– Jin Ramen ราเมนเกาหลีตัวดัง เร่งตีตลาดโลก ด้วยเรื่องราวความรักสไตล์ซีรีส์เกาหลีสำหรับ Jin Ramen ในคอนเซ็ปต์ ‘Jinjja Love, Jin Ramen‘
– แพ็กเกจ Jin Ramen โฉมใหม่ระดับโลก พร้อมรูปจิน BTS และสติกเกอร์ซีล
โซล, เกาหลีใต้, 21 เมษายน 2568 /PRNewswire/ — OTOKI ได้เปิดตัวแคมเปญระดับโลกสำหรับ Jin Ramen ราเมนเกาหลีที่เป็นสินค้าหลักของบริษัท พร้อมปล่อยวิดีโอโปรโมทตัวใหม่ที่ได้ “จิน” สมาชิกวง BTS ไอคอนเพลงป๊อปแห่งศตวรรษที่ 21 มาร่วมแสดง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รักแท้” เพื่อขยายตลาดโลกให้กว้างขึ้น
วิดีโอโปรโมทตัวใหม่นี้ได้จิน BTS มาร่วมแสดง โดยถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่มีให้กับ Jin Ramen ในคอนเซ็ปต์ ‘Jinjja Love Jin Ramen’ ซึ่งคำว่ารักแท้ในภาษาเกาหลีคือ “Jinjja Love”
วิดีโอเริ่มต้นด้วยฉากที่เหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์เกาหลีโรแมนติก แสดงให้เห็นจินเดินท่ามกลางสายฝนในฤดูใบไม้ผลิ เผยให้เห็นมุมเศร้าที่ซ่อนอยู่ใต้ร่ม พร้อมข้อความ ‘คิดถึงคุณจริง ๆ’ วิดีโอนี้ถ่ายทอดความรักและความจริงใจที่มีต่อ Jin Ramen ราวกับละครโรแมนติก สื่อถึงประสบการณ์การลิ้มรสซุปที่เข้มข้นและกลมกล่อมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Jin Ramen ได้อย่างชัดเจน วิดีโอโปรโมทนี้สามารถรับชมได้ทางช่อง YouTube, Instagram และ TikTok อย่างเป็นทางการของ OTOKI ทั่วโลก
ตั้งแต่เดือนที่แล้ว แฟน ๆ ทั่วโลกหาซื้อ Jin Ramen แพ็กเกจใหม่ที่มีรูปจิน BTS ได้แล้ว มีทั้งแบบถ้วยและชาม โชว์เสน่ห์ความอร่อยของ Jin Ramen ทั้งรสกลมกล่อมและเผ็ดร้อน นอกจากนี้ Jin Ramen แบบแพ็กหลายซองยังมีสติกเกอร์รูปจินให้สะสมแพ็กละ 1 จากทั้งหมด 4 แบบ หวังดึงดูดลูกค้าจากประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก
หลังจากที่ได้เปิดตัวแพ็กเกจ Jin Ramen ใหม่ที่มีรูปจินเด่น ๆ ในงาน 2025 Winter Fancy Food Show ที่สหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม และได้รับเสียงตอบรับดีมาก ทาง OTOKI จึงเตรียมใช้โอกาสจากวิดีโอแคมเปญนี้ เร่งขยายตลาดต่างประเทศให้เร็วขึ้น หลังจากที่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ได้รีแบรนด์ชื่อภาษาอังกฤษเป็น ‘OTOKI’ เพื่อให้สื่อสารกับลูกค้าต่างชาติได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
ตัวแทนจาก OTOKI กล่าวว่า “เราเปิดตัวแคมเปญระดับโลกของราเมนเกาหลีตัวดังอย่าง Jin Ramen เริ่มจากวิดีโอแคมเปญนี้ เพื่อเชื่อมโยงกับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เสน่ห์ของจิน จากวงที่เป็นไอคอนเพลงป๊อปแห่งศตวรรษ 21 อย่าง BTS มาเพิ่มความน่าสนใจให้กับ Jin Ramen
View original content to download multimedia: Read More