 |
นิวยอร์ก, 19 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ — DarwinHealth ภาคภูมิใจที่ได้รับการเสนอชื่อให้ติดอันดับในรายชื่อ World’s Most Innovative Companies ประจำปี 2025 อันทรงเกียรติของนิตยสาร Fast Company รายชื่อบริษัทในปีนี้ได้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่กำลังกำหนดทิศทางการวิจัย อุตสาหกรรม และมนุษย์สภาวะผ่านนวัตกรรมอันโดดเด่นของบริษัทในด้านปัญญาประดิษฐ์และความก้าวหน้าอื่นๆ ที่ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ และบรรลุเป้าหมายความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนอกเหนือจาก 50 บริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดในโลกแล้ว Fast Company ยังได้ยกย่อง 10 บริษัทชั้นนำในแต่ละภาคส่วนจากทั้งหมด 58 ภาคส่วนอีกด้วย โดย DarwinHealth ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งใน 10 บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดในการประกวด Most Innovative Companies 2025 อีกด้วย
“เราได้ใช้งานเทคโนโลยีอัลกอริทึมเฉพาะ (VIPER) และการทดลอง (Patient-to-Model-to-Patient, PMP) ที่สามารถระบุโครงสร้างโมเลกุลที่เกิดซ้ำ และรับยาได้ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ “เช็คพอยท์เนื้องอก” (tumor checkpoint) ได้อย่างแม่นยำ” Mariano Alvarez ซึ่งเป็นซีเอสโอของ DarwinHealth และผู้ร่วมพัฒนาอัลกอริทึมพื้นฐานที่เป็นรากฐานกลไกการวิจัยของบริษัท กล่าวอธิบาย “VIPER เป็นอัลกอริทึมที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการประเมินกิจกรรมของโปรตีน ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการค้นพบเป้าหมายมะเร็ง และอธิบายกลไกการออกฤทธิ์ของยา”
เหล่าบรรณาธิการและนักเขียนของ Fast Company’ ได้ตรวจสอบบริษัทต่างๆ ที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้าไปทั่วโลกผ่านกระบวนการสมัครที่มีการแข่งขันสูงเพื่อจัดอันดับผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากผู้ส่งผลงานเข้าประกวดนับพันราย พร้อมกับใช้เกณฑ์มาตรฐานด้านความเป็นเลิศ แนวคิดก้าวหน้า และความคิดสร้างสรรค์เป็นเกณฑ์ตัดสิน ผลลัพธ์ที่ได้คือแนวทางที่ครอบคลุมทั่วโลกเกี่ยวกับนวัตกรรมในปัจจุบัน ตั้งแต่บริษัทสตาร์ทอัพในช่วงเริ่มต้นไปจนถึงบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก และเมื่อในวันที่ 18 มีนาคม 2568 DarwinHealth ก็ได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพอย่าง Flagship Pioneering, Insilico Medicine และ Exscientia ซึ่งได้รับรางวัลการประกวดของ Fast Company สำหรับการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อพัฒนาวิธีการรักษาแบบพุ่งเป้าสำหรับโรคต่างๆ มากมาย รวมถึง โรคมะเร็งอีกด้วย
“นวัตกรรมและการทดลองทางคลินิกที่wได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางของเราได้มุ่งเน้นไปที่ความต้องการมหาศาลที่ไม่ได้รับการตอบโจทย์ของผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่ตอบสนองต่อแนวทางการรักษาตามมาตรฐาน โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการรอดชีวิตที่มีคุณภาพในผู้ป่วยที่การรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผล” นายแพทย์ Gideon Bosker ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้งอธิบาย “นวัตกรรมดังกล่าวยังได้รับการรับรองในวารสารวิทยาศาสตร์และการแพทย์ชั้นนำ ซึ่งส่งผลให้เทคโนโลยีระดับคลินิกของ DarwinHealth ได้ถูกนำมาใช้กับผู้ป่วยมะเร็งหลายร้อยรายในสหรัฐอเมริกาและยุโรป พร้อมกับขับเคลื่อนการทดลองทางคลินิกมากมายเกี่ยวกับโรคมะเร็งหายาก รวมถึง มะเร็งไต มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมไร้ท่อ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งสมอง”
การได้รับการยอมรับและการก้าวขึ้นมาของ DarwinHealth ในฐานะหนึ่งใน Most Innovative Companies (MIC) ของ Fast Company ในภาคส่วนเทคโนโลยีชีวภาพนั้น มีรากฐานมาจากการสร้างไบโอแพลตฟอร์มที่เป็นนวัตกรรม และการแปลผลผ่านสายการผลิตที่ผสานรวม AI/การประมวลผลอันเข้มงวดเข้ากับการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการแบบเปียก และการตีพิมพ์ผลงานที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเป็นการยืนยันทางคลินิก นอกจากนี้ ในบทความที่โพสต์ทางออนไลน์ในรายชื่อ MIC ของ Fast Company เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2025 Adam Bluestein ยังได้ระบุว่าบริษัททั้ง 10 แห่งที่ได้รับการยอมรับในภาคส่วนเทคโนโลยีชีวภาพ “กำลังพลิกโฉมวิธีการค้นพบยารักษาโรคใหม่ๆ และการรักษาโรคที่ซับซ้อน” พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า DarwinHealth “ได้ใช้ AI ซึ่งก็คืออัลกอริทึม VIPER ของบริษัทเพื่อรวบรวมข้อมูลที่วัดค่าได้จากการทดลองกับเนื้องอกของผู้ป่วย เช่น โปรไฟล์การแสดงออกของยีน และคาดการณ์ว่ายาที่มีอยู่ตัวใดน่าจะมีประสิทธิภาพต่อโปรตีน “เช็คพอยท์เนื้องอก” ที่ควบคุมมะเร็งชนิดนั้นๆ มากที่สุด . . ผลการทดลองที่เผยแพร่ในปี 2567 ยังแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือ DarwinOncoTarget มีความแม่นยำในการทำนายการตอบสนองต่อยาที่เรียกว่าสารยับยั้ง HDAC6 ในมะเร็งเต้านมมากถึง 100% และ DarwinOncoTreat มีความแม่นยำในการทำนายการตอบสนองต่อเนื้องอกประเภทต่างๆ สูงถึง 91%”
“DarwinHealth ได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านวิชาการและชีวเภสัชของเราเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการค้นพบยา และเป้าหมายที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลโดยใช้อัลกอริทึม AI ใหม่ๆ ร่วมกับข้อมูลการทดลอง และการตรวจสอบยืนยัน” Andrea Califano ผู้ร่วมก่อตั้ง DarwinHealth ซึ่งห้องแล็ปของเขาที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีหลัก และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานของ CHAN ZUCKERBERG BioHub (New York) กล่าว “อัลกอริทึม AI ที่ DarwinHealth ได้ใช้งานพลังการประมวลผลขั้นสูง และการทำวิศวกรรมย้อนกลับของเครือข่ายการกำกับดูแลสำหรับโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ เช่น เบาหวาน การติดเชื้อไวรัส โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคสมองเสื่อม พร้อมกับขับเคลื่อนการพัฒนาไบโอแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่มีขุมพลังในการคาดการณ์ที่เหนือชั้นภายใต้บริบทของการพัฒนายา”
“รายชื่อบริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดของเราได้นำเสนอมุมมองครอบคลุมเกี่ยวกับนวัตกรรมในปัจจุบันและแนวทางสำหรับอนาคต” Brendan Vaughan บรรณาธิการบริหารของ Fast Company กล่าว “ในปีนี้ เราได้ยกย่องบริษัทที่ใช้ประโยชน์จาก AI ในรูปแบบล้ำลึก และมีความหมาย . ทั้งยังนำเสนอแนวคิดที่กล้าหาญ . . อีกทั้งบริษัทเหล่านี้กำลังกำหนดแนวทางเพื่อก้าวไปข้างหน้า ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”
เกี่ยวกับ DarwinHealth
DarwinHealth: Precision Therapeutics for Cancer Medicine คือบริษัทเทคโนโลยีที่เป็น “แนวหน้าด้านการรักษาโรคมะเร็ง” ซึ่งร่วมก่อตั้งโดยนายแพทย์ Gideon Bosker ในฐานะซีอีโอ และ Andrea Califano ศาสตราจารย์ภาควิชาชีววิทยาระบบแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และประธาน CHAN ZUCKERBERG BioHub ในนิวยอร์ก ทั้งนี้ เทคโนโลยีของบริษัทได้รับการพัฒนาโดยห้องปฏิบัติการ Califano ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา และได้รับอนุญาตแต่เพียงผู้เดียวจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
DarwinHealth ใช้อัลกอริทึมชีววิทยาระบบอันเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท เพื่อจับคู่ผู้ป่วยมะเร็งทุกรายกับยาและชุดยาที่มีแนวโน้มให้ผลการรักษาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในทางกลับกัน อัลกอริทึมเดียวกันนี้ยังสามารถจัดลำดับความสำคัญของยาและสารประกอบที่ยังไม่ทราบประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ในมนุษย์ รวมถึง เป้าหมายมะเร็ง” นายแพทย์ Bosker กล่าว “นับเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับบริษัทยาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพสารประกอบของตน และค้นพบเป้าหมายมะเร็งที่มีประสิทธิภาพเชิงกล รวมถึงสารประกอบสำหรับรักษาเนื้องอก”
พันธกิจของ DarwinHealth คือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่มีรากฐานมาจาก AI และชีววิทยาระบบเพื่อยกระดับผลลัพธ์ทางคลินิกของการรักษาโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ โดยเทคโนโลยีหลักของบริษัทอย่างอัลกอริทึม VIPER สามารถระบุโมดูลของโปรตีนควบคุมหลักที่ถูกถักทอไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งเป็นการรักษามะเร็งแบบพุ่งเป้ารูปแบบใหม่ ระเบียบวิธีนี้ถูกนำไปใช้ในสองส่วน หนึ่งคือ เทคโนโลยีของ DarwinHealth สนับสนุนการจำแนกอย่างเป็นระบบและการตรวจสอบความถูกต้องของเป้าหมายที่สามารถรับยาได้ภายใต้ตรรกะการควบคุมของเซลล์มะเร็งที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดังนั้นเราและพันธมิตรทางวิทยาศาสตร์ของเราจึงสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถในการจัดการรูปแบบใหม่โดยอาศัยการพึ่งพาและกลไกของเนื้องอกขั้นพื้นฐานและขั้นที่เป็นสากลมากขึ้น และสอง จากมุมมองด้านการพัฒนาและการค้นพบยาใหม่ เทคโนโลยีเดียวกันนี้สามารถระบุเป้าหมายใหม่ที่รับยาได้โดยอาศัย Master Regulator และ Upstream Modulator ของเซลล์เป้าหมายเหล่านั้น วิธีการรักษา “โรคมะเร็ง” ของ DarwinHealth ซึ่งเน้นการระบุและกำหนด “เช็คพอยท์เนื้องอก” (tumor checkpoint) ได้มอบโซลูชัน การตรวจสอบเชิงกลไก และโรดแมปที่สำคัญที่สุดเพื่อความก้าวหน้าในการคิดค้นยาและการรักษาโรคมะเร็งที่เน้นความแม่นยำ
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าไปที่ www.DarwinHealth.com
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/966600/DarwinHealth_Logo.jpg?p=medium600
View original content to download multimedia: Read More