การศึกษาฉบับใหม่พบว่าเทคโนโลยีเอไอสร้างเนื้อหาติดอันดับสูงสุดด้านการลงทุนเทคโนโลยีของผู้ผลิต ขณะที่ 94% คาดหวังว่าจะรักษาระดับหรือเพิ่มจำนวนแรงงานของตน

รายงานการศึกษาแวดวงการผลิตอัจฉริยะทั่วโลก เผยให้เห็นผลกระทบของเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่มีต่อการจัดการปัญหาความท้าทายด้านแรงงาน คุณภาพ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และความยั่งยืน 

สิงคโปร์, 2 เมษายน 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — ในวันนี้ ร็อคเวล ออโตเมชั่น อิงค์ (Rockwell Automation, Inc.) (NYSE: ROK) บริษัทรายใหญ่ที่สุดในโลกด้านระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ประกาศผลการศึกษาแวดวงการผลิตอัจฉริยะในหัวข้อ “State of Smart Manufacturing Report” ซึ่งดำเนินการเป็นปีที่ 9 แล้ว การศึกษาดังกล่าวได้สำรวจผู้ผลิตกว่า 1,500 รายทั่วโลก ในประเทศที่ล้ำหน้าในด้านการผลิต 17 แห่ง

รายงานประจำปีนี้มุ่งแสดงให้เห็นการควบคุมใช้งานเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น เพิ่มศักยภาพของแรงงานให้อยู่ในระดับสูงสุด และขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน

“แรงงานที่มีทักษะเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานของทุกการดำเนินงานการผลิตให้ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าการดึงดูด จัดการ และการรักษาพนักงานไว้ก็เป็นความท้าทายที่เราเผชิญอยู่อย่างต่อเนื่อง” คุณไซริล เพอร์ดูแคท (Cyril Perducat) รองประธานกรรมการฝ่ายอาวุโสและผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของร็อคเวล ออโตเมชั่นกล่าว “การสำรวจครั้งนี้พบว่าการใช้เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ทางแก้ปัญหา ผู้ผลิตจะต้องมุ่งความสำคัญที่พนักงานของตนเพื่อให้ยอมรับและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปใช้ดำเนินงานให้เป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรที่เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาอยู่เสมอ และสร้างการร่วมมือกันระหว่างเทคโนโลยีและพนักงานเพื่อผลักดันให้ธุรกิจก้าวหน้า และทำให้ผู้ผลิตยังคงมีความได้เปรียบในการแข่งขัน”

ข้อค้นพบสำคัญจากรายงานฉบับนี้ ประกอบด้วย

  • เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นความสามารถที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดที่ผู้ผลิตเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจได้มากที่สุด โดยผู้ผลิต 83% คาดว่าจะได้ใช้เทคโนโลยีเอไอสร้างเนื้อหา (GenAI) ในการดำเนินธุรกิจของตนในปี 2567
  • ผู้ผลิต 95% กำลังใช้งานหรือประเมินการทำงานของเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 84% ในปี 2566
  • ผู้ผลิต 94% วางแผนที่จะคงระดับหรือเพิ่มจำนวนแรงงานของตน โดยมีเหตุจากการนำเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะไปใช้ในการดำเนินงาน โดยมุ่งความสำคัญอย่างจริงจังกับการปรับเปลี่ยนพนักงานให้เข้ากับบทบาทหน้าที่ใหม่หรือที่แตกต่างออกไป และ/หรือจ้างพนักงานเพิ่มเติม
  • การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลง เป็นอุปสรรคเกี่ยวกับแรงงานที่สำคัญของผู้ผลิตในปี 2567
  • ผู้ผลิตระบุว่า “คุณภาพที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น” เป็นผลลัพธ์เชิงบวกติดอันดับสูงสุดที่พวกเขาหวังว่าจะสามารถบรรลุผลสำเร็จจากการใช้เทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะที่พวกเขากำลังใช้อยู่เป็นปีที่สองติดต่อกัน นอกจากนี้ “การควบคุมคุณภาพ” ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 1 ของยูสเคส (Use Case) การเรียนรู้ของเครื่อง/ปัญญาประดิษฐ์ในปี 2567
  • เป็นครั้งแรกที่ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ติดกลุ่มความเสี่ยงจากภายนอกห้าอันดับสูงสุดสำหรับผู้ผลิตในปี 2567 โดยถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 3 โดยรวม
  • การบริหารจัดการพลังงาน เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุดกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)/ความยั่งยืนของผู้ผลิต

“กลุ่มแรงงานจากปี 2562 จะไม่กลับมาดังเดิม” คุณอัลลิสัน คุห์น (Allison Kuhn) นักวิจัยหลักของแอลเอ็นเอส รีเสิร์ช (LNS Research) กล่าว “การพัฒนากลยุทธ์ด้านแรงงานที่มีความยั่งยืนจะมีความสำคัญมากเพื่อใช้นำทางให้ก้าวผ่านความท้าทายที่ยากลำบากในการผลิตได้อย่างประสบความสำเร็จ ผู้นำจะเป็นผู้ชนะในการแย่งชิงพนักงานผู้มีความสามารถได้ก็ด้วยการยอมรับความจริงใหม่ในข้อนี้ และมุ่งจุดสนใจอย่างจริงจังไปที่สิ่งสำคัญสามประการ ได้แก่ 1) ประสบการณ์ของพนักงานโดยรวม 2) การเป็นผู้นำแบบบริการ (Servant Leadership) และ 3) การนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้เพื่อเชื่อมต่อและเสริมศักยภาพของพนักงาน (Connected Frontline Workforce หรือ CFW)

ผู้ผลิตจะยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ ได้แก่ การรวบรวมบุคลากร กระบวนการต่าง ๆ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว จากข้อมูลของการรายงานฉบับนี้ ผู้นำด้านการผลิตราวหนึ่งในสามระบุว่า “การจับคู่เทคโนโลยีและพนักงานผู้มีความสามารถเข้ากับความจำเป็นทางธุรกิจ” และ “การจัดการบุคลากรและแหล่งทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ” เป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดที่องค์กรของพวกเขาจะต้องเผชิญในปีหน้า ทั้งนี้ ผู้ผลิตจะสามารถเอาชนะความท้าทายนี้ได้ ด้วยการเลือกพันธมิตรธุรกิจที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ที่จะสามารถมอบโซลูชันที่ถูกปรับให้เหมาะสมเฉพาะกับความต้องการและให้การสนับสนุนเพื่อปรับเทคโนโลยีและพนักงานที่มีความสามารถให้สอดรับอยู่ในแนวเดียวกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ

“ที่ร็อคเวล การผสมผสานความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งที่เรามีในอุตสาหกรรมนี้เข้ากับโปรแกรม PartnerNetwork™ ที่โดดเด่นของเรา ทำให้เราอยู่ในสถานะเหมาะสมที่สุดที่จะให้คำแนะนำและแนะแนวทางผู้ผลิตชั้นนำทั่วโลก ในฐานะบริษัทใหญ่ที่สุดที่ดำเนินงานด้านระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลโดยเฉพาะ เรามุ่งมั่นเพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ รู้และเข้าใจประโยชน์และคุณค่าความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่จุดใดของเส้นทางการพัฒนาและเติบโต” คุณเพอร์ดูแคทกล่าว

อ่านผลค้นพบทั้งหมดในรายงานฉบับนี้ได้ที่นี่

ระเบียบวิธี 

รายงานฉบับนี้วิเคราะห์ความคิดเห็นจากผู้ตอบแบบสำรวจรวมทั้งสิ้น 1,567 ราย จากประเทศผู้ผลิตอันดับต้น ๆ รวม 17 แห่ง ผู้ตอบแบบสำรวจมีบทบาทตั้งแต่ระดับผู้จัดการไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง และดำเนินการร่วมกับร็อคเวล ออโตเมชั่นและซาปิโอ รีเสิร์ช (Sapio Research) การสำรวจครั้งนี้ครอบคลุมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่อยู่ในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงาน วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เป็นต้น จากบริษัทขนาดต่าง ๆ ที่กระจายกันอย่างสมดุล โดยมีรายได้ตั้งแต่ 100 ล้านดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งให้มุมมองทางธุรกิจในภาคการผลิตได้อย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับร็อคเวล ออโตเมชั่น

ร็อคเวล ออโตเมชั่น อิงค์ (Rockwell Automation, Inc.) (NYSE: ROK) คือผู้นำระดับโลกด้านระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล เราเชื่อมโยงจินตนาการของผู้คนเข้ากับศักยภาพของเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มพูนความเป็นไปได้ใหม่ ๆ เท่าที่มนุษย์จะทำได้ ซึ่งจะทำให้โลกใบนี้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืนยิ่งขึ้น ร็อคเวล ออโตเมชั่น ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน มีพนักงานราว 29,000 คนที่คอยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าในกว่า 100 ประเทศอย่างทุ่มเท เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่เราใช้เพื่อสร้างองค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมดให้เกิดขึ้นจริงกับองค์กรในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ที่ www.rockwellautomation.com

เกี่ยวกับ PartnerNetwork™ ของร็อคเวล ออโตเมชั่น

ร็อคเวล ออโตเมชั่นเชื่อว่าเราจะเติบโตได้ยิ่งขึ้นด้วยการร่วมมือกัน และเราทำหน้าที่ในส่วนของเราโดยมอบระบบนิเวศน์พันธมิตรที่กระจายอยู่กว้างขวางทั่วโลก เพื่อจัดหาเทคโนโลยีชั้นนำในตลาด การให้การช่วยเหลือสนับสนุนและบริการที่เหนือกว่า และแนวทางดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการและปรับประสิทธิภาพให้สูงขึ้น มาร่วมสัมผัสความสำเร็จระดับโลกด้วยการใช้เทคโนโลยีและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ต่าง ๆ ที่มีความสามารถหลากหลายของเรา ในแบบที่ไม่มีผู้ให้บริการรายใดจะสามารถจัดหาให้ได้เพียงลำพัง เรียนรู้เพิ่มเติมว่า PartnerNetwork ช่วยเหลือเพื่อมอบคุณค่าการเป็นองค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร โดยเยี่ยมชมโปรแกรม PartnerNetwork

 

 

View original content to download multimedia: Read More