ดอยท์เชส ฮอสปิทอลลิตี้ได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล

ข้อตกลงร่วมทุนและโรงแรมครั้งใหม่ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อการเติบโตในระดับโลก

แฟรงก์เฟิร์ต, เยอรมนี เซี่ยงไฮ้ และดูไบ, 29 กุมภาพันธ์ 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — ดอยท์เชส ฮอสปิทอลลิตี้ (Deutsche Hospitality) บริษัทโรงแรมชื่อดังในยุโรปจากประเทศเยอรมนีได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (H World International) เพื่อขับเคลื่อนการขยายธุรกิจนอกประเทศจีนของเฮช เวิลด์ (H World) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของ แบรนด์ของเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลทั้งหมดจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมสะสมคะแนนระดับโลก เฮช รีวอร์ด (H Rewards) และแพลตฟอร์มการจองทางออนไลน์ โดยกลุ่มแบรนด์ประกอบไปด้วยสเตเกนเบอเกอร์ ไอคอน (Steigenberger Icons), สเตเกนเบอเกอร์ ปอร์เช่ ดีไซน์ โฮเทล (Steigenberger Porsche Design Hotels), สเตเกนเบอเกอร์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต (Steigenberger Hotels & Resorts), แจ๊ส อิน เดอะ ซิตี้ (Jaz in the City), เฮาส์ ออฟ บีตส์ (House of Beats), อินเตอร์ซิตี้โฮเทล (IntercityHotel), แม็กซ์ (Maxx) และซลีป โฮเทล (Zleep Hotels) ทั้งนี้ยังมีจี โฮเทล (Ji Hotel) แบรนด์ใหม่ในกลุ่มแบรนด์นานาชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ขนาดกลางที่มีการเติบโตเร็วที่สุดของเฮช เวิลด์ ไชน่า (H World China) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวจี โฮเทล ออร์ชาร์ด สิงค์โปร (Ji Hotel Orchard Singapore) เป็นโรงแรมแห่งแรกของแบรนด์นอกประเทศจีน

Joint venture between Conduit House and H World International. To the left: Grant Healy, Chief Executive Officer Conduit House. To the right: Oliver Bonke, Chief Executive Officer H World International © Steigenberger Hotels GmbH
Joint venture between Conduit House and H World International. To the left: Grant Healy, Chief Executive Officer Conduit House. To the right: Oliver Bonke, Chief Executive Officer H World International © Steigenberger Hotels GmbH

“การเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของการเติบโตในระดับนานาชาติ พร้อมกับเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเราในประเทศจีน” จิน ฮุย (Jin Hui) ซีอีโอของเฮช เวิลด์ กล่าว “นี่เป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายของเราในการเป็นกลุ่มโรงแรมระดับโลก โดยมีทีมระดับโลกเพียงหนึ่งเดียว”

โอลิเวอร์ บองเก้ (Oliver Bonke) จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับทีมผู้บริหารทีมเดิมของดอยท์เชส ฮอสปิทอลลิตี้ โดยโอลิเวอร์ บองเก้ และชุน วา หว่อง (Choon Wah Wong) ซีเอฟโอของเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลจะยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัทสเตเกนเบอเกอร์ โฮเทล (Steigenberger Hotels) เหมือนเดิม ทั้งนี้เฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลยังครอบคลุมไปถึงยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดียและแอฟริกา (MEIA) รวมถึงเอเชียแปซิฟิก (APAC)

“เราตื่นเต้นมากที่นำแบรนด์อันโดดเด่นทั้งหมดของเรามาสู่ตลาดสำคัญของโลก การนำเสนอคุณค่าที่น่าสนใจสำหรับเจ้าของและนักลงทุนจะช่วยให้เราสามารถมอบโอกาสในการทำงานให้กับพนักงานของเราในทั่วโลก และช่วยให้สมาชิกเฮช รีวอร์ดกว่า 218 ล้านคนมีตัวเลือกที่มากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มโรงแรมที่น่าดึงดูด จุดหมายปลายทาง และแบรนด์ต่างๆ ที่มากขึ้น” โอลิเวอร์ บองเก้ กล่าว

การร่วมทุนกับคอนดูอิท เฮาส์ (Conduit House)

ในการขยับขยายธุรกิจในภูมิภาค APAC  เฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ร่วมทุนกับคอนดูอิท เฮาส์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการโรงแรมและผู้จัดการสินทรัพย์ด้านธุรกิจต้อนรับแบบครบวงจรในเอเชีย เพื่อรับการสนับสนุนก่อนเปิดให้บริการ บริการการเชิงเทคนิค และการดำเนินงาน บองเก้ กล่าวเสริมว่า “เราได้รับกำลังใจจากโอกาสในการร่วมเป็นพันธมิตรกับคอนดูอิท เฮาส์ ซึ่งบริหารงานโดยแกรนท์ ฮีลลี (Grant Healy) ผู้มากประสบการณ์ในอุตสาหกรรม และอาคิม เลนเดอร์ส (Achim Lenders) ที่มีความเชี่ยวชาญ สายสัมพันธ์ และเครือข่ายในเอเชีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อแผนการเติบโตอันทะเยอทะยานของเรา”

เซ็นสัญญาใหม่ห้าฉบับทั่วภูมิภาคการเติบโตของเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล

เฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เซ็นสัญญาข้อตกลงกับบริษัท ตันตกิตติ์ จำกัด (Tantakitt Company Limited) สำหรับโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ, สเตเกนเบอเกอร์ (Montien Surawong Bangkok, a Steigenberger Hotel) ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ โดยจะเป็นโรงแรมสเตเกนเบอเกอร์แห่งแรกในประเทศไทย และเป็นตัวแทนของแบรนด์ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ โรงแรมในตำนานที่มีสไตล์นี้มีห้องพักถึง 475 ห้อง ซึ่งผสมผสานสไตล์ไทยอันเหนือกาลเวลาเข้ากับทัศนคติร่วมสมัย นอกจากนี้ ยังได้มีการลงนามในสัญญากับบริษัท ไท่ เซียง จำกัด (Tai Xiang International Co., Ltd.) สำหรับแม็กซ์ ห้วยใหญ่ วิลล่า (Maxx Huay Yai Villa) พัทยา ประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยวิลล่าที่ล้ำสมัย และกว้างขวางจำนวน 108 หลัง และคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2568

ในภูมิภาค MEIA บริษัทฯ ได้ลงนามข้อตกลงเมื่อเร็วๆ นี้เพื่อสร้างสเตเกนเบอเกอร์ รีสอร์ต บยูม เลคไซด์ (Steigenberger Resort Byoum Lakeside) แห่งใหม่ในอียิปต์ เพิ่มเติมจากรีสอร์ตสเตเกนเบอเกอร์ที่มีอยู่ 16 แห่งในประเทศ โรงแรมมาพร้อมกับห้องพักสุดหรู 90 ห้อง และห่างจากกรุงไคโรไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 90 กิโลเมตร โดยอยู่ใกล้กับทะเลสาบคารุน ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2568 ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ประกาศเปิดตัวอินเตอร์ซิตี้โฮเทล บาวชาร์ (IntercityHotel Bawshar) ในมัสแคท ประเทศโอมาน ซึ่งเป็นอินเตอร์ซิตี้โฮเทลแห่งที่สี่ในโอมาน และแห่งที่หกใน MEIA

ในยุโรป แบรนด์สเตเกนเบอเกอร์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ตได้เพิ่มโรงแรมบีเลอเฟลเดอร์ โฮฟ (Bielefelder Hof) อันเก่าแก่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในเยอรมนีเข้ามาในแบรนด์ นอกจากนี้ ซลีป โฮเทล ซึ่งเป็นแบรนด์ราคาประหยัดจากเดนมาร์ก กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นผ่านการเปิดตัวในฮอร์เซนส์ ประเทศเดนมาร์ก รวมถึงเมืองโลซานน์ และเมืองซูริก ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการลงนามข้อตกลงสำหรับโรงแรมซลีปอีก 2 แห่งสำหรับซลีป โฮเทล เบิร์น (Zleep Hotel Bern) ซึ่งมีกำหนดเปิดในช่วงปลายปี 2568 และซลีป โฮเทล เกิพพิงเงิน (Zleep Hotel Göppingen) ในเยอรมนีตอนใต้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดในปี 2569

เกี่ยวกับเฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 

เฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (H World International) ได้ผนวกรวมจุดแข็งของแบรนด์ที่มากประสบการณ์เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการโรงแรมระดับนานาชาติ บริษัทฯ มีกิจการอยู่ในยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และแอฟริกา รวมถึงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และกำลังขยายธุรกิจผ่านการเช่า การจัดการ และโรงแรมแฟรนไชส์ที่ผสมผสานกับอย่างลงตัว แบรนด์อันโดดเด่นทั้ง 9 ได้มารวมตัวกันภายใต้เฮช รีวอร์ด (H Rewards) – แพลตฟอร์มการจองที่เรียบง่ายและให้ความสำคัญกับลูกค้า ทั้งยังมีโปรแกรมสะสมคะแนนที่มีสมาชิกกว่า 218 ล้านคนทั่วโลก เฮช เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นส่วนหนึ่งของเฮช เวิลด์ หนึ่งในกลุ่มโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดและโตเร็วที่สุดในโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ int.hworld.com

สเตเกนเบอเกอร์ ไอคอน (Steigenberger Icons) เป็นโรงแรมสุดพิเศษที่ผสานรวมคุณค่าทางประวัติศาสตร์เข้ากับแนวคิดที่ทันสมัย สเตเกนเบอเกอร์ ปอร์เช่ ดีไซน์ โฮเทล (Steigenberger Porsche Design Hotels) ได้รวมไลฟ์สไตล์การออกแบบปอร์เช่อันโดดเด่นเข้ากับธุรกิจต้อนรับและการบริการ สเตเกนเบอเกอร์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต (Steigenberger Hotels & Resorts) จะให้แขกได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์โรงแรมชั้นยอดสุดตราตรึง แจ๊ส อิน เดอะ ซิตี้ (Jaz in the City) เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เน้นไปที่ดนตรี: ประสบการณ์ที่สอดคล้องกัน มีชีวิตชีวา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เฮาส์ ออฟ บีตส์ (House of Beats) สนับสนุนฮีโร่ในท้องถิ่น และแบรนด์นวัตกรรมที่มีแนวทางด้านชุมชนที่จริงจัง อินเตอร์ซิตี้โฮเทล (IntercityHotel) เป็นโรงแรมที่มีความคล่องตัวและยืดหยุ่น ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และนำเสนอมาตรฐานระดับสูงด้านการออกแบบและความสะดวกสบาย แม็กซ์ (MAXX) หมายถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในตลาดระดับกลาง ซลีป โฮเทล (Zleep Hotels) นำเสนอการออกแบบ คุณภาพ และความเรียบง่ายสไตล์สแกนดิเนเวียของเดนมาร์กในราคาที่ย่อมเยา จี โฮเทล (Ji Hotel) ให้บริการแขกด้วยความสง่างามแบบตะวันออก เทคโนโลยีที่ออกแบบมาอย่างดี และพื้นที่มากมายเพื่อความเป็นส่วนตัว จองการเข้าพักของคุณได้ที่ hrewards.com 

เกี่ยวกับบริษัทเฮช เวิลด์ กรุ๊ป

บริษัทเฮช เวิลด์ กรุ๊ป (H World Group Limited) ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน และเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมการโรงแรมระดับโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เฮช เวิลด์ บริหารงานโรงแรม 9,394 แห่ง โดยมีห้องพัก 912,444 ห้องให้บริการใน 18 ประเทศ แบรนด์ของเฮช เวิลด์ ประกอบไปด้วยไฮอินน์ (Hi Inn), อีลาน โฮเทล (Elan Hotel), หานติง โฮเทล (HanTing Hotel), จี โฮเทล (Ji Hotel), สตาร์เวย์ โฮเทล (Starway Hotel), ออเรนจ์ โฮเทล (Orange Hotel), คริสตัล ออเรนจ์ โฮเทล (Crystal Orange Hotel), หมานซินโฮเทล (Manxin Hotel), เมดิสัน โฮเทล (Madison Hotel), โจยา โฮเทล(Joya Hotel), บลอสซั่ม เฮาส์ (Blossom House), หนี ห่าว โฮเทล (Ni Hao Hotel), ซิตี้โก โฮเทล (CitiGO Hotel), สเตเกนเบอเกอร์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต (Steigenberger Hotels & Resorts), แม็กซ์ (MAXX), แจ๊ส อิน เดอะ ซิตี้ (Jaz in the City), อินเตอร์ซิตี้โฮเทล (IntercityHotel), ซลีป โฮเทล (Zleep Hotels), สเตเกนเบอเกอร์ ไอคอน (Steigenberger Icons) และซอง โฮเทล (Song Hotels) นอกจากนี้ เฮช เวิลด์ยังมีสิทธิ์ในฐานะผู้ที่ได้รับสิทธิ์สำหรับเมอร์เคียว (Mercure), ไอบิส (Ibis) และไอบิส สไตล์ (Ibis Styles) และสิทธิ์ในการพัฒนาร่วมกับแกรนด์ เมอร์เคียว (Grand Mercure) และโนโวเทล (Novotel) ในภูมิภาคแพนไชน่า

ธุรกิจของ เฮช เวิลด์ประกอบด้วยโมเดลการเช่าและเป็นเจ้าของ แฟรนไชส์ที่มีการจัดการ และแบบแฟรนไชส์ โดยเฮช เวิลด์ดำเนินธุรกิจโรงแรมโดยตรง ซึ่งโดยปกติจะตั้งอยู่ในพื้นที่เช่าหรือเป็นเจ้าของ ภายใต้โมเดลการเช่าและเป็นเจ้าของ สำหรับโมเดลแฟรนไชส์ที่มีการจัดการ เฮช เวิลด์ได้บริหารจัดการโรงแรมแฟรนไชส์ผ่านผู้จัดการโรงแรมที่เฮช เวิลด์แต่งตั้ง และเฮช เวิลด์จะเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ สำหรับโมเดลแฟรนไชส์ เฮช เวิลด์ให้บริการฝึกอบรม สำรองห้องพัก และสนับสนุนโรงแรมแฟรนไชส์ และเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ แต่ไม่ได้แต่งตั้งผู้จัดการโรงแรมในสถานที่ โดยเฮช เวิลด์ใช้มาตรฐานและแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกันกับโรงแรมทุกแห่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เฮช เวิลด์ ได้บริหารห้องพัก 11 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้โมเดลการเช่าและเป็นเจ้าของ และ 89 เปอร์เซ็นต์ภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ที่มีการจัดการ และโมเดลแฟรนไชส์

Press contact
H World International
E: media@int.hworld.com

Press contact
H World Group
E: cpr@hworld.com

 

View original content to download multimedia: Read More