เน็กซ์เคม (แมร์) ได้รับแพ็กเกจสัญญาจ้างจากพอล เวิร์ท ในการอนุญาตให้ใช้สิทธิและการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเอ็นเอ็กซ์ ซีพีโอ ซึ่งนำไปใช้กับโรงงานเชื้อเพลิงสังเคราะห์ระดับอุตสาหกรรมแห่งแรกของนอส์ก อี-ฟูเอลในนอร์เวย์

  • เน็กซ์เคม เทค จะใช้เทคโนโลยีตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชันบางส่วน (Catalytic Partial Oxidation หรือ NX CPO) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นกระบวนการขั้นสูงในการผลิตก๊าซสังเคราะห์
  • สัญญาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการพัฒนาโรงงานในระดับอุตสาหกรรมเพื่อผลิตเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนจากไฮโดรเจนสีเขียวและคาร์บอนไดออกไซด์

มิลาน, 31 มกราคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — แมร์ (MAIRE) ประกาศว่า เน็กซ์เคม (NEXTCHEM) (หน่วยธุรกิจโซลูชันเทคโนโลยีที่ยั่งยืน) โดยทางบริษัทในเครือเน็กซ์เคม เทค (NextChem Tech) ได้ลงนามในสัญญากับพอล เวิร์ท เอส.เอ. (Paul Wurth S.A.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอสเอ็มเอส กรุ๊ป (SMS group) (‘พอล เวิร์ท’) และนอส์ก อี-ฟูเอล เอเอส (Norsk e-Fuel AS) (‘นอส์ก อี-ฟูเอล’) สำหรับแพ็กเกจการอนุญาตให้ใช้สิทธิและการออกแบบทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับเอ็นเอ็กซ์ ซีพีโอ (NX CPO) ที่จะนำไปใช้ในโรงงานขนาดอุตสาหกรรมแห่งแรกที่สามารถผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จากไฮโดรเจนสีเขียวและไบโอเจนิกคาร์บอนไดออกไซด์ในเมืองมอลโจน (Mosjøen) ประเทศนอร์เวย์ โรงงานแห่งนี้จะเป็นโรงงานแห่งแรกที่พัฒนาโดยนอส์ก อี-ฟูเอล เอเอส ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการในนอร์เวย์ที่ได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง รวมทั้งพอล เวิร์ทด้วย

เน็กซ์เคม เทคจะใช้เทคโนโลยีเอ็นเอ็กซ์ ซีพีโอที่เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นกระบวนการนวัตกรรมขั้นสูงในการผลิตก๊าซสังเคราะห์ด้วยกระบวนการออกซิเดชันบางส่วนที่ได้รับการควบคุมผ่านปฏิกิริยาที่รวดเร็วมาก เมื่อนำไปใช้กับการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ เทคโนโลยีซึ่งมีประโยชน์หลายอย่างนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตการนำคาร์บอนกลับมาใช้ใหม่

โรงงานแห่งแรกที่พัฒนาโดยนอส์ก อี-ฟูเอล จะมีกำลังการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์อยู่ที่ 40,000 ตันต่อปี และเริ่มดำเนินการหลังปี 2569 ทั้งนี้ จากการออกแบบเบื้องต้น โรงงานเพิ่มเติมอีกสองแห่งที่มีกำลังการผลิตประมาณ 80,000 ตันต่อปี โดยแต่ละแห่งมีแผนจะสร้างภายในปี 2573 เป้าหมายคือเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของธุรกิจการบินในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์

อเลสซานโดร แบร์นินี ( Alessandro Bernini) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมร์ กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนี้ร่วมกับเอสเอ็มเอส กรุ๊ปและนอส์ก อี-ฟูเอล โดยมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ในนอร์เวย์”

แมร์ เอส.พี.เอ. ( MAIRE S.p.A.) เป็นผู้นำกลุ่มเทคโนโลยีและวิศวกรรมที่พัฒนาและดำเนินการโซลูชันเชิงนวัตกรรมเพื่อดำเนินการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เรานำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีที่ยั่งยืนและโซลูชัน E&C แบบครบวงจรในปุ๋ยไนโตรเจน ไฮโดรเจน คาร์บอนหมุนเวียน เชื้อเพลิง สารเคมี และพอลิเมอร์ แมร์ดำเนินงานใน 45 ประเทศและมีพนักงานมากกว่า 7,000 ราย บริษัทได้รับการสนับสนุนจากผู้คนกว่า 20,000 รายที่มีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ แมร์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มิลาน (ใช้ชื่อว่า “MAIRE“) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mairetecnimont.com.

โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/2286528/4425162/Maire_Logo.jpg?p=medium600

 

 

View original content to download multimedia: Read More