9krapalm.com

บริษัทในเครือซันโทรี่ ผนึกกำลัง “One Suntory Save the Sea” ร่วมเก็บขยะฟื้นฟูชายหาดระยอง คืนความสดใส สู่ท้องทะเลไทย

บริษัทในเครือซันโทรี่ ในประเทศไทย นำโดย บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย และ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ซุปไก่สกัด แบรนด์รังนกแท้ และแบรนด์ แพลนท์เบสสกัด ผนึกพลัง “ซันโทรี่” ร่วมกันจัดงาน “One Suntory Save the Sea” เพื่อนำพันธสัญญาของซันโทรี่ “มิซุ โตะ อิคิรุ” (Mizu To Ikiru) หรือ “การอยู่ร่วมกับน้ำ” มาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยนำพนักงานจิตอาสาของทั้งสองบริษัทมาเก็บขยะบนชายหาดแม่รำพึง (ก้นอ่าว) จังหวัดระยอง พร้อมพันธมิตรในพื้นที่จากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง อำเภอเมืองจังหวัดระยอง เทศบาลตำบลบ้านเพ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด รวมถึงอาสาสมัครท้องถิ่นและประชาชนจิตอาสา จำนวนทั้งสิ้นกว่า 200 คน พร้อมทั้งมอบตาข่ายดักขยะก่อนลงสู่ทะเลและชุดถังขยะแยกประเภทเพื่อร่วมสร้างจิตสำนึกในการการคัดแยกขยะและทิ้งให้ถูกที่ เพื่อคืนความสวยงามให้กับหาดแม่รำพึงต่อไป

นายอชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การจัดงาน ‘One Suntory Save the Sea’ เกิดขึ้นด้วยความมุ่งมั่นของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) และ ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) ที่จะดำเนินกิจการควบคู่ไปกับดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามวิสัยทัศน์ของซันโทรี่ กรุ๊ป ที่ว่า ‘การเติบโตอย่างยั่งยืน’ (Growing for Good) จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมเก็บขยะชายหาดร่วมกันเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ เรายังได้มอบตาข่ายดักขยะก่อนลงสู่ทะเล จำนวน 20 ชุด ให้แก่จังหวัดระยอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ พร้อมทั้งสนับสนุนชุดถังขยะแยกประเภทและอุปกรณ์ทำความสะอาดจำนวน 5 ชุด ให้แก่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี และช่วยกันรักษาความสะอาด ถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป”

ด้านนายแมทเทียส วอลิน รองประธานอาวุโสซัพพลายเชนแมเนจเม้นท์ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทยและอินโดไชน่า จำกัด อธิบายเพิ่มเติมว่า “การจัดงาน ‘One Suntory Save the Sea’ ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยคืนความสะอาดให้ชายหาดแล้ว ยังจัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องหลักการ 3Rs (Reduce-Reuse-Recycle) การคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี และการจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วของทั้งสองบริษัทฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขวดแก้ว, ขวด PET ใส ไม่มีสี และกระป๋องอลูมิเนียม บรรจุภัณฑ์เหล่านี้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% หากประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ซึ่งย่อมส่งผลให้มีปริมาณขยะเล็ดลอดสู่สิ่งแวดล้อมน้อยลง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาสาสมัครทุกคนจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับในวันนี้ ไปใช้ในการจัดการขยะที่บ้านของพวกเขา ทุกการ ‘ปรับ’ สามารถสร้างการ ‘เปลี่ยน’ ในเชิงบวกได้ ที่สำคัญ การจัดงานในครั้งนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือเป็น น้ำหนึ่งใจเดียวกันของบริษัทในเครือ ซันโทรี่ ที่ร่วมทำกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคม สะท้อนถึงค่านิยมองค์กร ‘การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม’ (Giving Back to Society) ของซันโทรี่ กรุ๊ป ด้วย”

“ขยะทะเลเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมสำคัญระดับโลก ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศลำดับต้นๆ ที่มีขยะในทะเลจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาจากขยะบนบกที่เล็ดลอดลงสู่ทะเลก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ ทำลายความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสัตว์น้ำและมนุษย์ ผมขอเน้นย้ำว่าการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ผมขอขอบคุณ ทั้งสองบริษัทในเครือซันโทรี่ ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้ร่วมทำกิจกรรมดีๆ เพื่อคืนความสดใสให้กับหาดแม่รำพึง” นายชาณุ เดชธัญญนนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ กล่าวทิ้งท้าย

Exit mobile version