MERaLiON ของสิงคโปร์ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าใจอารมณ์ ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการประมวลผลหลายภาษาและความฉลาดทางอารมณ์

  • การพัฒนา MERaLiON จะช่วยให้แอปพลิเคชัน AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเข้าใจผู้ใช้และสอดคล้องกับบริบทวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น พร้อมเปิดตัวสมาพันธ์ใหม่กับพันธมิตรระดับโลกเพื่อเร่งการนำไปใช้งาน
  • ยกระดับบทสนทนาโลกผ่านเวที Digital Ministers Roundtable และการพัฒนา AI Verify Testing Framework และ US NIST AI Risk Management Framework
  • โมเดล AI สายสุขภาพแบบตัวแทน “Enigma” ที่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน พร้อมการจับมือร่วมกับผู้นำอุตสาหกรรมเพื่อเร่งการทดลองทางคลินิกและยกระดับการดูแลผู้ป่วย

สิงคโปร์, 29 พฤษภาคม 2568 /PRNewswire/ — ในงาน ATxSummit 2025 ซึ่งเป็นงานหลักของ Asia Tech x Singapore (ATxSG) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัลและสารสนเทศ (MDDI) Josephine Teo ได้เปิดเผยความคืบหน้าของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ — Multimodal Empathetic Reasoning and Learning in One Network (MERaLiON) — พร้อมเปิดตัว MERaLiON Consortium ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อขีดความสามารถด้าน AI ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังประกาศโครงการและความร่วมมือระดับโลกใหม่ ๆ ที่จะเสริมสร้างระบบนิเวศ AI ของสิงคโปร์ และเร่งการนำ AI ที่มีความรับผิดชอบไปใช้ในวงกว้าง ทำให้สิงคโปร์อยู่ในแนวหน้าในการปฏิบัติด้านความปลอดภัยของ AI

MERaLiON บุกเบิกแนวทางใหม่ด้วยการพัฒนาและความร่วมมือระดับโลก

MERaLiON ซึ่งพัฒนาโดย A*STAR Institute for Infocomm Research (A*STAR I2R) ผ่านการสนับสนุนจาก IMDA เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่เสริมความสามารถของ AI ในภูมิภาคด้วยฟีเจอร์การประมวลผลหลายภาษาและการเข้าใจอารมณ์ที่ล้ำสมัย โมเดลนี้สามารถรองรับภาษามลายู ทมิฬ ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพิ่มเติมจากภาษาอังกฤษ จีนกลาง และซิงลิช พร้อมความสามารถในการสลับภาษา (code-switching) และการตรวจจับอารมณ์ ซึ่งช่วยให้แอปพลิเคชัน AI มีความเข้าใจผู้ใช้และบริบททางวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับงานบริการลูกค้า งานบริการสังคม และการตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพื่อเร่งการนำไปใช้งาน IMDA และ A*STAR I2R ได้เปิดตัวสมาพันธ์ MERaLiON โดยรวมพลังจากภาคอุตสาหกรรมและสถาบันวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ HTX, MOH Office for Healthcare Transformation (MOHT), NCS, National Supercomputing Centre (NSCC), SPH Media และ ST Engineering พร้อมบริษัทเทคโนโลยี เช่น Axiom IT Solutions, BytePlus, CommonTown, DBS, Grab และ Microsoft Singapore โดยสมาพันธ์จะมุ่งพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ที่ใช้ได้จริง ตั้งแต่ระบบบริการลูกค้าแบบหลายภาษา ไปจนถึงการวิเคราะห์อารมณ์และสุขภาพ และระบบตัดสินใจแบบตัวแทน

นับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2567 MERaLiON เวอร์ชันแรกมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกมากกว่า 90,000 ครั้ง จากห้องวิจัยบริษัท สื่อ สตาร์ตอัป และแวดวงวิชาการ

ขับเคลื่อนบทสนทนาระดับโลกเพื่อสร้างระบบ AI ที่เชื่อถือได้

ในด้านการวิจัยความปลอดภัยของ AI ประเทศสิงคโปร์เป็นสถานที่จัดความร่วมมือระดับโลกในการระบุและจัดลำดับความสำคัญของขอบเขตการวิจัย ผ่าน “The Singapore Consensus on Global AI Safety Research Priorities” (ข้อตกลงสิงคโปร์ว่าด้วยลำดับความสำคัญด้านการวิจัยความปลอดภัยของ AI ระดับโลก) ข้อตกลงนี้เป็นเอกสารแบบเปิดที่มีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นรากฐานของเวทีเสวนาระดับรัฐมนตรีแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G2G) ว่าด้วยความเชื่อมั่นทางดิจิทัล (ATxSG Government-to-Government (G2G) Ministerial Roundtable on Digital Trust) ซึ่งมุ่งเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์สู่การกำหนดนโยบาย และแปลงงานวิจัยทางเทคนิคให้เป็นนโยบายที่นำไปปฏิบัติได้จริง ผ่านการส่งเสริมบทสนทนาที่มีความหมายระหว่างนักวิทยาศาสตร์ AI กับผู้กำหนดนโยบาย

กรอบการทำงาน AI Verify Testing Framework ของสิงคโปร์ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว ได้รับการออกแบบให้สามารถรับมือกับความเสี่ยงทั้งจาก Generative AI (Gen AI) และ AI แบบดั้งเดิม โดยในการดำเนินความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ National Institute of Standards and Technology (NIST) ของสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ได้พัฒนาเครื่องมือเปรียบเทียบเพื่อจับคู่กรอบการทดสอบที่ปรับปรุงใหม่เข้ากับ NIST AI Risk Management Framework ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสอดคล้องระหว่างกรอบการกำกับดูแล AI ของทั้งสองประเทศ และสะท้อนถึงพันธสัญญาร่วมกันในความร่วมมือด้านนี้

แนวคิดริเริ่มเหล่านี้ล้วนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการพัฒนาและการทดสอบ AI อย่างปลอดภัย โดยตั้งอยู่บนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อร่วมพัฒนากรอบการทำงานที่สามารถนำไปใช้ได้จริงและสามารถใช้งานร่วมกันได้สำหรับ AI ที่มีความรับผิดชอบ

เสริมสร้างความร่วมมือระดับโลกด้านความเชื่อมั่นทางดิจิทัล

AI Safety Institute ของสิงคโปร์ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับ AI Safety Institute ของฝรั่งเศส เพื่อเริ่มต้นความร่วมมือด้านความปลอดภัยของ AI อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 โดยแถลงการณ์ฉบับนี้ลงนามโดย Josephine Teo จาก MDDI และ Clara Chappaz รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัลของฝรั่งเศสในงาน ATx 2025

สิงคโปร์และสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำการผลักดันระบบ Global Cross-Border Privacy Rules (CBPR) Certification สำหรับภาคธุรกิจ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นในการไหลเวียนของข้อมูลข้ามพรมแดนอย่างปลอดภัย โดยให้การเข้าถึง 9 เศรษฐกิจซึ่งมีขนาดตลาดรวมกันประมาณ 40 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยโครงการนี้พัฒนาโดย Global CBPR Forum ซึ่งสิงคโปร์ทำหน้าที่เป็นรองประธาน บริษัทต่าง ๆ สามารถยื่นขอรับการรับรองใหม่นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

Enigma Health ของสิงคโปร์ จับมือ Roche และ ST Engineering

Enigma Health ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปที่แตกไลน์จากศูนย์การแพทย์ SingHealth Duke-NUS ได้ลงนามในความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 2 ฉบับร่วมกับ Roche และ ST Engineering Enterprise Digital เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 โดยมี Mdm Rahayu Mahzam รัฐมนตรีประจำกระทรวงพัฒนาดิจิทัลและสารสนเทศเป็นผู้ประกาศความร่วมมือในงานสัมมนา “Scaling and Sustaining Healthcare with Gen AI” ภายในงาน ATxSG ความร่วมมือใหม่นี้จะช่วยเร่งกระบวนการทดลองทางคลินิก การเข้าถึงตลาด การวิเคราะห์เชิงลึก และข่าวกรองทางธุรกิจ เพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วย รวมถึงการเข้าถึงยาใหม่และเทคโนโลยีดิจิทัล

ผลิตภัณฑ์หลักของ Enigma Health คือ “Enigma” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI เชิงปฏิบัติการในด้านสุขภาพ พัฒนาโดยทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ AI ภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของขั้นตอนการทำงาน ลดความซับซ้อนของกระบวนการที่ใช้ข้อมูลจำนวนมากและใช้เวลานาน ขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบอย่างเข้มงวด โดยได้มีการนำร่องใช้งานแล้วในสถานพยาบาลในเครือ SingHealth

พันธมิตรสิงคโปร์–ไทย เสริมความร่วมมืออาเซียนต่อต้านมิจฉาชีพทางโทรคมนาคม

IMDA และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ของประเทศไทย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อร่วมกันต่อต้านการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมทั่วทั้งอาเซียน

บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ลงนามโดย Jasmin Lau รัฐมนตรีประจำกระทรวงพัฒนาดิจิทัลและข้อมูลข่าวสาร และ ดร.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ในงาน ATxSG 2025

ติดต่อ: [email protected] 

 

View original content to download multimedia: Read More