CGTN: ข้อความจากไหหลำไปถึงโลก: บทสัมภาษณ์พิเศษของ CGTN กับผู้ว่าการมณฑล Liu Xiaoming

กรุงปักกิ่ง 11 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ — ก้าวสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ของมณฑลไหหลำ


Hainan’s Message to the World: CGTN’s Exclusive Interview with Governor Liu Xiaoming

Hainan Free Trade Port (Hainan FTP) กำลังเข้าใกล้ก้าวสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ด้วยการดำเนินการตามพิธีการศุลกากรแบบอิสระ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักที่ระบุไว้ในแผนแม่บทสำหรับการสร้างท่าเรือการค้าเสรีมณฑลไหหลำ โดยความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ และเป็นสัญลักษณ์ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของไหหลำ เนื่องจากโครงการริเริ่มนี้ได้ถูกเขียนไว้ในรายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลมณฑลเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน ประธานาธิบดีจีน Xi Jinping ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของโครงการริเริ่มนี้ พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น เป็นระเบียบ และปราศจากความเสี่ยง

ในบทสัมภาษณ์พิเศษระหว่าง Liu Xin จาก CGTN และ Liu Xiaoming ผู้ว่าการมณฑลนั้น เขาได้ยืนยันว่ามีการเตรียมการอย่างดีเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จก่อนสิ้นปี

ทั้งนี้กรอบงานศุลกากรปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้เป็นการแยกตัวออกไปอย่างที่เข้าใจผิดกัน แต่ปฏิบัติตามโมเดล “แนวหน้าเปิด แนวที่สองควบคุม และเคลื่อนไหวภายในอย่างอิสระ” โดยโครงสร้างนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศ ในขณะที่ยังคงรักษาการกำกับดูแลที่จำเป็นระหว่างมณฑลไหหลำและแผ่นดินใหญ่เอาไว้

“โครงการได้เดินหน้าไปอย่างราบรื่น โดยประกอบไปด้วย 5 ระบบหลัก ได้แก่ นโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน การควบคุมความเสี่ยง อุตสาหกรรม และการสนับสนุนองค์กร ซึ่งค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว” Liu กล่าว “เราพร้อมแล้ว”

สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปิดกว้างสู่โลก

นอกเหนือจากการดำเนินการทางศุลกากรแล้ว มณฑลไหหลำความมุ่งมั่นที่จะยกระดับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อก้าวขึ้นมาเป็น “ตั๋วทอง” ไปสู่ความสำเร็จอีกด้วย โดยได้มีความพยายามในพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญไปที่ตลาด หลักกฎหมาย และมีมาตรฐานระดับโลก มณฑลไหหลำได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับประเทศในด้านการปรับปรุงบริการภาครัฐผ่านการนำเสนอแพลตฟอร์มบริการองค์กรแบบครบวงจรที่มาพร้อมการจับคู่นโยบายอัจฉริยะ การซ่อมแซมเครดิต และการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ ซึ่งบริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนในไหหลำจะมีสิทธิเข้าถึงบริการเหล่านี้อย่างเท่าเทียมกัน

Liu Xiaoming ยังได้ตอบสนองต่อข้อกังวลเกี่ยวกับประสบการณ์ของนักลงทุนต่างชาติในไหหลำ และตอกย้ำถึงความสำคัญในการพัฒนาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และความสะดวกสบายในการชำระเงิน ทั้งยังมีการนโยบายต่างๆ มาปรับใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกรรม และกิจวัตรประจำวันของธุรกิจและผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติมีความราบรื่นยิ่งขึ้น

อุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์สำหรับขับเคลื่อนการเติบโต

มณฑลแห่งนี้ได้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมหลักสี่ประการ ได้แก่ การท่องเที่ยว บริการสมัยใหม่ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง และเกษตรกรรมเขตร้อน ซึ่งส่วนแบ่งโดยรวมของภาคส่วนเหล่านี้ในเศรษฐกิจของมณฑลไหหลำได้เพิ่มขึ้นจาก 52.4% ในปี 2561 เป็น 67% ในปี 2566 นอกจากนี้ ไหหลำยังได้นำแนวทางเชิงกลยุทธ์ 5 ประการ ได้แก่ การเกษตร การเดินเรือ การบินและอวกาศ การพัฒนาสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัลมาใช้อีกด้วย

การพัฒนาทางทะเลนั้นมีความโดดเด่นมากที่สุด และ “การใช้ประโยชน์จากขุมพลังของมหาสมุทร” นั้นก็เป็นโครงการริเริ่มหลักสำหรับไหหลำที่เป็นผู้กำกับดูแลพื้นที่มหาสมุทรประมาณ 2 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทะเลลึก เศรษฐกิจทางทะเลของไหหลำยังคงเติบโตในอัตราเลขสองหลัก และถือเป็นหนึ่งในสามของ GDP ของมณฑล โดยมีองค์กรและสถาบันวิจัยเกือบ 1,000 แห่งที่ดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีใต้ทะเลลึก และอุตสาหกรรมทางทะเล ทั้งยังมีแผนที่จะขยับขยายธุรกิจพลังงานใต้ทะเลลึก การผลิตอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำนอกชายฝั่ง ชีวการแพทย์ทางทะเล และการท่องเที่ยวทางทะเลเพิ่มเติมอีกด้วย โดย Liu Xiaoming ได้กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายที่จะสร้าง “ไหหลำใหม่บนท้องทะเล” ภายในทศวรรษหน้า”

ก้าวนำในด้านการพัฒนาสีเขียว

นอกเหนือจากการพัฒนาเศรษฐกิจแล้ว ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ซึ่งไหหลำก็ได้รับการยกย่องว่ามีสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาที่ดีที่สุดในประเทศจีน

ตัวอย่างที่โดดเด่นของโครงการริเริ่มสีเขียวของไหหลำก็คือ เขตสาธิตการปล่อยคาร์บอนเกือบเป็นศูนย์ของ Bo’ao ผ่านการปรับปรุงอาคารให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน และระบบการทำเกษตรร่วมกับการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนบนเกาะตงหยูที่เป็นไซต์งานถาวรของ Bo’ao Forum ประจำภูมิภาคเอเชียลดลงไปถึง 96.2% โดยมีสำนักงานพลังงานเยอรมนีเป็นผู้รับรองว่านี่คือเขตสาธิตการปล่อยคาร์บอนเกือบเป็นศูนย์แห่งแรกในภูมิภาคของจีน

ไหหลำพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านการค้า นวัตกรรม และความยั่งยืนผ่านการดำเนินการศุลกากรอิสระในอนาคต สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ และความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งในอนาคต มีการคาดการณ์ว่าท่าเรือการค้าเสรีจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมกับยกระดับการมีส่วนร่วมกับนานาชาติเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการพัฒนาจะมีความสอดคล้องกับเป้าหมายระดับชาติและแนวโน้มเศรษฐกิจระดับโลก

 

View original content to download multimedia: Read More