บาร์เซโลน่า สเปน 5 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ — ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารครบวงจรชั้นนำระดับโลกได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ FWA และ MBB ซึ่งขับเคลื่อนด้วยโซลูชัน ZTE AI FWA และหลักการผลิตภัณฑ์ GIS ที่ใช้งาน AI ในงาน MWC Barcelona 2025 โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วย ZTE G5 Ultra ซึ่งเป็น FWA 5G ขั้นสูง รุ่นเรือธงที่ใช้งาน AI ZTE G5 Max Wi-Fi ซึ่งเป็น 30dBi Wi-Fi 7 mmWave FWA รุ่นแรกของโลก และ ZTE U60 Pro ซึ่งเป็น Wi-Fi มือถือ 5G ระดับ Wi-Fi 7 ที่เร็วที่สุดในโลก
ZTE เป็นผู้นำตลาด 5G FWA และ MBB ระดับโลกด้วยประสิทธิภาพอันดับ 1 ของโลก
รายงานล่าสุดจาก TSR ได้ระบุว่า ZTE ยังคงรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ของโลกในด้านส่วนแบ่งตลาด FWA และ MBB ได้เป็นระยะเวลาสี่ปีซ้อน โดยมีการจัดส่งทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 38% โดย ZTE ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการมากกว่า 130 รายในกว่า 100 ประเทศ และได้จัดส่งอุปกรณ์กว่า 250 ล้านรายการไปทั่วโลก นอกจากนี้ ZTE ยังได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำ นวัตกรระดับชั้นนำ และผู้ปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยมโดย ABI Research
กลุ่มผลิตภัณฑ์อันกว้างขวางของ ZTE ยังประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชันแบบบูรณาการที่เหมาะสำหรับการใช้งานกับบุคคล ยานพาหนะ และบ้าน ซึ่งพร้อมให้บริการสำหรับผู้บริโภครายบุคคลและลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ข้อเสนอที่หลากหลายนี้เกิดขึ้นได้จากความมุ่งมั่นของ ZTE ต่อนวัตกรรมเทคโนโลยี ดังที่เห็นได้จากโซลูชัน AI FWA ฟูลสแต็กแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งให้ความสำคัญไปที่คุณสมบัติหลักที่ขับเคลื่อนด้วย AI 6 ประการ: แอปพลิเคชัน AI แบบหลายสถานการณ์ การจัดการ AI QoS การควบคุมด้วยเสียงโดยใช้ AI การรู้จำแอปพลิเคชัน AI การปกป้องเด็กโดยใช้ AI และการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายด้วย AI ในแบบเรียลไทม์
ZTE ได้เผยโฉมสามผลิตภัณฑ์ 5G FWA และ MBB ชั้นนำระดับที่ใช้งาน AI ภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Qualcomm
ZTE เปิดตัวผลิตภัณฑ์สุดล้ำสมัย 3 รายการพร้อมกันผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Qualcomm ซึ่งเน้นย้ำถึงหลักการผลิตภัณฑ์ GIS (เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัญญาประดิษฐ์ และความปลอดภัย) ของบริษัท โดยมีพื้นฐานมาจากโซลูชัน AI FWA ผลิตภัณฑ์ทั้งสามมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม Qualcomm Dragonwing™ FWA รุ่นที่ 3 โดยมีระบบ Snapdragon® X75 5G Modem-RF ที่ช่วยส่งมอบประสิทธิภาพ 5G ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ความยืดหยุ่นของสเปกตรัม และการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุงอย่างเหนือชั้น
ZTE G5 Ultra ซึ่งเป็น FWA 5G ขั้นสูง รุ่นเรือธงที่ใช้งาน AI ได้มอบความเร็วสูงสุดถึง 19Gbps ทั้งยังรองรับ Wi-Fi 7 แบบ Tri-Band พอร์ตเครือข่ายเร็วพิเศษ 2.5Gbps คู่ พร้อมกับผสานร่วมการควบคุมด้วยเสียงโดยใช้ AI และการจัดการ AI QoS ในตัว ซึ่งได้ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึม AI ขั้นสูงที่เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายขึ้นอย่างมากเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ถึงการเชื่อมต่อที่ราบรื่นสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ การสตรีม 4K และการทำงานจากระยะไกล
ZTE G5 Max Wi-Fi เป็น 30dBi Wi-Fi 7 mmWave FWA รุ่นแรกของโลก ได้รองรับการรวมสัญญาณของผู้ให้บริการทั้ง Sub-6GHz และ mmWave ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 10 Gbps ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบเสาอากาศที่มีกำลังส่งสูงพิเศษที่ 30dBi ที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงระยะครอบคลุมสูงสุด 6 กม. ในการรับสัญญาณที่มีความเสถียรในสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง ทั้งยังสามารถเพิ่มความเร็วดาวน์ลิงก์ได้ 200% เพิ่มความเร็วอัปลิงก์ได้ 500% และลดการใช้พลังงานได้ถึง 70% อีกทั้งอุปกรณ์ยังรองรับ Wi-Fi 7 เร็วพิเศษเพื่อรองรับสถานการณ์การใช้งานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย
ZTE U60 Pro เป็น Wi-Fi มือถือ 5G ระดับ Wi-Fi 7 ที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งส่งมอบความเร็วสูงสุดที่ 3.6Gbps และมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 10,000mAh ที่ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และมีการเชื่อมต่อที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ประกอบกับ Wi-Fi 7 แบบ dual-band การชาร์จด่วน และขีดความสามารถในการชาร์จแบบย้อนกลับที่ช่วยให้อุปกรณ์นี้สามารถแบ่งปันพลังงานกับอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ZTE U60 Pro ยังช่วยยกระดับความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ไปอีกขั้นผ่านอินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัส และการเชื่อมต่อ Wi-Fi ด่วนที่ใช้งาน NFC
บุกเบิกอนาคตของ 5G FWA และ MBB ด้วยโซลูชันที่ใช้งาน AI
ZTE ให้ความสำคัญกับหลักการผลิตภัณฑ์ GIS (เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัญญาประดิษฐ์ และความปลอดภัย) ของบริษัท รวมถึงคุณสมบัติหลักอย่าง ประสิทธิภาพพลังงานสีเขียวที่มาพร้อมกลยุทธ์ประหยัดพลังงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้ใช้เพื่อปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสม ระบบอัจฉริยะที่ใช้งาน AI ที่ได้รับการติดตั้ง AI Super Antenna ของ ZTE ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วเครือข่ายได้ถึง 20% เพื่อให้การเชื่อมต่อมีเสถียรภาพแม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอ่อน และการปรับเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายอัจฉริยะที่จะช่วยจัดสรรแบนด์วิดท์แบบไดนามิกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพได้ถึง 20% และลดความแออัดลง 30% นอกจากนี้ ZTE ยังเปิดตัวคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงการตรวจจับภัยคุกคามโดยใช้ AI และคุณสมบัติการดูแลเด็กเพื่อช่วยให้แน่ใจว่าเด็กๆ ได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ปลอดภัย
ZTE ได้ยึดมั่นในกลยุทธ์ “AI สำหรับทุกคน” ด้วยการยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านการอัปเกรดในหลายมิติ พร้อมกับสร้างระบบนิเวศ AI 1+2+N เต็มรูปแบบที่จะช่วยเพิ่มการโต้ตอบของผู้ใช้โดยรวม ประสิทธิภาพ การสะท้อนอารมณ์ รวมถึงคุณค่าเชิงฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ ZTE ทั้งนี้ ZTE กำลังส่งเสริมความครอบคลุมทางดิจิทัล และมอบประสบการณ์เครือข่ายอัจฉริยะ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ให้กับผู้ใช้ทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และโซลูชันที่ใช้งาน AI ของบริษัท
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมบูธ ZTE (3F30, ฮอลล์ 3, Fira Gran Via) ในงาน MWC Barcelona 2025 หรือเข้าไปที่: https://www.zte.com.cn/global/about/exhibition/mwc25.html
สื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:
อีเมล: ZTE.press.release@zte.com.cn
View original content to download multimedia: Read More