ทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่นเป็นวิสัยทัศน์ของดักลาส ทอมพ์กินส์ ผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเดอะ นอร์ท เฟส และอีสปิริต และคริส ทอมพ์กินส์ อดีตซีอีโอของปาตาโกเนีย อิงค์
สแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย, 9 เมษายน 2567 /PRNewswire/ — ทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น (Tompkins Conservation) และคริสติน แมคดิวิตต์ ทอมพ์กินส์ (Kristine McDivitt Tompkins) และดักลาส อาร์ ทอมพ์กินส์ (Douglas R. Tompkins) ผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้สนับสนุนทางการเงินได้บริจาคเอกสารจดหมายเหตุส่วนบุคคล ตลอดจนเอกสารจดหมายเหตุเกี่ยวกับงานอนุรักษ์ และฟื้นฟูธรรมชาติในอเมริกาใต้ให้กับห้องสมุดมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) บันทึกทางประวัติศาสตร์ กฎหมาย และวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อคณะอาจารย์และนักเรียนที่สานต่อประเพณีอันยาวนานของสแตนฟอร์ดในการศึกษาและวิจัยภาคสนามในชิลีและอาร์เจนตินา รวมถึงผู้ที่สนใจในโครงการอนุรักษ์ผืนดิน
Kristine McDivitt Tompkins and the late Douglas R. Tompkins. ©Tompkins Family Archives.
ทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น และองค์กรลูกอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไร รีไวลด์ดิ้ง อาร์เจนตินา (Rewilding Argentina) และรีไวลด์ดิ้ง ชิลี (Rewilding Chile) ได้ใช้เวลากว่าสามทศวรรษในการปกป้อง และฟื้นฟูธรรมชาติให้กับภูมิทัศน์ป่าขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงถึงกัน เพื่อให้ชุมชนมนุษย์ สัตว์ และพืชสามารถเจริญเติบโตได้ ซึ่งเป็นการผลักดันเพื่อแก้ไขปัญหาระดับโลกในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่นได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนการสร้าง หรือขยับขยายอุทยานแห่งชาติ 15 แห่ง รวมถึงอุทยานแห่งชาติทางทะเล 2 แห่ง โดยปกป้องพื้นที่ 14.8 ล้านเอเคอร์และมหาสมุทร 30 ล้านเอเคอร์ในอาร์เจนตินาและชิลีเพื่อรักษาระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้รับการบอกเล่าในสารคดี ไวลด์ไลฟ์ (Wild Life) ที่เผยแพร่ในปี 2566 โดยเนชั่นแนลจีโอกราฟิก ด็อกคิวเมนทารี่ ฟิล์ม (National Geographic Documentary Films)
“ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ส่งมอบแรงบันดาลใจ ความรู้สึกเศร้า และงดงาม โดยเป็นการนำเสนอบริบทร่วมสมัยสำหรับชุมชนวิชาการ ในขณะที่เราเตรียมเปิดหอจดหมายเหตุทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่นเพื่อใช้ในการวิจัย” ไมเคิล เอ. เคลเลอร์ บรรณารักษ์และรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยไอด้า เอ็ม กรีน (Ida M. Green) กล่าว “ฉันคาดว่าที่สแตนฟอร์ดจะมีส่วนร่วมกับองค์กรเหล่านี้และภารกิจของพวกเขาอย่างแข็งขันในระยะยาว และฉันหวังว่านักศึกษาทุกระดับจะมีโอกาสในการมีส่วนร่วมในโครงการของพวกเขาทั้งจากในวิทยาเขตหรือนอกสถานที่ เรารู้สึกขอบคุณคริส ทอมพ์กินส์อย่างยิ่งที่ได้จัดตั้งหอจดหมายเหตุขึ้นที่สแตนฟอร์ด ที่ซึ่งนักวิชาการละนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศที่หวังดีจะได้ใช้ประโยชน์จากหอจดหมายเหตุได้อย่างดีเยี่ยม”
“แม้ว่างานของเราจะดำเนินการอยู่ที่ปลายสุดของอเมริกาใต้” คริส ทอมพ์กินส์ กล่าว “ทว่าต้นกำเนิดของเรานั้นเริ่มตhนในย่านเบย์แอเรีย ที่ซึ่งดั๊ก ทอมพ์กินส์ได้สร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหญ่ที่ได้กลับกลายมาเป็นรากฐานสำหรับองก์ที่สองของเรา ซึ่งฉันได้เข้าร่วมกับดั๊กในความพยายามเพื่อ “จ่ายคืนให้กับโลก” ผ่านการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของผู้คนในตระกูลแมคดิวิตต์หลายคน มีส่วนช่วยในด้านการศึกษาและสร้างค่านิยมให้กับครอบครัวของฉัน ดังนั้น นี่จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่หอจดหมายเหตุของทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น ดั๊ก และตัวฉันเองจะมาอยู่ที่สแตนฟอร์ด ซึ่งเราหวังว่าจดหมายเหตุเหล่านี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนที่ชาญฉลาดจากทุกสาขาอาชีพเพื่อทำงานสร้างสรรค์โลกให้สวยงาม มีความเสมอภาค และมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”
ทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่นประกอบไปด้วยสามคอลเลคชั่นที่โดดเด่น โดยมีคอลเลคชั่นแรกคือ บันทึกเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของดักลาส อาร์ ทอมพ์กินส์ (2486-2558) ผู้ร่วมก่อตั้งเดอะ นอร์ท เฟส (The North Face) และอีสปิริต (Esprit) รวมถึงองค์กรไม่แสวงหากำไรหลายแห่งที่ต่อมากลายเป็นทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น คอลเลกชั่นนี้ประกอบด้วยการติดต่อพูดคุยกับผู้ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของเขาจากผู้ประกอบการฉบับทุนนิยมไปเป็นนักกิจกรรม และไปสู่นักการกุศล โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจทางวิชาการคือ สื่อมัลติมีเดียทั้งที่ตีพิมพ์และไม่ได้ตีพิมพ์ ซึ่งดั๊ก ทอมพ์กินส์ได้สร้างขึ้นหรือเก็บรวบรวมตามความสนใจของเขา และโครงการของเขาในด้านเกษตรกรรมเชิงนิเวศและเกษตรอินทรีย์ รวมไปถึงการปีนเขาและการพายเรือคายัคในแม่น้ำ และหลักการของมูลนิธิเพื่อนิเวศวิทยาเชิงลึก (Foundation for Deep Ecology) ที่ให้คุณค่ากับทุกชีวิตบนโลก โดยไม่คำนึงถึงคุณประโยชน์ต่อจุดประสงค์ของมนุษย์
คอลเลกชั่นคริสติน แมคดิวิตต์ ทอมพ์กินส์บันทึกประวัติอาชีพการทำงานของคนชื่อเดียวกันในฐานะอดีตซีอีโอของปาตาโกเนีย อิงค์ (Patagonia Inc.) และประธานคนปัจจุบัน และผู้ร่วมก่อตั้งทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น คริส ทอมพ์กินส์ แต่งงานกับดั๊ก ทอมพ์กินส์ในปี 2537 และยังคงสานต่อมรดกการอนุรักษ์ของพวกเขาต่อไปนับตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเรือคายัคในปี 2558 เอกสารอันโดดเด่นในคอลเลกชั่นนี้ได้บันทึกการก่อตั้งคอนเซอร์เวชิออน ปาตาโกเนีย (Conservacion Patagonia) องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ผืนดินในภูมิภาคปาตาโกเนียของชิลีและอาร์เจนตินา คริส ทอมพ์กินส์เป็นนักอนุรักษ์คนแรกที่ได้รับรางวัล Carnegie Medal of Philanthropy ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้อุปถัมภ์โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติสำหรับพื้นที่คุ้มครอง และได้รับรางวัล Ken Burns American Heritage Prize เมื่อเร็วๆ นี้
คอลเลกชั่นทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่นประกอบไปด้วยหนังสือ ข้อมูลทุนช่วยเหลือ แฟ้มทางกฎหมาย บทความ บทสัมภาษณ์ ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว และเอกสารอื่นๆ เอกสารและสิ่งพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดของคอลเลกชั่นได้บันทึกปรัชญาการก่อตั้ง การจัดตั้ง และการกำกับดูแล โดยมีต้นกำเนิดมาจากสิ่งที่องค์กรได้ทำก่อนหน้านี้ และกำหนดประเด็นหลักที่ให้ความสำคัญในการสร้างอุทยาน และอุทยานทางทะเล ของขวัญชิ้นนี้จะช่วยให้นักวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสามารถศึกษาทุกแง่มุมของโครงการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ
“มีสถานที่ไม่กี่แห่งในโลกที่จะสูญเสียไปไม่ได้เหมือนกับปาตาโกเนีย” เอลิซาเบธ เอ. แฮดลี (Elizabeth A. Hadly) ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาสิ่งแวดล้อมในคณะมนุษยศาสตร์และวิทยาศาสตร์จากพอล เอส (Paul S.) และบิลลี่ อคิลลีส (Billie Achilles) กล่าว “ในขณะที่ทอมพ์กินส์ดำเนินงานอยู่ที่ปาตาโกเนีย ฉันเคยทำงานวิจัยอยู่ที่นั่นเพื่อขุดค้นและอธิบายพลวัตของพืชและสัตว์ในช่วง 10,000 ปีที่ผ่านมา พยายามหาคำตอบว่าเหตุใดทวีปอเมริกาใต้ที่มีเขตอบอุ่นจึงมีความหลากหลายทางชีวภาพน้อยกว่าทวีปอเมริกาเหนือที่ละติจูดเดียวกัน และพยายามไขความลึกลับของปัญหาคอขวดทางพันธุกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่มีสังคมเฉพาะถิ่น (หนูทูโคทูโค) ซึ่งในที่สุดก็ได้รับคำตอบผ่านการปะทุของภูเขาไฟในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเทือกเขาแอนดีส”
การวิจัยของสแตนฟอร์ดในภูมิภาคนี้กำลังดำเนินต่อไป โดยหนึ่งในตัวอย่างก็คือ โรเบิร์ต ดันบาร์ (Robert Dunbar) ศาสตราจารย์ดับเบิลยูเอ็ม เค็ก (W.M. Keck)ด้านวิชาธรณีศาสตร์ในโรงเรียนความยั่งยืนสแตนฟอร์ด โดเออร์ (Stanford Doerr) ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในตะกอนของทะเลสาบปาตาโกเนียนมาหลายปีแล้ว ซึ่งในฤดูร้อนที่แล้ว เขาได้นำกลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดไปที่ปาตาโกเนียเพื่อดำเนินหลักสูตรที่มีความสมดุลระหว่างแบบฝึกหัดภาคสนามกับการสำรวจชุมชน
สเตฟาน เอ. เกรแฮม (Stephan A. Graham) ศาสตราจารย์เวลตัน โจเซฟ (Welton Joseph) และม็อด แลนเฟียร์ ครุก (Maud L’Anphere Crook) จากโรงเรียนความยั่งยืนสแตนฟอร์ด โดเออร์ และคณบดีกิตติมศักดิ์จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์โลก พลังงาน และสิ่งแวดล้อม (School of Earth, Energy and Environmental Sciences) กล่าวว่า “ผมกับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาได้ออกทำการศึกษาภาคสนามในปาตาโกเนียตอนใต้สุดในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา โดยกลุ่มของผมได้รับปริญญาเอกถึง 12 ใบ ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงรู้สึกซาบซึ้งในความงดงามอันลึกซึ้ง และความสำคัญทางนิเวศวิทยาของสถานที่แห่งนี้ โรงเรียนความยั่งยืนสแตนฟอร์ด โดเออร์ได้รับการชี้นำโดยเป้าหมายในการสรรค์สร้างอนาคตที่มนุษย์และธรรมชาติเจริญเติบโตร่วมกันและตลอดไปผ่านความเป็นเลิศในด้านการวิจัย การศึกษา นวัตกรรม และการบริการ โดยมีแผนกวิชาการครอบคลุมหัวข้อต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ธรณีวิทยา ระบบมหาสมุทร ระบบนิเวศ ไปจนถึงปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับระบบนิเวศ ด้วยเหตุนี้เอง เป้าหมายของโรงเรียนความยั่งยืนสแตนฟอร์ด โดเออร์จึงสอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับผลงานอันยอดเยี่ยมของทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น”
กิจกรรมเฉลิมฉลองทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น และหอจดหมายเหตุของครอบครัวทอมพ์กินส์มีกำหนดจัดขึ้นในวันคุ้มครองโลกในวันที่ที่ 22 เมษายน 2567 เริ่มเวลา 16.30 น. ในอาคาร Traitel ในวิทยาเขตสแตนฟอร์ด กิจกรรมนี้สามารถเข้าร่วมได้ฟรี และจำเป็นต้องลงทะเบียน ทั้งนี้ในขณะที่คอลเลกชั่นยังไม่พร้อมให้บริการเนื่องจากกำลังดำเนินการจัดตั้งหอจดหมายเหตุ ผู้สนใจสามารถส่งคำถามเกี่ยวกับการเข้าถึงและการใช้งานทางวิชาการไปที่อัลมา ปาราดา (Alma Parada) บรรณารักษ์ด้านโลกและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมได้
สื่อมวลชน โปรดติดต่อ:
ห้องสมุดมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โซเนีย ลี (Sonia Lee) sonialee@stanford.edu
ทอมพ์กินส์ คอนเซอร์เวชั่น: แคโรลีน แม็กคาร์ธี (Carolyn McCarthy) carolyn.mccarthy@tompkinsconservation.org
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2380663/TompkinsArchives.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More