ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 (Mobile World Congress หรือ MWC 2023) หัวเว่ย (Huawei) ได้จัดกิจกรรมไอพี คลับ คาร์นิวัล (IP Club Carnival) ประจำปี ซึ่งรวบรวมนักวิเคราะห์ชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเพื่อสำรวจอนาคตของเครือข่ายไอพี ในกิจกรรมนี้ หัวเว่ยได้เจาะลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดของภูมิทัศน์การให้บริการระดับองค์กร และนำเสนอโซลูชันคลาวด์-เครือข่ายอัจฉริยะ พร้อมศักยภาพที่ได้รับการอัปเกรด 4 ประการ นั่นคือ สถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย สุดยอดประสบการณ์ การดำเนินงานและการบำรุงรักษาที่ง่ายขึ้น และความน่าเชื่อถือระดับสูงสุด ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรต่าง ๆ
คุณสตีเวน จ้าว (Steven Zhao) รองประธานสายผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย ระบุว่า การทำงานแบบไฮบริดได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ และการประชุมผ่านวิดีโอได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับสำนักงานและภาคการผลิต บนโลกอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ การใช้งานวิดีโอครองสัดส่วนกว่า 80% ของการใช้งานทั้งหมด และจากการประมาณการณ์พบว่าภายในปี 2568 องค์กรราว 90% โดยเฉพาะในภาคการผลิตและภาคการค้าปลีก จะนำเสนอบริการของตนผ่านระบบคลาวด์
ด้วยความที่ขนาดและความซับซ้อนของเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว องค์กรราว 80% จึงประสบปัญหากับระบบการดำเนินงานและการบำรุงรักษากว่า 20 ระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายแคมปัส, เครือข่ายบริเวณกว้าง หรือ แวน (WAN) และเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ (DCN) ที่ต้องพึ่งพาการดำเนินงานและการบำรุงรักษาแบบแมนนวลเป็นอย่างมาก เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ หัวเว่ยได้อัปเกรดโซลูชันคลาวด์-เครือข่ายอัจฉริยะอย่างเต็มที่ด้วยศักยภาพหลัก 4 ประการ ได้แก่ สถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย สุดยอดประสบการณ์ การดำเนินงานและการบำรุงรักษาที่ง่ายขึ้น และความน่าเชื่อถือระดับสูงสุด
สำหรับเครือข่ายแคมปัส หัวเว่ยได้อัปเกรดโซลูชัน คลาวด์แคมปัส 3.0 (CloudCampus 3.0) อย่างเต็มรูปแบบ และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงหลายรายการ เช่น CloudEngine S16700 ซึ่งเป็นอุปกรณ์คอร์สวิตช์ (core switch) ระดับองค์กรรุ่นใหม่ รวมถึง AirEngine 8771-X1T ซึ่งเป็นตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi 7 ระดับองค์กรรุ่นแรกของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชันการรับประกันการประชุมผ่านวิดีโออัจฉริยะและโซลูชัน อีซี่บรานช์ (EasyBranch)
สำหรับเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน อีซี่ คลาวด์แฟบริก (Easy CloudFabric) ที่อัปเกรดแล้ว พร้อมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สุดล้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวเว่ยได้เปิดตัว CloudEngine 16800-X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดาต้าเซ็นเตอร์สวิตช์ (DC switch) ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อพลังการประมวลผลที่หลากหลาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการประมวลผลที่หลากหลาย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัวโซลูชันเครือข่ายอัตโนมัติสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ L3.5+ ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมร่วมกับลูกค้ารุ่นบุกเบิก ด้วยการปรับปรุงใหม่หลายรายการเพื่อรองรับการพัฒนา การติดตั้ง รวมถึงการดำเนินงานและการบำรุงรักษาที่ง่ายดาย โซลูชันเพื่ออนาคตตัวนี้จึงหลอมรวมเข้ากับแอปพลิเคชันและเครือข่ายต่าง ๆ ได้ในระดับสูง ขณะเดียวกันก็สร้างสุดยอดประสบการณ์สำหรับเครือข่ายมัลติคลาวด์ที่แตกต่างกัน
สำหรับเครือข่ายแวน หัวเว่ยได้กำหนดนิยามใหม่ของคลาวด์แวนด้วยโซลูชัน คลาวด์แวน 3.0 (CloudWAN 3.0) ที่ได้รับการอัปเกรดอย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของเครือข่าย สถาปัตยกรรม และอุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัว NetEngine 8000 F8 ซึ่งเป็นเราเตอร์แบบมัลติเซอร์วิส ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น เครือข่ายเดียวสำหรับทุกคนและการควบคุมจำนวนผู้ใช้งานแบบอัจฉริยะ ผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ตัวนี้จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกค้า เพื่อลดต้นทุนการสร้างเครือข่ายพร้อมกับปรับปรุงสำนักงานและประสิทธิภาพการดำเนินงาน
บริการเครือข่ายสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ยรองรับลูกค้าและพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมในกว่า 170 ประเทศและดินแดน รวมถึงบริษัทที่ติดอันดับฟอร์จูน โกลบอล 500 (Fortune Global 500) ในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมความร่วมมือแบบเปิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเจาะลึกอุตสาหกรรมต่าง ๆ และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของคลาวด์-เครือข่ายอัจฉริยะ ท้ายที่สุดคือสร้างมูลค่าที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าและอุตสาหกรรมในวงกว้าง
ติดต่อ:
hwebgcomms@huawei.com
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2013165/image_986294_40312744.jpg
คำบรรยายภาพ – คุณสตีเวน จ้าว รองประธานสายผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์