9krapalm.com

รีวิว HP EliteBook Folio G1: Ultrabook สุดหรู ประสิทธิภาพเยี่ยม

HP EliteBook Folio G1 เป็น Ultrabook อีกรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยสเปกที่จัดเต็ม ดีไซน์ที่น่าใช้งาน เบาและบาง อีกทั้งมีจุดเด่นเรื่องหน้าจอที่สามารถกางได้ถึง 180 องศา

โดยเจ้า HP EliteBook Folio G1 มีให้เลือกหลายรุ่น ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามสเปกที่ต้องการ มีให้เลือก ราวๆ 4 รุ่น มีรุ่นที่เป็นหน้าจอสำผัสมาให้ด้วย แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันที่สเปกซีพียู ความจุของ SSD, HDD  และความละเอียดหน้าจอ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไป แนะนำว่าให้เลือกรุ่นที่เราคิดว่าเหมาะสมกับเราที่สุด เพราะว่าซื้อมาแล้ว อัพเกรดสเปกไม่ได้

รุ่นที่ผมจะรีวิวให้ชมกันในบทความนี้ก็คือ ตัวที่ใช้ซีพียู Intel Core m5-6Y57 1.1 GHz แรม 8GB ความจุ SSD 256 GB เป็นรุ่นจอธรรมดาไม่ใช่ทัสสกรีน

ข้อมูลสเปก

หน้าจอเป็น anti-glare ultra slim LED-backlit  หน้าจอมีบางมาก แต่ก็บางแบบที่ดูมีความแข็งแรง ขนาดของหน้าจออยู่ที่ 12.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080) หน้าจอแสดงผลคมมาก สีสันสวยงาม ตัวหนังสือคมชั้น

ที่สำคัญหหน้าจอสามารถกางได้ถึง 180 องศา ปรับองศาได้ตามต้องการ แต่อย่ากางเลย 180 องศาละกัน ถ้าเผลอกางออกไปก็แสดงว่าคงพังแล้ว

กล้องให้มา 2 ตัว สำหรับใช้งาน Windows Hello สำหรับปลดล็อคเครื่อง หรือยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้งาน หากเป็นการช้ถ่ายรูปธรรมดาจะใช้กล้องตัวที่อยู่ขวามือ ซึ่งมีความละเอียด HD

คียบอร์ดของรุ่นนี้ก็ใช้ HP Premium Collaboratio (แป้นคียบอร์ดมีชื่อด้วย อย่างเท่) เป็นคีย์บอร์ดระดับพรีเมี่ยมของทาง HP ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ใน Notebook ระดับพรีเมี่ยมของตัวเอง เป็น Backlit keyboard ทุกปุ่ม ปรับความสว่างได้เองตาม ปรับได้ 2 ระดับ สว่างมาก สว่างน้อย หากไม่ต้องการก็สามารถปิดได้ ควบคุมได้ด้วยปุ่มเดียว

ตัวคีย์บอร์ดตอบสนองได้ดีมาก ถ้าเป็นใครที่ใช้พิมพ์งานเยอะๆ รุ่นนี้รับรองพิมพ์สนุกลืมเวลาแน่

ตัวปุ่มฟังก์ชั่นต่างๆ ออกแบบมาให้กดใช้งานได้ด้วยปุ่มเดียว ไมต้องกดปุ่ม fn (ฟังก์ชั่น) ก่อน แต่ถ้าจะกดปุ่ม F1-F12 จะต้องกดปุ่ม fn ก่อน

Touchpad ให้มาแคบไปหน่อย ถ้ากว้างกว่านี้จะดีมากๆ แต่อย่างไรก็ตามตัว Touchpad ก็ตอบสนองได้ดี ปรับความไวได้เทียบเท่าการใช้งาน ส่วนตัวหลังจากกใช้งานรู้สึกว่ายังด้อยกว่า Touchpad ของ Macbook อยู่

พอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้เ็กน้อย อาทิช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของเรา

ด้านขาวเป็นพอร์ต USB Type-C 2 ช่อง รองรับ Thunderbolt โดยสาารถเชื่อมต่อกับ docking ได้ นอกจากนั้น USB Type-C ยังใช้สำหรับชาร์จแบตตัวเครื่อง (charging) หากต้องการใช้งานร่วมกับ USB Type A ต่างๆ ก็ต้องใช้ตัวแปลง

ซึ่งในกล่องแถม USB Type-C to USB 3.0, USB Type-C to VGA มาให้ แต่ทราบมาว่่าในกล่องที่วางขายมีแถมสายอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ USB Type-C to HDMI, USB Type-C to LAN มาให้

ข้อเสียของรุ่นนี้คือชาร์จแบตค่อนข้างนาน เมื่อเทียบกับ MacBook Air และสาย Adapter สำหรับชาร์จแบตสั้น ที่สำคัญถ้าเราชาร์จแบต เราจะเสียพอร์ต USB type C ไป 1 ช่อง หากเป็นคนที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เยอะๆ อาจจะต้องมองหา HUB มาใช้

ตัวเครื่องทำด้วยวัสดุแบบเดียวกับที่ใช้ในอุปกรณ์ทางการทหาร จึงมั่นใจได้ว่ารุ่นนี้มีความแข็งแรงทนทานอย่างแน่นอน ส่วนตัวชอบงานประกอบของรุ่นนี้มากๆ ดูแข็งแรงและมีความหรูมากๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Ultrabook คุณภาพเยี่ยม

รุ่นนี้ใช้ SSD ของ Samsung รุ่น MZVPV256 256GB แบบ M.2 SATA SED MLC และ HDD ความจุ 2TB จาก Samsung เช่นกัน

น้ำหนักแค่ 970 กรัม เท่านั้น เบามากๆ พกพาไปไหนมาไหนได้สบาย

ลำโพงของตัวเครื่องอยู่ด้านล่าง ทำให้เวลาใช้งานเสียงจะออกไม่เต็มที่ นอกจากนั้นเท่าที่ลองใช้งานพบว่าเสียงของรุ่นนี้ค่อนข้างเบากว่า Ultrabook เท่าไป หากต้องการดูหนัง ฟังเพลงอาจจะต้องต่อลำโพงเพิ่มเติม

ปัญหาอีกอย่างที่ผมเจอคือการต่อ WiFi ที่มีปัญหาต่อไม่ได้หลายครั้ง ทั้งๆ ที่เป็นตัวที่เคยเชื่อมต่อไปแล้วก็ตาม ต้องเปิดปิด WiFi ที่ตัวเครื่อง (WiFi ของ Ultrabook) ถึงจะสามารถเชื่อมต่อได้

อย่างที่บอกในข้อมูลสเปก รุ่นนี้มาพร้อมกับ Windows 10 Pro ใช้งาน  Windows Hello สำหรับปลดล็อคเครื่อง หรือยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้งานได้

ด้วยสเปกระดับนี้ทั้งซีพียู Intel Core m5-6Y57 1.1 GHz แรม 8GB ไดร์ที่ลง Windows เป็น SSD จึงทำให้เครื่องตอบสนองการใช้งานได้ดีมากๆ ไม่เจออาหารหน่วง หรืออึดของเครื่องเลย ทั้งการใช้งานท่อฝเว็บ หรือดูคลิปก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม

ข้อมูลสเปกอื่นๆจาก CPU-z

สุดท้ายท้ายสุด แบตเตอรี่ถ้าชาร์จจนเต็ม 100%อยู๋ได้ราวๆ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ

Exit mobile version