จีนและแทนซาเนียมีมิตรภาพที่ยาวนานและความร่วมมือที่ครอบคลุม และการพัฒนาความสัมพันธ์กำลังได้รับการส่งเสริมไปสู่ระดับที่สูงขึ้นด้วยการเดินทางเยือนจีนเป็นเวลาสามวันของนางซาเมีย ซูลูฮู ฮัสซัน ประธานาธิบดีแห่งแทนซาเนีย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน ระหว่างการพบกันของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับนางฮัสซัน ผู้นำประเทศในทวีปแอฟริกาคนแรกที่จีนให้การต้อนรับ หลังปิดฉากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20
มิตรภาพจีน-แทนซาเนีย “จริงแท้และไว้ใจได้”
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ทั้งสองประเทศควรใช้ความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ในขั้นต่อไป โดยจีนจะยังคงนำเข้าผลิตภัณฑ์จากแทนซาเนียเพิ่มมากขึ้น สนับสนุนบริษัทจีนให้ลงทุนและทำธุรกิจในแทนซาเนีย ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแทนซาเนียในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
เขากล่าวว่า จีนมองความสัมพันธ์กับแทนซาเนียจากมุมมองเชิงกลยุทธ์มาโดยตลอด และเป็นมิตรที่ไว้ใจได้เสมอ
ข้อมูลสถิติของจีนระบุว่า การค้าทวิภาคีระหว่างจีนกับแทนซาเนียมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าการค้าแตะ 6.74?พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในจำนวนนี้ การส่งออกของแทนซาเนียไปยังจีนมีมูลค่าแตะ 606 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยในทวีปแอฟริกา
นางฮัสซันกล่าวว่า แทนซาเนียถือว่าจีนเป็น “มิตรแท้ที่สำคัญที่สุด” และยินดีที่จะเป็นพันธมิตรที่ไว้ใจได้ของจีนตลอดไป
นอกจากนี้ นางฮัสซันกล่าวว่า แทนซาเนียจะยังคงสนับสนุนจีนอย่างจริงจังในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของจีน เช่น ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน ซินเจียง และฮ่องกง
ผู้นำทั้งสองได้เป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสารความร่วมมือทวิภาคีด้านการค้า การลงทุน ความร่วมมือด้านการพัฒนา เศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งสองฝ่ายยังได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน ครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ เช่น การใช้ประโยชน์จากบทบาททางการเมืองของการทูตระดับประมุขแห่งรัฐ การยกระดับการค้าสองทาง รวมถึงการส่งเสริมการประสานงานและความร่วมมือในกิจการระหว่างประเทศ เป็นต้น
การสร้างประชาคมจีน-แอฟริกาที่มีอนาคตร่วมกัน
ในปี 2556 ระหว่างการเยือนแทนซาเนีย นายสี จิ้นผิง ได้นำเสนอหลักการของนโยบายของจีนที่มีต่อแอฟริกา ได้แก่ ความจริงใจ ผลลัพธ์ที่แท้จริง ความใกล้ชิด และความสุจริต ซึ่งนับแต่นั้นมาได้กลายเป็นนโยบายพื้นฐานของจีนในการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ
นายสี จิ้นผิง กล่าวกับนางฮัสซันว่า ภายใต้สถานการณ์ใหม่ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับแทนซาเนียอย่างมั่นคงไม่เพียงเอื้อประโยชน์ให้ทั้งสองประเทศในระยะยาวเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างประชาคมจีน-แอฟริกาที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่แอฟริกาด้วยการพัฒนาสิ่งใหม่ การใช้โครงสร้างพื้นฐานเป็นแนวทาง การเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการเงิน รวมถึงการส่งเสริมแรงผลักดันใหม่ ๆ ของความร่วมมือจีน-แอฟริกา
นางฮัสซันกล่าวว่า แทนซาเนียจะร่วมมือกับจีนในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน เพื่อเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือในทางปฏิบัติในด้านต่าง ๆ และสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีให้กลายเป็นต้นแบบความสัมพันธ์แอฟริกา-จีนในยุคใหม่
นางฮัสซันเน้นย้ำถึงบทบาทของการประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกา (FOCAC) ในการส่งเสริมการพัฒนาประเทศในทวีปแอฟริกา โดยแทนซาเนียจะยังคงมีส่วนร่วมและสนับสนุนการพัฒนาการประชุมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
การประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกาเป็นเวทีที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นกลไกพหุภาคีสำหรับจีนและประเทศในแอฟริกาในการปรึกษาหารือกันและสร้างความร่วมมือในทางปฏิบัติ
นับตั้งแต่ริเริ่มการประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกา บริษัทจีนได้สร้างทางรถไฟความยาวกว่า 10,000 กิโลเมตร ถนนยาวเกือบ 100,000 กิโลเมตร สะพานเกือบ 1,000 แห่ง ท่าเรือเกือบ 100 แห่ง รวมถึงโรงพยาบาลและโรงเรียนหลายแห่งในแอฟริกา นางเฉิน หมิงเจียน เอกอัครราชทูตจีนประจำแทนซาเนีย กล่าวในระหว่างการประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกา ณ เมืองดาร์ เอส ซาลาม ประเทศแทนซาเนีย เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
นางเฉินเปิดเผยว่า ในปี 2564 มูลค่าการค้าระหว่างจีน-แอฟริกาอยู่ที่ 2.542 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการลงทุนโดยตรงของจีนในแอฟริกาสูงเกิน 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปี 2543 เมื่อการประชุมริเริ่มขึ้นครั้งแรก ประมาณ 25 เท่า และ 100 เท่าตามลำดับ
https://news.cgtn.com/news/2022-11-03/President-Xi-meets-Tanzanian-counterpart-in-Beijing-1eF2emfkt20/index.html
