9krapalm.com

นับถอยหลังสู่ COP29: เร่งส่งเสริมการลงมือร่วมกัน เพื่อบรรลุสัญญาตามฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 15 ตุลาคม 2567 /PRNewswire/ ในอีกไม่ถึง 50 วัน ผู้นำระดับโลกจะร่วมชุมนุมกันในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 หรือ COP29 เพื่อมอบวิสัยทัศน์อันแข็งขันในการเร่งส่งเสริมการลงมือดำเนินการด้านภูมิอากาศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ไปเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อการหารือระดับสูง ตั้งแต่ ณ ทำเนียบขาวในวอชิงตันไปจนถึงสหประชาชาติในนิวยอร์ก ในการอภิปรายเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านการเงินเพื่อภูมิอากาศ ฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE Consensus) และพันธกิจระดับโลกในการทำให้เป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียสเป็นไปได้ ตลอดจนพลังงานสะอาด เทคโนโลยีสีเขียว ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ การเปลี่ยนแปลงระบบอาหาร และการตั้งรับปรับตัวด้านน้ำ เป็นการปูรากฐานสำหรับการประชุม COP29 ณ บากู ซึ่งจะนำเสนอโอกาสอันสำคัญยิ่งในการเสริมสร้างความมุ่งหมายร่วมกัน ยกระดับการแสดงความคิดเห็นเพิ่มขึ้น และเอื้อให้เกิดยุคใหม่แห่งการลงมือดำเนินการด้านภูมิอากาศ เพื่อสร้างความสามารถในการตั้งรับปรับตัวระดับโลกสำหรับคนทั้งมวล

ในการประชุม COP28 ณ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ปลุกระดมให้สมาชิกรัฐภาคี 198 รายดำเนินการตามฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งสำคัญยิ่ง อีกทั้งยังได้ปฏิญาณที่จะทำให้เป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียสเป็นไปได้ โดยเร่งส่งเสริมยุคใหม่ของการลงมือดำเนินการด้านภูมิอากาศที่ทะเยอทะยาน ในการแสดงความสำเร็จของระบบพหุภาคีและการให้ความสำคัญที่ครอบคลุม ฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พาให้โลกอยู่บนเส้นทางที่ชัดเจน โดยตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการเอื้อให้โลกสามารถบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2093 ตลอดจนเพิ่มพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานเป็นสองเท่าภายในปี 2573 นอกจากนี้ยังรวมถึงความมุ่งมั่นที่จะยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในสิ้นสุดทศวรรษนี้ และการจัดการสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับการเงินเพื่อภูมิอากาศ โดยมีกองทุนชดเชยความสูญเสียและความเสียหายที่ประกาศในวันแรกของการประชุม COP28 กองทุนดังกล่าวนี้จะช่วยให้ประเทศที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในด้านภูมิอากาศตอบสนองต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรก ประกอบกับการยกระดับขยายการเงินสำหรับการปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของชุมชนที่มีความเปราะบางด้านภูมิอากาศ

การประชุม COP28 วางรากฐานการก้าวสู่ยุคใหม่ของการลงมือดำเนินการด้านภูมิอากาศ โดยสนับสนุนการแสดงความเห็นจากบรรดาอุตสาหกรรม ภาคส่วนต่าง ๆ คนรุ่นใหม่ และชุมชน ให้มีส่วนร่วมในการสนทนาที่เปิดกว้าง เพื่อแสวงหาหนทางใหม่ ๆ ในการร่วมกันสร้างความสามารถการตั้งรับปรับตัวด้านภูมิอากาศ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง การลงมือดำเนินการ และความร่วมมือพหุภาคีที่มั่นคง ยังมีการก่อตั้งฝ่ายประธานทั้งสามของ COP (COP Presidencies Troika) จากการประชุม COP28 ซึ่งมอบหมายให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกับอาเซอร์ไบจานและบราซิล ในฐานะประธานการประชุม COP29 และ COP30 ทำหน้าที่เสริมสร้างความต่อเนื่องและขับเคลื่อนการดำเนินการด้านภูมิอากาศ โดย ‘แผนการสู่ภารกิจ 1.5 องศาเซลเซียส’ (Roadmap to Mission 1.5°c) นี้จะเปลี่ยนฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากความตกลงให้กลายเป็นการลงมือทำที่ต่อเนื่องและจับต้องได้ ตลอดจนนำหน้าที่รับผิดชอบไปสู่รอบต่อไปของการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions หรือ NDCs) ซึ่งมีกำหนดคือเดือนกุมภาพันธ์ 2568

His Excellency Abdulla Al Balalaa ผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายพลังงานและกิจการความยั่งยืนของกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า “ความมุ่งหมายของการประชุม COP28 คือเพื่อกระตุ้นแนวทางระดับโลกในการดำเนินการเรื่องสำคัญสูงสุดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่ฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปจนถึงวาระปฏิบัติการ (Action Agenda) เราต้องการนำความเห็นที่หลากหลายทั่วโลกมาสู่ที่ประชุม และนำหน้ากรุยทางโมเดลใหม่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นสำหรับการชุมนุมเกี่ยวกับภูมิอากาศ ด้วยการร่วมมือกัน เช่นนี้กำหนดให้ความท้าทายกลายเป็นโอกาสที่จะจินตนาการใหม่ว่าเราจะสามารถผนึกกำลังกันสร้างความสามารถในการตั้งรับปรับตัวระดับโลก ป้องกันชุมชนของเราสำหรับอนาคต และปกป้องโลกของเราเพื่อชนรุ่นหลังในอนาคตได้อย่างไร การประชุม COP29 เป็นหมุดหมายอันน่าตื่นเต้นในการสานต่อการเร่งส่งเสริมการลงมือด้วยกันและร่วมกันสร้างความสามารถในการตั้งรับปรับตัวด้านภูมิอากาศ เชื่อมต่อสิ่งสำคัญสูงสุดและสมรรถภาพระดับโลก ตลอดจนทำให้มั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรระดับพหุภาคีของเราแปรเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ที่มีผลกระทบและเสมอภาค”

ด้วยวาระปฏิบัติการของฝ่ายประธาน COP28 การดำเนินการด้านภูมิอากาศได้เร่งส่งเสริมทุกเสาหลักสำคัญของเป้าหมายในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเร่งรัดการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานอย่างเป็นธรรมและเป็นระบบระเบียบ การแก้ไขการเงินเพื่อภูมิอากาศเพื่อให้มีพร้อม ราคาไม่แพง และเข้าถึงได้มากขึ้น การให้ความสำคัญกับผู้คน ธรรมชาติ ชีวิต และความเป็นอยู่ และการเสริมสร้างความครอบคลุมทั่วถึงทุกกลุ่มคนในการดำเนินการด้านภูมิอากาศ การประชุม COP28 ยังเกิดการนำกองทุนชดเชยความสูญเสียและความเสียหายมาใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจัดการโดยธนาคารโลก (World Bank) ร่วมกับ 19 ประเทศที่มอบเงินทุนราว 800 ล้านดอลลาร์จนถึงปัจจุบัน รวมถึง 100 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกอบกับการสร้าง ALTÉRRA โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งคือเครื่องมือการลงทุนเอกชนมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเร่งส่งเสริมการเงินเพื่อภูมิอากาศในเศรษฐกิจกำลังพัฒนา ความพยายามเหล่านี้ทั้งหมดนำไปสู่การขับเคลื่อนเงินทุนในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นมูลค่า 8.51 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการดำเนินการด้านภูมิอากาศ อีกทั้งยังมีการออกคำปฏิญาณและแถลงการ 11 รายการ ซึ่งยกระดับพันธกิจพหุภาคีในการบรรเทาและการปรับตัวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในการพบกับประธานาธิบดี เชค มุฮัมมัด บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน (H.H. President Mohamed bin Zayed al Nahyan) แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ณ ทำเนียบขาวในวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไบเดน (Biden) ได้ระบุว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็น ‘ประเทศผู้บุกเบิกที่มุ่งสู่อนาคตอยู่เสมอ’ โดยประธานาธิบดีไบเดนกล่าวถึงความพยายามร่วมกันของประเทศต่าง ๆ ว่าเป็น ‘ความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นในด้าน AI พลังงานสะอาด อวกาศ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อภูมิภาค เคียงบ่าเคียงไหล่กันในที่เดียวกันที่ยากลำบากที่สุด’

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีแผนที่จะลงทุนมากกว่า 1.63 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในด้านพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนในช่วงหลายปีข้างหน้าเพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2593 โดยปฏิญาณว่าจะเพิ่มกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าภายในปี 2573 ในแง่นี้ กลยุทธ์ความมั่นคงทางอาหารแห่งชาติ ปี 2594 (National Food Security Strategy 2051) มุ่งที่จะพัฒนาระบบแห่งชาติที่ครอบคลุมเพื่อเอื้อให้เกิดการผลิตอาหารที่ยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยการร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังได้ดำเนินโครงการริเริ่มระดับโลก ภารกิจนวัตกรรมเกษตรเพื่อภูมิอากาศ (Agriculture Innovation Mission for Climate หรือ AIM for Climate/AIM4C) และตั้งใจที่จะลงทุน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในด้านระบบการเกษตรและอาหารที่อัจฉริยะด้านภูมิอากาศเพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเกษตรและอาหาร โครงการริเริ่มดังกล่าวนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ดำเนินการและพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและที่ไม่ใช่ภาครัฐมากกว่า 600 ราย โดยดึงดูดเงินลงทุนกว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์

His Excellency Abdulla Al Balalaa กล่าวสรุปว่า “ขณะที่ชุมชนนานาชาติเดินหน้าสู่ COP29 การทบทวนความก้าวหน้าที่เราได้บรรลุสำหรับเป้าหมายเหล่านี้ ประกอบกับช่องว่างที่ยังจำเป็นต้องมีการตอบสนอง จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการหารือในปีนี้ ฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะต้องทำหน้าที่เป็นดาวเหนือนำทางของเราต่อไป โดยเป็นกรอบการทำงานที่ครอบคลุมในการบรรลุความมุ่งหมายร่วมกันของเราสำหรับการลงมือด้านภูมิอากาศที่สร้างความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนสร้างอนาคตที่เป็นธรรมและเสมอภาคมากขึ้นสำหรับคนทั้งมวล”

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: media@uaeclimate.com 

เร่งส่งเสริมการลงมือร่วมกัน

โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2519547/National_Media_Office_Logo.jpg?p=medium600

 

View original content to download multimedia: Read More

Exit mobile version