“สุเอซ” ประกาศเป้าหมายความยั่งยืนใหม่

สุเอซ (SUEZ) ประกาศเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนครั้งใหม่สำหรับปี 2570 เป็นต้นไป โดยมีพันธสัญญา 24 ข้อ ครอบคลุม 3 ส่วนหลักด้วยกัน ได้แก่ สภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความรับผิดชอบต่อสังคม

ในแง่ของพันธสัญญาทางสภาพอากาศนั้น ทางกลุ่มบริษัทกำลังพัฒนาแนวทางระดับโลกใน 3 ด้านหลัก ดังนี้
ส่งเสริมการลดคาร์บอนของพลังงาน: บรรลุความพอเพียงทางไฟฟ้าในยุโรปในปี 2566 และตลอดระยะเวลาของแผน ระหว่างปัจจุบันจนถึงปี 2573 เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของกลุ่มบริษัทเป็น 70% ทั่วโลก และ 100% ในยุโรป เทียบกับค่าเฉลี่ยปัจจุบันที่ 24%
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) รวมถึงในห่วงโซ่มูลค่า: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมทางน้ำเกือบ 40% ภายในปี 2573 และจากกิจกรรมของเสียมากกว่า 25% ภายในปี 2573 (ไม่รวมพลังงานจากขยะ)
ปรับไซต์งานที่มีความสำคัญสูงสุดและเปราะบางที่ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท ให้สอดรับกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในด้านสังคมนั้น ทางกลุ่มบริษัทหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจที่มีความรับผิดชอบ โดยจ้างงานและพัฒนาท้องถิ่นภายในชุมชน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาและการมีส่วนร่วมของบุคลากรด้วยการเปิดให้พนักงานร่วมเป็นเจ้าของได้
นอกเหนือจากเสาหลักด้านสภาพอากาศและความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว ทางกลุ่มบริษัทกำลังยกระดับความคิดริเริ่มในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีพันธสัญญาเจาะจง 10 ประการ
กรอบการกำกับดูแลที่มั่นคงถูกสร้างขึ้นโดยมีเกณฑ์บ่งชี้ประสิทธิภาพ 43 รายการ เพื่อติดตามการปฏิบัติตามพันธสัญญาเหล่านี้ ซึ่งจะมีการแบ่งปันตัวชี้วัดทั้งหมดปีละครั้งเพื่อชี้แจงความคืบหน้าของกลุ่มบริษัทในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพันธสัญญาเหล่านี้
ซาบรินา ซูสซาน (Sabrina Soussan) ประธานกรรมการและซีอีโอของสุเอซ กล่าวว่า “ด้วยแผนแม่บทใหม่นี้ เรากำลังตอกย้ำบทบาทสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในกลยุทธ์ของสุเอซ วันนี้ สุเอซขอให้คำมั่นสัญญาด้วยความทะเยอทะยานครั้งใหม่เกี่ยวกับนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงเป้าหมายอันทะเยอทะยานในแง่ของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ”

สุเอซมีบทบาทสำคัญในการจัดการปัญหาความยั่งยืนของชุมชนต่าง ๆ ผ่านกิจกรรมทางธุรกิจในการจัดการวัฏจักรของน้ำ รวมถึงการรีไซเคิลและนำขยะกลับมาใช้ใหม่

สุเอซได้นำเสนอกลยุทธ์องค์กรใหม่เมื่อเดือนกันยายน 2565 โดยปรารถนาที่จะก้าวไปให้ไกลยิ่งขึ้นด้วยการกำหนดเป้าหมายอันทะเยอทะยานในแต่ละเสาหลักทั้งสาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สุเอซให้คำมั่นสัญญาอย่างเท่าเทียมกันในแต่ละด้าน ได้แก่ สภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และการรักษาความรับผิดชอบต่อสังคม

ด้วยเหตุนี้ ทางกลุ่มบริษัทจึงให้คำมั่นสัญญาดังต่อไปนี้

ก) สภาพภูมิอากาศ

– ส่งเสริมการลดคาร์บอนของพลังงานโดย

เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการใช้พลังงานทั้งหมดของกลุ่มเป็น 70% ทั่วโลก และ 100% ในยุโรปภายในปี 2573 เทียบกับค่าเฉลี่ยปัจจุบันที่ 24% โดยใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตไฟฟ้าของตนเองและสัญญาจัดหาพลังงานหมุนเวียนใหม่ (พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม)
เพิ่มการผลิตไฟฟ้าในไซต์งานของกลุ่มบริษัท โดยมีเป้าหมายอันทะเยอทะยานในการมีไฟฟ้าใช้เองอย่างพอเพียงในปี 2566 ในยุโรป และคงไว้เช่นนั้นตลอดแผนงาน
ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านคาร์บอนต่ำของชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนได้รับประโยชน์จากพลังงานหมุนเวียนที่มาจากท้องถิ่น ซึ่งเกิดจากกิจกรรมการจัดการขยะของกลุ่มบริษัท และยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่เกิดจากการใช้พลังงานของบริษัท
– ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากกิจกรรมของบริษัทเอง และจากไซต์งานที่กลุ่มบริษัทดำเนินการในนามของลูกค้า

ลดการปล่อยมลพิษจากกิจกรรมทางน้ำลง 40% ภายในปี 2573 โดยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและการใช้พลังงานของกระบวนการปฏิบัติงาน
ลดการปล่อยมลพิษจากกิจกรรมของเสียต่าง ๆ ลง 25% ภายในปี 2573 (ไม่รวมพลังงานจากขยะ)
ใช้นวัตกรรมปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของพลังงานจากกิจกรรมของเสีย: โดยกลุ่มบริษัทจะลงทุนเพิ่ม 40 ล้านยูโรในโครงการวิจัยและพัฒนาที่ทุ่มเทให้กับการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS)
– ประการสุดท้าย ปรับไซต์งานที่เสี่ยงมากที่สุดให้สอดรับกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ทางกลุ่มบริษัทตกลงที่จะสนับสนุนไซต์งานที่มีความสำคัญและเปราะบางทั้ง 100% ระหว่างปัจจุบันถึงปี 2570 ผ่านแผนปฏิบัติการที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีและได้รับทุนสนับสนุน

ข) อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

เพื่อลดผลกระทบของกิจกรรมต่าง ๆ ทางกลุ่มบริษัทขอให้คำมั่นสัญญาในการจัดการกับปัจจัยสำคัญทั้งห้าที่ขับเคลื่อนความหลากหลายทางชีวภาพโดยตรง ตามที่ระบุโดยเวทีระหว่างรัฐบาลว่าด้วยนโยบายวิทยาศาสตร์ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและบริการระบบนิเวศ (IPBES)

ต่อสู้กับการทำเทียมดิน: กลุ่มบริษัทให้คำมั่นในการเพิ่มที่ดินที่ได้รับการฟื้นฟูซึ่งดำเนินการอยู่เป็นเท่าตัวทุกปีไปจนถึงปี 2570
การใช้ทรัพยากรและการแสวงหาประโยชน์เกินควร: ระหว่างวันนี้ไปจนถึงปี 2570 ในสัญญาจัดหาน้ำดื่มฉบับใหม่ทั้งหมด ทางกลุ่มบริษัทจะเสนอโครงการประหยัดน้ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อประหยัดน้ำให้ได้มากถึง 10% ของน้ำที่จัดหา นอกจากนี้ ทางกลุ่มบริษัทยังมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่า กิจกรรมน้ำดื่มทั้ง 100% ในพื้นที่น้ำตึงเครียดจะมีแผนประหยัดน้ำรองรับ ส่วนในด้านการจัดการขยะนั้น กลุ่มบริษัทตั้งใจที่จะปรับปรุงการคัดแยกขยะในโรงงานของบริษัท
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: อ่านพันธสัญญาของกลุ่มบริษัทเกี่ยวกับสภาพอากาศ
มลพิษ: ระหว่างนี้ถึงปี 2570 กลุ่มบริษัทจะหยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยพืชในทุกไซต์งานที่บริษัทเป็นเจ้าของหรือดำเนินการ และจะเสนอวิธีแก้ปัญหาเพื่อกำจัดไมโครพลาสติกและสารปนเปื้อนที่มีปริมาณน้อยในสัญญาบำบัดน้ำเสียฉบับใหม่ทั้งหมด
สายพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน: ระหว่างนี้จนถึงปี 2570 กลุ่มบริษัทจะใช้สายพันธุ์ท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ในการฟื้นฟูและจัดภูมิทัศน์ทั้งหมด
ค) ความรับผิดชอบต่อสังคม

กลุ่มบริษัทร่วมกับพันธมิตรและลูกค้า มุ่งมั่นที่จะแสวงหาความสมดุลระหว่างการพัฒนามนุษย์และเศรษฐกิจ พร้อมเพิ่มผลกระทบในเชิงบวกของกิจกรรมที่ดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต่อไปนี้

บรรลุเป้าหมายอุบัติเหตุรุนแรงเป็นศูนย์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ส่งเสริมเศรษฐกิจที่มีความรับผิดชอบผ่านการจ้างงานและการพัฒนาท้องถิ่นภายในชุมชนต่าง ๆ โดย
เพิ่มสัดส่วนบริษัทท้องถิ่นในกลุ่มซัพพลายเออร์ของบริษัท
เปิดโอกาสให้ผู้คน 5,000 คนต่อปีภายในปี 2570 ได้รับประโยชน์จากโครงการบูรณาการทางสังคมของเรา
เพิ่มสัดส่วนงบประมาณที่จัดสรรให้กับองค์กรที่ส่งเสริมความเสมอภาค เช่น องค์กรที่จ้างงานผู้ด้อยโอกาส
ส่งเสริมการพัฒนาและการมีส่วนร่วมของพนักงาน: เมื่อปี 2565 บริษัทได้ประเดิมให้พนักงานถือหุ้นในสัดส่วนรวม 3% ของทุนของบริษัท[1] โดยจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของพนักงานเป็น 10% ภายในปี 2572 นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทได้ตั้งเป้าหมายในปี 2566 ที่จะเปิดโอกาสให้พนักงาน 80% ได้ฝึกอบรมประจำปี
พันธสัญญาเหล่านี้จะนำไปดำเนินการจริงในทุกกิจกรรมของกลุ่มและในทุกภูมิภาคที่ดำเนินการ โดยมีกรอบการกำกับดูแลที่มั่นคงในระดับเครือบริษัทรองรับเบื้องหลัง คณะกรรมการบริหารจะเข้ามาดูแลการดำเนินการตามแผนแม่บท และผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัทจะติดตามผลลัพธ์ได้ผ่านคณะกรรมการ CSR ประจำไตรมาสซึ่งประกอบด้วยตัวแทน และจะมีการจัดทำรายงานทบทวนแผนงานประจำปี รวมถึงการตรวจสอบข้อผูกพันหลักโดยหน่วยงานภายนอก ภายในกรอบการแสดงผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ทางการเงินประจำปีของกลุ่มบริษัท

[1] ณ ช่วงเวลาที่ดำเนินการ

เกี่ยวกับสุเอซ

สุเอซ (SUEZ) ให้บริการที่จำเป็นเพื่อปกป้องและปรับปรุงคุณภาพชีวิตมาเป็นเวลากว่า 160 ปีแล้ว เมื่อสิ่งแวดล้อมมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ สุเอซช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการน้ำและการจัดการของเสียด้วยโซลูชันที่ยืดหยุ่นและล้ำหน้า สุเอซมีพนักงาน 44,000 คนใน 40 ประเทศ โดยช่วยให้ลูกค้าสร้างมูลค่าตลอดวงจรชีวิตของสินทรัพย์และบริการของตน และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางระบบนิเวศร่วมกับผู้ใช้ปลายทาง ในปี 2564 สุเอซผลิตน้ำดื่มสำหรับ 66 ล้านคนทั่วโลกและบริการด้านสุขอนามัยสำหรับผู้คนมากกว่า 33 ล้านคน กลุ่มบริษัทผลิตพลังงานจากของเสียและน้ำเสียได้รวมกัน 3.6 TWh ต่อปี เลี่ยงการปล่อย CO2 ได้ 3.8 ล้านตัน ในปี 2564 สุเอซมีรายได้ 7.5 พันล้านยูโร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.suez.com/ และทวิตเตอร์ @suez