9krapalm.com

CGTN: ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดใหม่ตอกย้ำบทบาทหน้าที่ของจีนที่มีต่อโลก

ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่จีนเมื่อผู้นำชุดใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลแบบมาร์กซิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ กรุงปักกิ่ง

“ผมได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกครั้ง” นายสี จิ้นผิง กล่าวกับผู้สื่อข่าว ณ มหาศาลาประชาชน

นายสี จิ้นผิง ได้แนะนำสมาชิกอีก 6 คนของคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ได้แก่ นายหลี่ เฉียง, นายจ้าว เล่อจี้, นายหวัง ฮู่หนิง, นายไช่ ฉี, นายติง เซวียเสียง และนายหลี่ ซี พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะทำงานอย่างแข็งขันตามหน้าที่ที่ได้รับ เพื่อพิสูจน์ว่าคู่ควรแก่ความไว้วางใจที่พรรคและประชาชนได้มอบให้

นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่าโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมกับตอกย้ำหน้าที่ความรับผิดชอบของจีนที่มีต่อประชาคมโลก “เราจะทำงานร่วมกับประชาชนของทุกประเทศเพื่อส่งเสริมค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติ ได้แก่ สันติภาพ การพัฒนา ความเป็นธรรม ความยุติธรรม ประชาธิปไตย และเสรีภาพ เพื่อรักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมการพัฒนาโลก ตลอดจนผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติต่อไป”

สานฝันของประชาชนด้วยการมอบชีวิตที่ดีขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของหลักปรัชญาการบริหารที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งสอดคล้องกับจิตวิญญาณของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

“พรรคควรทำงานเพื่อประชาชนเสมอ และยึดประชาชนเป็นสำคัญในการเดินทางต่อไปข้างหน้า” นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำ พร้อมกับเสริมว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะไม่หวั่นไหวต่อลมแรง น้ำเชี่ยวกราก และพายุอันตราย เพราะประชาชนจะคอยสนับสนุนและให้กำลังใจเสมอ

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา นอกเหนือจากการขจัดความยากจนขั้นรุนแรงแล้ว จีนยังได้เห็นประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นรอบด้าน

นายสี จิ้นผิง รายงานในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ว่า อายุขัยเฉลี่ยของชาวจีนเพิ่มขึ้นเป็น 78.2 ปี รายได้ต่อปีที่ใช้จ่ายได้จริงต่อหัวเพิ่มขึ้นเป็น 35,100 หยวน (ราว 4,938 ดอลลาร์) จาก 16,500 หยวน และมีการสร้างงานในเมืองมากกว่า 13 ล้านตำแหน่งต่อปีโดยเฉลี่ยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

จีนซึ่งมีระบบการศึกษา การประกันสังคม และการรักษาพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้สร้างความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์ในการทำให้การศึกษาเข้าถึงได้ในระดับสากล รวมถึงทำให้ประชาชน 1.04 พันล้านคนอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของการประกันผู้สูงวัยขั้นพื้นฐาน ตลอดจนประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานครอบคลุมประชากร 95% ของประเทศ

นอกจากนี้ จีนยังสร้างที่อยู่อาศัยกว่า 42 ล้านยูนิตในเขตเมืองที่ทรุดโทรม และสร้างบ้านใหม่แทนที่บ้านในชนบทที่ทรุดโทรมมากกว่า 24 ล้านหลัง ส่งผลให้สภาพความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในเขตเมืองและในชนบท

“เราให้ความสำคัญกับสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญ และทำตามความปรารถนาของประชาชน เราจะทำงานอย่างหนักต่อไปเพื่อเปลี่ยนความปรารถนาของประชาชนที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นให้กลายเป็นความจริง” นายสี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ความทันสมัยแบบจีนคือโอกาสสำหรับโลก

ความทันสมัยแบบจีน ซึ่งเป็นคำสำคัญที่กำหนดเส้นทางของจีนสู่การฟื้นฟูประเทศ และเป็นอีกคำที่กล่าวถึงบ่อยครั้งในการรายงานต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ได้กระตุ้นให้เกิดการอภิปรายอย่างร้อนแรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ความทันสมัยแบบจีนมีองค์ประกอบเหมือนกับกระบวนการพัฒนาของทุกประเทศ แต่มีลักษณะเฉพาะมากกว่าด้วยบริบทของจีน โดยรายงานระบุว่าเป็นความทันสมัยของประชากรจำนวนมาก ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสำหรับทุกคน ความก้าวหน้าทางวัตถุและวัฒนธรรม-จริยธรรม ความกลมกลืนระหว่างมนุษยชาติกับธรรมชาติ และการพัฒนาอย่างสันติ

นายสี จิ้นผิง กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า จีนที่เจริญรุ่งเรืองจะสร้างโอกาสอีกมากมายให้กับโลกใบนี้ พร้อมกับเน้นย้ำว่าจีนจะแน่วแน่ในการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งและการเปิดกว้างอย่างทั่วถึง รวมถึงการเดินหน้าสู่การพัฒนาคุณภาพสูง

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่า จีนมีส่วนส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 30% ในช่วงปี 2556-2564 นับว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก

ขณะเดียวกัน จีนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของกว่า 140 ประเทศและดินแดนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตลอดจนเป็นผู้นำระดับโลกด้านปริมาณการค้าสินค้าทั้งหมด

แม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 แต่จีนยังคงสามารถรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั่วโลก และเป็นแรงผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยในปี 2564 เพียงปีเดียว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีน (GDP) คิดเป็น 18.5% ของเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ แม้จีนจะให้ความสำคัญกับการสร้างชาติให้ทันสมัย แต่ก็ไม่ละเลยผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยจีนได้ลดความเข้มข้นของการปล่อยคาร์บอนลง 34.4% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และให้คำมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดภายในปี 2573 ก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2603

“จีนไม่สามารถพัฒนาโดยแยกตัวจากโลกได้ และโลกก็ต้องพึ่งพาจีนเพื่อการพัฒนาเช่นกัน” นายสี จิ้นผิง กล่าว พร้อมกับตอกย้ำความมุ่งมั่นของจีนที่จะเปิดประตูสู่โลกภายนอกให้กว้างยิ่งขึ้น

https://news.cgtn.com/news/2022-10-23/How-does-new-CPC-leadership-view-China-s-commitments-to-the-world–1emHpG4HO3m/index.html

วิดีโอ – https://www.youtube.com/watch?v=-jTKeHza97M

Exit mobile version