Lazada

CGTN: จีน-กัมพูชา ฉลองความสัมพันธ์ 65 ปี เปิดศักราชใหม่ของการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน

สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งเป็นมิตรที่ดีมาอย่างยาวนานของประชาชนชาวจีน ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการเป็นเวลาสามวันหลังเทศกาลตรุษจีน

ในระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ นอกเหนือจากการพบกับผู้นำจีนแล้ว ฮุนเซนยังเข้าร่วมพิธีเปิดปีแห่งมิตรภาพจีน-กัมพูชา และพิธีเปิดการประชุมธุรกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวจีน-กัมพูชา พร้อมกับร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือหลายฉบับ ซึ่งครอบคลุมหลากหลายภาคส่วน เช่น การทูต เศรษฐกิจและการค้า ความร่วมมือด้านการพัฒนา สินค้าเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน และสื่อ

เนื่องในวาระครบรอบ 65 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต จีนและกัมพูชาพร้อมที่จะขยายความร่วมมือทวิภาคีผ่าน “หนึ่งจุดยืน หกแนวทางความร่วมมือ และสองระเบียง” (one position, six-way cooperation and two corridors) นายซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ให้สัมภาษณ์กับไชน่า มีเดีย กรุ๊ป หรือ ซีเอ็มจี (China Media Group หรือ CMG) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

หนึ่งจุดยืน

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จีนและกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่ ซึ่งเป็นฉันทามติสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุร่วมกันระหว่างการมาเยือนของฮุนเซน

แถลงการณ์ร่วมระบุว่า “ไม่ว่าภูมิทัศน์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนและกัมพูชาจะกระชับมิตรภาพอันเหนียวแน่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สร้างความร่วมมือเชิงปฏิบัติที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน”

แถลงการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีจีนระหว่างที่พบกับฮุนเซน โดยนายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า จีนพร้อมที่จะแบ่งปันโอกาส แสวงหาความร่วมมือ และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกับกัมพูชา พร้อมกับกระตุ้นให้พยายามสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่ด้วยคุณภาพสูง ระดับสูง และมาตรฐานสูง เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้นแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ ตลอดจนสร้างพลังบวกต่อการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในภูมิภาค

ฮุนเซนกล่าวว่า เขาต้องการส่งข้อความที่ชัดเจนผ่านการเยือนจีนเมื่อสามปีที่แล้วและการเยือนจีนครั้งนี้ว่า ชาวกัมพูชาจะยืนหยัดเคียงข้างชาวจีนตลอดไป พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะผลักดันความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-กัมพูชาให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น และร่วมกันสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกัน

หกแนวทางความร่วมมือ

ระหว่างการเยือนจีนของฮุนเซน ทั้งสองฝ่ายยังได้บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือ “เพชรหกเหลี่ยม” จีน-กัมพูชา

ประธานาธิบดีจีนระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถสร้างกรอบความร่วมมือในหกด้านหลัก ได้แก่ การเมือง กำลังการผลิต การเกษตร พลังงาน ความมั่นคง รวมถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรม ซึ่งฮุนเซนแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดนี้อย่างเต็มที่

กรอบความร่วมมือดังกล่าวได้ถูกบันทึกลงในแถลงการณ์ร่วม พร้อมแจกแจงรายละเอียดของแผนความร่วมมือในหกด้านหลัก

ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการในทางปฏิบัติแล้วในบางด้าน เช่น การจัดประชุมธุรกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวจีน-กัมพูชา ซึ่งฮุนเซนเข้าร่วม และดึงดูดตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชนราว 300 คนจากทั้งสองประเทศ

การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับนโยบายด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่าย ตลอดจนเป็นเวทีในการหารือ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการติดต่อสื่อสารกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จีนยังคงรั้งตำแหน่งคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา 11 ปีติดต่อกัน ด้วยปริมาณการค้าทวิภาคีพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปี 2565 โดยขยายตัว 17.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.602 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ กัมพูชายังแสดงความคาดหวังอย่างสูงในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว หลังจากนักท่องเที่ยวจีนทยอยเดินทางกลับมาเที่ยวกัมพูชาอีกครั้ง โดยจีนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนมากที่สุดในกัมพูชาก่อนเกิดโรคระบาด

นายทอง คน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ระบุว่า กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน 25,000 คนในเดือนมกราคม และจะพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้ได้ 800,000 ถึง 1 ล้านคนในปี 2566

สองระเบียง

แถลงการณ์ร่วมระบุว่า ทั้งสองประเทศจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างสองระเบียง ได้แก่ ระเบียงการพัฒนาอุตสาหกรรมซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่สีหนุวิลล์ และระเบียงอู่ข้าวอู่น้ำในโตนเลสาบ หรือ ทะเลสาบเขมร

นายสี จิ้นผิง กล่าวกับฮุนเซนว่า ในการสร้างระเบียงการพัฒนาอุตสาหกรรมนั้น จีนจะสนับสนุนให้บริษัทจีนเข้าไปลงทุนในกัมพูชามากขึ้น และอำนวยความสะดวกในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ)

ปัจจุบัน เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ขนาด 11 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโรงงานราว 170 แห่งจากทั่วโลก ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ และมีการสร้างงานประมาณ 30,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน นายสี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้มีการสร้างความร่วมมือด้านการเกษตรใกล้พื้นที่ทะเลสาบ โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะร่วมกันสร้างระเบียงอู่ข้าวอู่น้ำด้วยระบบเกษตรกรรมสมัยใหม่ที่มีหลายมิติประกอบกันและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของกัมพูชา ระบุว่า จีนเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าสินค้าเกษตรของกัมพูชารายสำคัญในปี 2565 โดยสินค้าเกษตรของกัมพูชาจำนวน 689,702 ตันถูกส่งออกไปยังจีนในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565

https://news.cgtn.com/news/2023-02-11/A-new-era-for-the-China-Cambodia-community-with-a-shared-future-1hleq3RGKha/index.html