ในการเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้เดินทางไปยังเอเชียกลางเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประจำปีขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation หรือ SCO) ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองซามาร์กันต์ ประเทศอุซเบกิสถาน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า จีนให้ความสำคัญอย่างมากกับการประชุมสุดยอดขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ โดยเรียกขานว่าเป็น “งานด้านการทูตระดับประมุขแห่งรัฐที่สำคัญที่สุดของจีน ก่อนที่จะถึงการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20”
ในการประชุมสภาประมุขแห่งรัฐขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ครั้งที่ 22 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เป็นกำลังสำคัญเชิงสร้างสรรค์ในกิจการระหว่างประเทศและกิจการระดับภูมิภาค
เขาเรียกร้องให้สมาชิกรักษาจิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Spirit) รวมถึงเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างประชาคมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นและมีอนาคตร่วมกัน
สานต่อจิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้
การประชุมสุดยอดขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โลกกำลังประสบกับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ แนวโน้มการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ และปัจจัยที่ซับซ้อนอื่น ๆ ในขณะที่ระบบธรรมาภิบาลเศรษฐกิจโลกก็กำลังเผชิญกับความท้าทาย
จิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้ ตั้งชื่อตามนครของจีนที่องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ถือกำเนิดขึ้น โดยถือเป็นค่านิยมและแนวทางที่แน่นหนามั่นคง ประกอบด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน ความเสมอภาค การปรึกษาหารือ การเคารพในความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการแสวงหาการพัฒนาร่วมกัน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า สิ่งที่ได้จากแนวปฏิบัติของกลุ่มคือ ความไว้วางใจทางการเมือง ความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน ความเสมอภาค การเปิดกว้างและความครอบคลุมทั่วถึง ความถูกต้องและความยุติธรรม ซึ่งแสดงถึงจิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้อย่างสมบูรณ์
เขากล่าวว่า จิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้คือต้นกำเนิดของความเข้มแข็งในการพัฒนาองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และยังเป็นแนวทางพื้นฐานที่ประเทศสมาชิกจะต้องปฏิบัติตามสืบเนื่องต่อไป
“ความสำเร็จอันน่าทึ่งขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เกิดขึ้นได้ด้วยจิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้ และเราจะปฏิบัติตามต่อไปในขณะที่ก้าวไปข้างหน้า” ผู้นำจีนให้คำมั่นสัญญา
เหนือกว่าความมั่นคง
ในช่วงเวลาที่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ไม่เหมือนเดิมกำลังเพิ่มสูงขึ้น เช่น ลัทธิสุดโต่งและลัทธิก่อการร้าย องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้มีบทบาทสำคัญในการปกป้องความมั่นคงในภูมิภาคและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ทว่าบทบาทที่แท้จริงนั้นเหนือกว่าความมั่นคง
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ นายสี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้สมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เสริมสร้างความร่วมมือในทางปฏิบัติระหว่างกัน เขากล่าวว่าจีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อดำเนินการตามแผนการพัฒนาโลก (Global Development Initiative หรือ GDI) ที่เสนอโดยจีน ตลอดจนร่วมกันส่งเสริมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative)
ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้มีการออกแถลงการณ์ว่าด้วยการปกป้องความมั่นคงทางพลังงานและอาหารระหว่างประเทศ โดยผู้นำจีนให้คำมั่นว่าจีนจะมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินในรูปของธัญพืชและสิ่งของต่าง ๆ รวมมูลค่า 1.5 พันล้านหยวนให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการความช่วยเหลือ
ประธานาธิบดีจีนยังเรียกร้องให้สมาชิกในกลุ่มดำเนินการตามเอกสารความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น การค้าและการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน ห่วงโซ่อุปทาน นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์
พร้อมกันนี้ ผู้นำจีนเตือนไม่ให้ “หมกมุ่นอยู่กับการรวมตัวกันแค่ในกลุ่มเล็ก ๆ” โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนระบบพหุภาคีที่แท้จริง เพื่อปรับปรุงธรรมาภิบาลโลกและสร้างความมั่นใจว่าระเบียบระหว่างประเทศมีความยุติธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้น
วิสัยทัศน์สู่อนาคต
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ก็มีเส้นทางที่ไม่ธรรมดา และจนถึงปัจจุบันมีสมาชิก 8 ประเทศ รวมถึงประเทศผู้สังเกตการณ์ 4 ประเทศ และคู่เจรจาอีกมากมาย
ในแง่ของขอบเขตทางภูมิศาสตร์และจำนวนประชากรนั้น องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เป็นองค์กรระดับภูมิภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 60% ของภาคพื้นทวีปยูเรเชีย และ 41% ของประชากรโลก นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกยังคิดเป็น 24% ของ GDP โลกในปี 2564 จากข้อมูลของธนาคารโลก
องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในการประชุมสุดยอดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามบันทึกข้อผูกพันเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของอิหร่าน ขณะที่ขั้นตอนการเข้าร่วมกลุ่มของเบลารุสก็ได้เริ่มต้นขึ้น อีกทั้งยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อยอมรับอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ให้มีสถานะเป็นคู่เจรจาขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ตลอดจนมีการบรรลุข้อตกลงในการยอมรับบาห์เรน มัลดีฟส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต และเมียนมา เป็นคู่เจรจารายใหม่
ประธานาธิบดีจีนระบุว่า มีอีกหลายประเทศที่สมัครเข้าร่วมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงอิทธิพลของวิสัยทัศน์ขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และความเชื่อมั่นที่มีร่วมกันเกี่ยวกับอนาคตของกลุ่ม
ในช่วงท้ายของการกล่าวสุนทรพจน์ นายสี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้ทุกประเทศปฏิบัติตามจิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้ รวมถึงทำงานเพื่อการพัฒนาอย่างมั่นคงขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และร่วมกันสร้างภูมิภาคนี้ให้เป็นบ้านที่สงบ มั่นคง เจริญรุ่งเรือง และสวยงาม
https://news.cgtn.com/news/2022-09-16/Xi-Jinping-delivers-speech-at-SCO-summit-in-Samarkand-1dnrViKtBks/index.html