวัตกรรมในลอนดอน
________________________________
1รายงานการประเมินวัฏจักรชีวิตของ Levi’s ปี 2015: ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมของกางเกงยีนส์อาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของปัจจัยที่ใช้ในการประเมินวัฏจักรชีวิตและขอบเขตในการประเมินวัฏจักรชีวิต
เกี่ยวกับ Fabrica X
Fabrica X เป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ Impact Retail ที่ดำเนินการโดย The Mills Fabrica ซึ่งผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนด้วยแบรนด์แฟชั่นและฟู้ดเทคล้ำสมัย คอนเซ็ปต์สโตร์ประกาศใช้วัสดุที่หลากหลายทางชีวภาพ ลดขยะให้น้อยที่สุด และการผลิตที่มีจริยธรรม และจากการจัดแสดงอันน่าสนใจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าชมเลือกซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบ http://www.themillsfabrica.com/spaces/store-fabrica-x/
เกี่ยวกับ The Mills Fabrica
The Mills Fabrica เป็นแพลตฟอร์มโซลูชันที่บ่มเพาะนวัตกรรมเทคสไตล์และเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาเพื่อความยั่งยืน The Mills เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฮ่องกงเมื่อเดือนธันวาคม 2561 โดย The Mills เป็นโครงการฟื้นฟูครั้งสำคัญที่ดำเนินการโดย Nan Fung Group ที่เปลี่ยนโรงงานสิ่งทอเก่าให้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม การค้าปลีกเชิงประสบการณ์ และศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ จากศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ กองทุนเพื่อการลงทุน สถานที่ในฮ่องกงและลอนดอน และโครงการสร้างชุมชน The Mills Fabrica จึงมุ่งหวังที่จะสร้างเรื่องราวความสำเร็จจากความร่วมมือระหว่างนักสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการ และบริษัทต่าง ๆ และจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป http://www.themillsfabrica.com/