Lazada

“หัวเว่ย” เปิดตัวโซลูชันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “กรีน 1-2-3”

การประชุมสุดยอดหัวเว่ย กรีน ไอซีที (Huawei Green ICT Summit) จัดขึ้นที่บาร์เซโลนาในวันนี้ โดยคุณเผิง ซ่ง (Peng Song) ประธานฝ่ายกลยุทธ์ไอซีทีและการตลาดของหัวเว่ย กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา เลือกที่จะไม่เลือก” (Green & Development, Choosing Not to Choose) คุณเผิงชี้ให้เห็นว่าบิ๊กแบงของเอไอกำลังก่อตัวขึ้น เอไอได้นำประโยชน์และโอกาสใหม่ ๆ มาสู่ผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม เอไอยังต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีที่ดีขึ้น เนื่องจากแบนด์วิธที่สูงขึ้นและพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้การใช้พลังงานเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว “ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมไอซีทีจะต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากว่าจะเลือกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือเลือกการพัฒนา อย่างไรก็ดี เราเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมสามารถเลือกที่จะไม่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวได้ โดยเลือกที่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพัฒนาไปพร้อม ๆ กันแทน” คุณเผิง กล่าว

คุณเผิงชี้ว่าการพัฒนาไอซีทีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาไอซีทีไปพร้อม ๆ กันนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ หากเกิดความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และประสบการณ์ของผู้ใช้ โดยในงานเอ็มดับบลิวซี บาร์เซโลนา (MWC Barcelona) ประจำปี 2566 หัวเว่ยจะเปิดตัวโซลูชันที่รวบรวมแนวทางนี้ไว้ เพื่อปูทางสู่การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานไอซีที

ในแง่ของประสิทธิภาพพลังงานนั้น หัวเว่ยสนับสนุนการขยายจุดโฟกัสจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครือข่ายไปสู่การลดการใช้พลังงานอย่างแท้จริง ในสถานการณ์ที่ภาระโหลดต่ำ นั้น เทคโนโลยีการปิดระบบหลายมิติสามารถใช้ปิดระบบแบบอัจฉริยะในมิติต่าง ๆ ได้ เช่น ความถี่ เวลา ช่องสัญญาณ และพลังงาน ในขณะเดียวกัน ในสถานการณ์ที่มีภาระโหลดต่ำเป็นพิเศษนั้น อุปกรณ์สามารถเข้าสู่โหมดพักตัวแบบลึกได้ ตัวอย่างเช่น วัสดุและกระบวนการใหม่ ๆ สามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาการควบแน่นและอุณหภูมิต่ำ เมื่อฮาร์ดแวร์เอเอยู (AAU) ปิดตัวลง สิ่งนี้จะช่วยให้โมดูลพลังงานสามารถอยู่ในโหมดสแตนด์บายได้อย่างอิสระ หมายความว่าการใช้พลังงานของเอเอยูระหว่างภาระโหลดต่ำเป็นพิเศษสามารถลดลงจาก 300 วัตต์ เหลือไม่ถึง 10 วัตต์ได้

ในแง่ของพลังงานหมุนเวียนนั้น บริษัทได้เรียกร้องให้มีการขยายจุดโฟกัส จากที่เน้นการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปเป็นการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถยกระดับนโยบายเฉพาะเครือข่ายเป็นนโยบายเฉพาะไซต์เพื่อปรับปรุงความแม่นยำของการใช้พลังงานหมุนเวียนได้ นอกจากนี้ ระยะเวลาที่ใช้ในการตั้งเวลาแบบอัจฉริยะยังลดลงได้ จากที่ใช้เวลาเป็นวันเหลือเพียงแค่ไม่กี่นาที ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของพลังงานหมุนเวียน ทั้งยังรับข้อมูลไซต์ได้หลายมิติ เช่น สภาพอากาศ ราคาไฟฟ้า สถานะแบตเตอรี่ และปริมาณการให้บริการ และยิ่งไปกว่านั้น อัลกอริทึมของระบบการตั้งเวลาอัจฉริยะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าสูงสุดและความพร้อมใช้งานของพลังงานตามโหลด ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยรวมได้อีกด้วย

ในแง่ของประสบการณ์ในการใช้งาน ทางหัวเว่ยเสนอว่าไม่ควรมุ่งเน้นไปเพียงแค่การประหยัดพลังงานของเครือข่ายและการรับประกันตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) อีกต่อไป แต่ให้ขยายขอบเขตไปถึงการรับประกันประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วย โดยนำนโยบายการประหยัดพลังงานที่เหมาะสมที่สุดมาใช้ตามสถานการณ์เครือข่ายที่แตกต่างกันได้ เช่น ในสถานการณ์ที่มีการใช้งานน้อย KPI ของเครือข่ายพื้นฐานก็จะรับประกันว่าจะสามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุด ขณะเดียวกันก็รับประกันประสบการณ์ของผู้ใช้ได้ในสถานการณ์ที่มีการใช้งานสูง แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์กำลังได้รับการอัปเกรดเป็นแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ทำให้สร้างนโยบายประหยัดพลังงานได้ภายในไม่กี่นาที และส่งมอบนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที

คุณเผิงเน้นย้ำว่า หัวเว่ยอัปเดตโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเรื่อย ๆ ตามความเชื่อในศักยภาพของทั้งสามด้านดังกล่าว และได้เปิดตัวโซลูชันส่งเสริมความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างกรีน 1-2-3 (Green 1-2-3) ภายในโซลูชันนี้นั้น “1” หมายถึงหนึ่งดัชนีสำหรับการสร้างเครือข่ายสีเขียว ส่วน “2” หมายถึงการมุ่งเน้นไปที่สองสถานการณ์ ได้แก่ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงและการใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ และ “3” หมายถึงโซลูชันสามชั้นที่เป็นระบบซึ่งครอบคลุมไซต์ เครือข่าย และการดำเนินงาน ทั้งนี้ คุณเผิงกล่าวปิดสุนทรพจน์โดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจของหัวเว่ยที่จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการทั่วโลก เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนา เพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ มหกรรมเอ็มดับบลิวซี บาร์เซโลนา ประจำปี 2566 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน หัวเว่ยจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่บูธหมายเลข 1H50 ณ ฟิรา แกรน เวีย ฮอลล์ 1 (Fira Gran Via Hall 1) หัวเว่ยและผู้ให้บริการระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำความคิดเห็น จะดำดึ่งสู่ประเด็นต่าง ๆ เช่น ความสำเร็จของธุรกิจ 5G, โอกาส 5.5G, การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, การพลิกโฉมสู่ดิจิทัล และวิสัยทัศน์ของเราในการใช้แผนแม่บททางธุรกิจไกด์ (GUIDE) เพื่อวางรากฐานสำหรับ 5.5G และสานต่อความสำเร็จของ 5G เพื่อความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2023

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2010185/Peng_Song.jpg

คำบรรยายภาพ – คุณเผิง ซ่ง ประธานฝ่ายกลยุทธ์ไอซีทีและการตลาดของหัวเว่ย กล่าวปาฐกถาพิเศษ