Lazada

“แซดทีอี” เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันล้ำสมัยที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 ด้วยแนวคิดพลิกโฉมนวัตกรรมดิจิทัล

แซดทีอีจะเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันล้ำสมัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566
แซดทีอีจะจัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุดที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านเครือข่ายประสิทธิภาพสูงสุด การขยายตัวทางดิจิทัล อนาคตที่ไร้ขอบเขต และสมาร์ทไลฟ์
แซดทีอี คอร์ปอเรชัน (ZTE Corporation) (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก จะเข้าร่วมในงานแสดงเทคโนโลยีและโทรคมนาคม โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (Mobile World Congress) หรือเอ็มดับบลิวซี (MWC) ที่บาร์เซโลนา ตั้งแต่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม 2566 โดยในงานเอ็มดับเบิลยูซี 2566 ครั้งนี้ แซดทีอีจะมาในธีม “พลิกโฉมนวัตกรรมดิจิทัล” (Shaping Digital Innovation) โดยจะเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันล้ำสมัย ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ที่โดดเด่นที่สุดคือแซดทีอีจะจัดแสดงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าล่าสุดที่ประสบความสำเร็จในด้านเครือข่ายประสิทธิภาพสูงสุด (Ultra-Efficient Network) การขยายตัวทางดิจิทัล (Digital Expansion) อนาคตที่ไร้ขอบเขต (Boundless Future) และสมาร์ทไลฟ์ ชีวิตอัจฉริยะ (Smart Life) ที่บูธ 3F30 ฮอลล์ 3 ศูนย์จัดแสดงฟีรา กราน เวีย (Fira Gran Via)

ในส่วนของการสร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน แซดทีอีจะเปิดตัวโซลูชันการใช้เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพแบบครบวงจรสำหรับเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถให้การเชื่อมต่อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์ โซลูชันยูนิไซต์ (UniSite) เต็มรูปแบบล่าสุดสำหรับการเข้าถึงแบบไร้สายจะช่วยให้ผู้ให้บริการปรับใช้เครือข่ายความถี่ฟูลแบนด์และ multi-RAT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ที่เหมาะสมและพร้อมสำหรับวิวัฒนาการขั้นสูงของ 5G โซลูชันเทอร์โบ คอร์ (Turbo Core) จะรวมความยืดหยุ่นของซอฟต์แวร์และประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์เข้ากับการ์ดเร่งความเร็วฟังก์ชันระดับมืออาชีพ เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดของแต่ละบิต โซลูชันการนำส่งข้อมูล 400G ประสิทธิภาพสูงสำหรับทุกสถานการณ์ ด้วยสมรรถภาพสองเท่าและระยะการส่งสัญญาณหลักที่ยาวที่สุดในอุตสาหกรรม ไปจนถึง 10G PON แบบ 16 พอร์ตที่ครบวงจรมากที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงการ์ดคอมโบ 50G PON ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่รองรับการผสมผสานและวิวัฒนาการที่ราบรื่นของเทคโนโลยีสามรุ่น

ในส่วนของการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการขยายธุรกิจดิจิทัล แซดทีอีจะจัดแสดงบริการดิจิทัลแบบครบวงจรผ่านการผสานรวมบริการเครือข่ายคลาวด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างตลาดด้วยนวัตกรรมใหม่ ทั้งนี้สำหรับโซลูชัน ToB นั้น แซดทีอีจะจัดแสดง Mini5GC ที่เล็กที่สุดในอุตสาหกรรม สถานีฐานไร้สายที่ไม่เหมือนใครของอุตสาหกรรมพร้อมโซลูชันโหนดเอนจิน (NodeEngine) ที่มีพลังการประมวลผลในตัว เกตเวย์อุตสาหกรรมที่มีรูปแบบต่าง ๆ เช่น เกตเวย์วิดีโอ และเกตเวย์ทีเอสเอ็น (Time Sensitive Networking หรือ TSN) และผลิตภัณฑ์ที่มีการเข้าถึงด้วยเครือข่ายออปติกสำหรับแคมปัสต่าง ๆ แซดทีอีจะนำเสนอโซลูชัน “บริการเครือข่ายส่วนตัว” (private network as a service) พร้อมการปรับใช้ตามต้องการ การผสานรวมบริการเครือข่ายคลาวด์ ประสิทธิภาพที่แม่นยำ และการปฏิบัติการและการบำรุงรักษา (O&M) ที่ง่ายดาย แซดทีอีจะใช้อุปกรณ์ควบคุม PLC บนคลาวด์, คู่เสมือนดิจิทัล, ระบบแมชชีนวิชัน, หุ่นยนต์ และการลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ (AGV) อย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างโรงงานที่มีการเชื่อมต่อ 5G เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการผลิตอัจฉริยะ สำหรับโซลูชัน ToH นั้น บริษัทฯ จะมอบสุดยอดประสบการณ์ความเร็วกิกะบิตพลัสทั้งบ้านโดยใช้ Wi-Fi 7 และโซลูชันเครือข่ายในบ้านแบบไฟเบอร์ทูเดอะรูม (FTTR) โดยสนับสนุนผู้ให้บริการในการนำเสนอนวัตกรรมและบริการที่เพิ่มความคุ้มค่า โดยขยายระบบนิเวศดิจิทัล

ในส่วนของการประหยัดพลังงาน แซดทีอีจะจัดแสดงโซลูชันพาวเวอร์ไพลอตโปร (PowerPilot Pro) ที่ลดการใช้พลังงานของเครือข่ายอย่างชาญฉลาดได้มากถึง 35% และประหยัดพลังงานตลอดกระบวนการ โดยรวมถึงโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ในสถานที่ทุกรูปแบบ ศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ และการจัดเก็บพลังงานอัจฉริยะแบบใหม่ ซึ่งสร้างเครือข่ายโทรคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด

การรับมือกับอนาคตที่ไร้ขอบเขต แซดทีอีวางแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่แนวปฏิบัติที่เป็นนวัตกรรมในวิวัฒนาการขั้นสูงของ 5G และเครือข่ายออปติกแห่งอนาคตด้วยการแสดงนวัตกรรมล้ำสมัยจำนวนมากที่งานเอ็มดับบลิวซี 2566 แซดทีอีจะจัดแสดงระบบ RIS แบบไดนามิก ซึ่งเป็นต้นแบบฟูลดูเพล็กซ์ซับแบนด์ตัวแรกของอุตสาหกรรม โดยเป็นโซลูชันที่ผสานรวมการสื่อสาร การตรวจจับ และการประมวลผลเข้าไว้ด้วยกัน ในขณะเดียวกันแซดทีอีจะนำเสนอเครือข่ายออปติกแห่งอนาคต และจะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ไฟเบอร์แบบแกนกลวงและแบ็คเพลนออปติก OXC แบบ 32 มิติมาใช้ เพื่อให้ได้ความหน่วงของข้อมูลที่น้อยลง ประสิทธิภาพการส่งข้อมูลที่สูงขึ้น และการใช้พลังงานที่ลดลง

การรับมือกับชีวิตดิจิทัลอัจฉริยะ แซดทีอีจะจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้ในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาและสุขภาพ ความบันเทิงแบบเสียงและวิดีโอ ธุรกิจและการเดินทาง บ้านและการศึกษา ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้แก่ แซดทีอี แอ็กซอน (ZTE Axon), แซดทีอี เบลด (ZTE Blade), ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคในซีรีส์นูเบีย (Nubia) ทั้งหมด ตลอดจนชุดอุปกรณ์บรอดแบนด์เคลื่อนที่ (MBB), การเชื่อมต่อบรอดแบนด์แบบไร้สาย (FWA) และโซลูชันการเชื่อมโยงอุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เน็ต (IoT) นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมใหม่ที่น่าประทับใจอีกหลายรายการที่จะจัดแสดง เช่น แท็บเล็ต 3 มิติที่ไม่ต้องใช้แว่นตา AI เครื่องแรกของโลก และแว่นตา AR ที่ให้ประสบการณ์ภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยม ในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกด้านอุปกรณ์บรอดแบนด์ 5G แบบเคลื่อนที่ แซดทีอีจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นที่ 5 สำหรับ 5G FWA และ GIS ที่งานเอ็มดับบลิวซี 2566

ในฐานะพันธมิตรงานเอ็มดับบลิวซี การประชุมอภิปรายเกี่ยวกับนวัตกรรมอุตสาหกรรมระดับโลกในธีม “พลิกโฉมนวัตกรรมดิจิทัล” จะจัดขึ้นโดยแซดทีอีที่งานเอ็มดับบลิวซี 2566 ผู้นำจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับโลก ผู้บุกเบิกจากภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรง ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทที่ปรึกษา และพันธมิตรในวงการ จะได้รับเชิญให้อภิปรายหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจในการประชุมครั้งนี้ รวมถึงแนวโน้มการพัฒนาเครือข่ายในอนาคตและวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบดิจิทัลอัจฉริยะ นอกจากนี้ งานเอ็มดับบลิวซี 2566 ยังรวมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดโดยแซดทีอี โมบายล์ ดีไวเซส (ZTE Mobile Devices) เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ 5G FWA และอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ ๆ

ในระหว่างงานเอ็มดับบลิวซี 2566 แซดทีอียังเตรียมจัดงานเปิดตัวร่วมกับบริษัทไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับโลกอีกหลายราย นอกจากนี้ แซดทีอีจะเข้าร่วมในการประชุมอภิปราย 5 หัวข้อที่จัดโดยสมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) ซึ่งแซดทีอีจะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและกรณีปฏิบัติกับผู้ให้บริการระดับโลก พันธมิตรในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรม รวมถึงการผลิตอัจฉริยะ ความยั่งยืน และเมตาเวิร์ส โดยมีเป้าหมายในการช่วยลูกค้าสร้างคุณค่าใหม่ให้กับอุตสาหกรรม

ในขณะเดียวกัน แซดทีอีจะสตรีมความเคลื่อนไหวของงานเอ็มดับบลิวซี 2566 แบบถ่ายทอดสดบนเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ลูกค้าทั่วโลกได้เห็นไฮไลต์ของงานโดยไม่ต้องออกจากบ้าน คุณซู จื่อหยาง (Xu Ziyang) ซีอีโอของแซดทีอีและสมาชิกหลายคนในทีมผู้บริหารจะมาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกล่าสุดบนเว็บไซต์ดังกล่าวเกี่ยวกับยุคดิจิทัลอัจฉริยะ รวมถึงแผนการของบริษัทที่จะร่วมกันส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ และขับเคลื่อนการเติบโตของความฉลาดทางดิจิทัลท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่เร่งรัดขึ้น โดยสร้างความร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลก พร้อมพัฒนาความฉลาดทางดิจิทัลและการปล่อยคาร์บอนต่ำ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมบูธของแซดทีอี (3F30, Hall 3, Fira Gran Via) ที่งานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 หรือเข้าชมเว็บไซต์ https://www.zte.com.cn/global/about/exhibition/mwc23.html

เกี่ยวกับแซดทีอี
แซดทีอี (ZTE) ช่วยเชื่อมโยงโลกด้วยนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตที่ดีกว่า บริษัทฯ ให้บริการเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่และโซลูชันแบบครบวงจร ครอบคลุมอุปกรณ์ไร้สาย แบบมีสาย อุปกรณ์ และบริการโทรคมนาคมระดับมืออาชีพทั้งหมด แซดทีอีให้บริการแก่ประชากรมากกว่าหนึ่งในสี่ของโลก โดยทุ่มเทให้กับการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลอัจฉริยะ และสร้างการเชื่อมต่อและความไว้วางใจให้เกิดขึ้นได้ทุกที่ แซดทีอีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซินเจิ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.zte.com.cn/global

ติดตามเรา
เฟซบุ๊ก www.facebook.com/ZTECorp
ทวิตเตอร์ www.twitter.com/ZTEPress
ลิงด์อิน www.linkedin.com/company/zte

สื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น
ฝ่ายการสื่อสาร
อีเมล: ZTE.press.release@zte.com.cn

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2010230/ZTE_Booth_MWC_Barcelona_2023.jpg