ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น เผยโฉมดีไวซ์ใหม่ในตระกูล Surface (เซอร์เฟซ) Lumia (ลูเมีย) และ Microsoft Band (ไมโครซอฟท์ แบนด์) ที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังและเปี่ยมด้วยคุณสมบัติรอบด้าน พร้อมให้คุณได้ปลดล็อกประสบการณ์เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม Windows 10 (วินโดวส์ 10) ไม่ว่าจะเป็นระบบล็อกอิน Windows Hello (วินโดวส์ เฮลโล) ที่ทั้งรวดเร็วและปลอดภัย ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ Cortana (คอร์ทานา) การใช้งานด้วยปลายนิ้วและปากกาที่คล่องตัวขึ้นบนดีไวซ์ตระกูลเซอร์เฟซ และคุณสมบัติ Continuum ที่ทำให้สมาร์ทโฟน Lumia 950 และ 950 XL สามารถทำงานได้ราวกับเครื่องพีซี นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้แสดงถึงศักยภาพของ Windows 10 ในการจุดประกายสร้างสรรค์นวัตกรรม ด้วยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเกมใหม่ ๆ สำหรับ Xbox (เอ็กซ์บ็อกซ์) และเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบโฮโลกราฟฟิกเต็มรูปแบบเครื่องแรกของโลกอย่าง Microsoft HoleLens (ไมโครซอฟท์ โฮโลเลนส์)
ขณะนี้ มีดีไวซ์ทั่วโลกถึง 110 ล้านเครื่องที่ใช้ Windows10 ซึ่งเท่ากับว่า Windows รุ่นล่าสุดนี้ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดตัวได้ร้อนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยอัตราการอัปเกรดที่สูงกว่า Windows 7 ถึงสามเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาหลังการเปิดตัวเดียวกัน ขณะที่ Windows Store มียอดจำนวนครั้งการเปิดหรือ page view มากถึง 1.25 พันล้านครั้ง ในโอกาสนี้ ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเปิดตัวแอพใหม่มากมายที่จะพร้อมให้ดาวน์โหลดได้บนดีไวซ์Windows 10 ทุกรูปแบบ ทั้งสมาร์ทโฟนและพีซี อาทิ Box, Facebook, Instagram, Candy Crush Soda Saga, Flipagram, Uber และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแอพเหล่านี้จะช่วยเสริมประสบการณ์ Windows 10 ให้ครบเครื่องยิ่งขึ้นบนทุกดีไวซ์จากไมโครซอฟท์
“Windows 10 และอุปกรณ์ล่าสุดจากไมโครซอฟท์จะพาคุณไปพบกับประสบการณ์ใหม่อย่างน่าอัศจรรย์” สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ กล่าว “เราต้องการเปลี่ยนแนวคิดของผู้ใช้ จากเพียงแค่ใช้ Windows มารัก Windows อย่างจริงจัง และอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นความสนใจและสร้างโอกาสใหม่ ๆให้กับวินโดวส์แพลตฟอร์มแบบองค์รวม”
Surface Book เขย่าวงการแล็ปท็อป
หลังจากที่ได้เปิดตลาดดีไวซ์รูปแบบใหม่มาโดยตลอด ไมโครซอฟท์ได้ก้าวเข้ามาพลิกโฉมวงการแล็ปท็อปด้วยการเปิดตัว Surface Book แล็ปท็อปสมรรถนะสูงที่ผลิตขึ้นด้วยวัสดุและเทคนิคการประกอบสุดล้ำ ทั้งยังมีทัชสกรีนที่รองรับการใช้ปากกาตามสไตล์เซอร์เฟซ ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะบางเฉียบ แต่เซอร์เฟซ บุ๊ค ก็เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล อินเทล® คอร์™ i5 และ i7 เจนเนอเรชั่นที่ 6 และยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมงเต็ม ส่วนหน้าจอ PixelSense ขนาด 13.5 นิ้ว มีความละเอียดสูงถึง 267 dpi ให้ภาพที่คมชัด สวยงาม และตอบสนองต่อการเขียนด้วยปากกาได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ ทั้งยังสามารถถอดส่วนหน้าจอออกจากตัวเครื่องได้ เพื่อนำไปใช้เป็นแท็บเล็ตสำหรับสเก็ตช์ภาพ เขียนโน้ต หรือใช้แอพวินโดวส์อย่าง ไมโครซอฟท์ Edge ให้เต็มประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานด้านกราฟฟิก เช่นการตัดต่อวิดีโอ เรนเดอร์ภาพสามมิติ หรือเล่นเกม ก็สามารถเลือกซื้อ Surface Book รุ่นที่มีหน่วยประมวลผลกราฟฟิกติดตั้งมาด้วยได้
Surface Book จะวางจำหน่ายด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,499 เหรียญสหรัฐ
Surface Pro 4 บางกว่า เบากว่า เร็วกว่า พร้อมแทนที่แล็ปท็อปของคุณ
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัว Surface Pro 4 (เซอร์เฟซ โปร 4) แท็บเล็ตที่บางที่สุด เบาที่สุด และทรงพลังที่สุด จนสามารถแทนที่แล็ปท็อปของคุณได้อย่างเต็มตัว Surface รุ่นล่าสุดนี้ บางเฉียบเพียง 8.4 มิลลิเมตร มีหน้าจอ PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมด้วยสมรรถนะจากชิปประมวลผลอินเทล® คอร์™ m, i5 และ i7 ที่รองรับความต้องการในการใช้งานของทุกคน นับตั้งแต่นักเรียนนักศึกษาไปจนถึงคนทำงาน Surface Pro 4 4 จะวางจำหน่ายด้วยราคาเริ่มต้นที่ 899 เหรียญสหรัฐ โดยมีสมรรถนะสูงกว่า Surface Pro 3 ถึง 30% ทำงานได้เงียบกว่าด้วยระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และยังใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 9 ชั่วโมง
ส่วนคีย์บอร์ด Type Cover รุ่นใหม่ จะเปลี่ยน Surface Pro 4 จากแท็บเล็ตให้กลายเป็นแล็ปท็อปได้ในพริบตา ด้วยคีย์บอร์ดระบบกลไกดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มระยะห่างระหว่างปุ่มเพื่อให้พิมพ์ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น คีย์บอร์ดรุ่นนี้สามารถใช้งานกับ Surface Pro 3 ได้เช่นกัน โดยมีรุ่นพิเศษที่ติดตั้งเครื่องอ่านลายนิ้วมือมาในตัว เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้า Surface ทุกคนได้สัมผัสกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยระดับสูงและความสะดวกสบายของวินโดวส์ เฮลโล ในการล็อกอินเข้าใช้งานโดยไม่ต้องพึ่งพารหัสผ่าน ขณะที่ปากกา Surface Pen ใหม่ สามารถวัดระดับแรงกดในการเขียนได้ถึง 1,024 ระดับ จึงใช้เขียนโน้ต ไฮไลท์ และวาดภาพได้อย่างแม่นยำ และลบได้สะดวกด้วยยางลบที่หัวปากกา
ทั้ง Surface Book, Surface Pro 4 และอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ได้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าไปแล้วในบางประเทศเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในวันที่ 26 ตุลาคม ก่อนที่จะทยอยเปิดตัวในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติมของดีไวซ์ทั้งสองและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ สามารถอ่านได้ที่ลิงค์เหล่านี้: Surface Book / Surface Pro 4 / Accessories
Lumia ตอกย้ำพลังและศักยภาพของ Windows 10
ไมโครซอฟท์ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการรุกตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Lumia 950 และ
Lumia 950 XL สมาร์ทโฟนวินโดวส์ 10 รุ่นแรกในตระกูล Lumia และยังเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์รุ่นล่าสุดของบริษัทอีกด้วย
ปัจจุบัน เราทุกคนต่างใช้งานดีไวซ์หลายชนิดในแต่ละวัน และ Windows 10 สามารถช่วยให้ทุกดีไวซ์ของคุณมีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายคลึงกันอย่างกลมกลืน อำนวยความสะดวกในการใช้งานข้ามดีไวซ์ไปมา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพีซี แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนก็ตาม โดยคุณสมบัติ Continuum จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริม Display Dock ของไมโครซอฟท์ เพื่อเชื่อมต่อเครื่องสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอโทรทัศน์หรือมอนิเตอร์ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับคอนเทนท์ความบันเทิงแบบเต็มตา หรือนำคีย์บอร์ดและเมาส์มาต่อเพิ่มให้โทรศัพท์ของคุณกลายเป็นพีซีที่สามารถใช้แอพ Windows 10 อย่าง Microsoft Office ได้ โดยที่ยังสามารถพูดโทรศัพท์หรือใช้งานแอพสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ไปพร้อมกันได้
ด้วยกล้อง PureView รุ่นล่าสุด ที่ใช้เซนเซอร์ขนาด 20 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED สามสีเพื่อโทนภาพที่เป็นธรรมชาติ และคุณสมบัติการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ลูเมีย 950 และ 950 XL จึงสามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างคมกริบ จับโฟกัสได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แม้ในสภาพแสงที่ไม่เอื้ออำนวย สมาร์ทโฟน Lumia 950 และ 950 XL จะเริ่มวางตลาดในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยราคาและกำหนดการวางจำหน่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติมของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น สามารถอ่านได้ที่ลิงค์นี้: Lumia 950 / Lumia 950 XL
ในโอกาสนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัว Lumia 550 สมาร์ทโฟน 4G LTE บน Windows 10 ที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดในตระกูลลูเมีย โดดเด่นด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมและบริการจากไมโครซอฟท์ครบครัน การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่รวดเร็ว และชิปประมวลผลควอดคอร์ตระกูล Snapdragon™ จากควอลคอมม์® ที่รองรับเครือข่าย 4G ความเร็วสูง ในราคาเพียง 139 เหรียญสหรัฐ ไมโครซอฟท์จะนำ Lumia 550 ออกทำตลาดในยุโรปเป็นภูมิภาคแรกในเดือนธันวาคมนี้ ก่อนจะขยายไปยังตลาดอื่นทั่วโลก สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่ลิงค์นี้: Lumia 550
เสริมความฟิตด้วย Microsoft Band 2
Microsoft Band 2 (ไมโครซอฟท์ แบนด์ 2) เป็นดีไวซ์เพื่อการสวมใส่รุ่นล่าสุดที่ช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่มีหน้าจอทรงโค้ง เพิ่มความสบายในการสวมใส่ ทั้งยังรองรับการตอบข้อความ SMS หรือตั้งบันทึกเตือนความจำผ่านคอร์ทานาอีกด้วย นอกจากจะมีเซนเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงและจีพีเอสในตัวแล้ว Microsoft Band 2 ยังช่วยติดตามสถิติอย่างการเผาผลาญแคลอรี การออกกำลังกาย คุณภาพการนอนหลับ หรือแม้แต่จำนวนชั้นที่เดินขึ้นบันได โดยที่ยังมีแบตเตอรีทนทาน ใช้งานได้สองวันเต็มเช่นเดิม
ข้อมูลที่เก็บจาก Microsoft Band 2 สามารถเข้าถึงได้ด้วยแอพ Microsoft Health ทั้งบนแพลตฟอร์ม Windows, iOS, Androids และทางหน้าเว็บไซต์ โดยสามารถใช้แอพนี้ตั้งเป้าหมายด้านสุขภาพและการออกกำลังกายให้กับตัวคุณเอง และอ่านคำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้จริงได้อีกด้วย Microsoft Band 2 มีราคาเริ่มต้นที่ 249 เหรียญสหรัฐ โดยเปิดให้จองแล้วเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาในบางประเทศ และจะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ก่อนจะทยอยเปิดตัวในตลาดอื่น ๆ ต่อไป สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่ลิงค์นี้: Microsoft Band 2
Microsoft HoloLens พร้อมจุดประกายสร้างสรรค์ให้นักพัฒนา
Microsoft HoloLens (ไมโครซอฟท์ โฮโลเลนส์) คอมพิวเตอร์ระบบโฮโลกราฟฟิกไร้สายเครื่องแรกของโลก ใช้ Windows 10 เป็นพื้นฐานในการสร้างประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ ทั้งในด้านการศึกษา งานออกแบบ การแพทย์ หรือความบันเทิง ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ขณะนี้ ไมโครซอฟท์ได้เปิดให้นักพัฒนาแอพสามารถสั่งจอง Microsoft HoloLens รุ่นพิเศษสำหรับนักพัฒนาได้แล้วในราคา 3,000 เหรียญสหรัฐ โดยจะเริ่มส่งมอบสินค้าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 ผู้สนใจสามารถยื่นเรื่องสั่งจองได้ทางเว็บไซต์ http://hololens.com
เกมใหม่สุดอลังการบน Xbox
คอนโซลเกม Xbox One (เอ็กซ์บ็อกซ์ วัน) จะได้รับการอัพเดทซอฟต์แวร์ใหม่ให้มีพื้นฐานอยู่บนแพลตฟอร์ม Windows 10 ในเดือนพฤศจิกายนนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้คอเกมทั่วโลกเชื่อมต่อถึงกันได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณสมบัติ Backward Compatibility ยังจะช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมเก่าจากเครื่อง Xbox 360 ได้บน Xbox One โดยในช่วงเปิดตัวนี้ จะรองรับเกม Xbox 360 ถึง 100 เกม ก่อนที่จะทยอยขยายการสนับสนุนไปยังเกมอื่น ๆ อีกนับร้อยในอนาคต และยังสามารถนำเกมเหล่านี้ไปเล่นบนพีซีที่ใช้วินโดวส์ 10 ได้ ผ่านทางคุณสมบัติการสตรีมเกม
ส่วนในช่วงสิ้นปีนี้ เกมเมอร์ทั้งหลายจะได้พบกับเกมใหม่สุดยิ่งใหญ่อย่าง “Halo 5: Guardians” “Rise of the Tomb Raider” “Forza Motorsport 6” และ “Gears of War: Ultimate Edition” พร้อมด้วยบันเดิลสุดพิเศษที่ครบครันสำหรับคอเกมทุกแนว ในราคาเริ่มต้นเพียง 349 เหรียญสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นบันเดิล “Halo 5: Guardians” รุ่นพิเศษที่ผลิตมาในจำนวนจำกัด บันเดิล “Fallout 4” ที่มาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 1TB พร้อมสิทธืในการดาวน์โหลดเกม “Fallout 3” สำหรับ Xbox 360 แบบฟรี ๆ บันเดิล Xbox One Elite ที่มาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์รุ่นใหม่ หรือบันเดิลเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ที่มาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ 1TB ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับคอนโซล Xbox Oneและซอฟต์แวร์อัพเดทรุ่นใหม่ได้ที่นี่
ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาสามารถสั่งซื้อ Surface Book, Surface Pro 4, Lumia 950, Lumia 950 XL, Microsoft Band 2 และ Xbox One ได้ทาง microsoftstore.com ร้าน Microsoft Store 110 สาขาทั่วประเทศ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Windows 1010 และดีไวซ์ต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์ได้ที่ http://blogs.windows.com/launch