ความสำเร็จท่ามกลางอุปสรรค: กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน เข้าถึงเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตแล้วกว่า 11 ล้านคนทั่วโลก

รายงานฉบับใหม่ของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน (Education Cannot Wait หรือ ECW) ชูผลลัพธ์ด้านการศึกษาที่โดดเด่นในเด็กและวัยรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤต พร้อมเรียกร้องการสนับสนุนจากผู้บริจาคเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นิวยอร์ก, 18 กันยายน 2567 /PRNewswire/ — ชุมชนทั่วโลกมีแนวโน้มไม่สามารถบรรลุคำมั่นในการมอบ “การศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับทุกคน” ให้ทันภายในปี 2573 ได้ อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งทางการทหาร การบังคับอพยพ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสถานการณ์ฉุกเฉินและวิกฤตที่ยืดเยื้ออื่น ๆ ส่งผลให้เด็กมากกว่า 224 ล้านคนต้องการการสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างเร่งด่วน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 75 ล้านคนในปี 2559

Education Cannot Wait (ECW), the global fund for education in emergencies and protracted crises within the United Nations, and its strategic partners continue to defy the odds, delivering life-saving, life-sustaining and multi-year investments in education to the world’s most vulnerable children and adolescents. Since ECW became operational in 2017, its investments have reached 11 million children and adolescents, including 5.6 million girls and boys in 2023 alone.
Education Cannot Wait (ECW), the global fund for education in emergencies and protracted crises within the United Nations, and its strategic partners continue to defy the odds, delivering life-saving, life-sustaining and multi-year investments in education to the world’s most vulnerable children and adolescents. Since ECW became operational in 2017, its investments have reached 11 million children and adolescents, including 5.6 million girls and boys in 2023 alone.

อย่างไรก็ตาม แม้ความต้องการการสนับสนุนจะเพิ่มขึ้น แต่เงินทุนเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินและวิกฤตที่ยืดเยื้อกลับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ตามที่ระบุไว้ในรายงาน “ความสำเร็จท่ามกลางอุปสรรค: รายงานประจำปี 2566” (Results Against All Odds: 2023 Annual Results Report) โดยกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ที่นิวยอร์ก

รายงานระบุว่า เงินทุนด้านมนุษยธรรมโดยรวมสำหรับการศึกษามีจำนวนลดลง 3% ในปีที่แล้ว จากเดิมที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ลงมาอยู่ที่ 1.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566

กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน (Education Cannot Wait หรือ ECW) ซึ่งเป็นกองทุนระดับโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินและวิกฤตการณ์ที่ยืดเยื้อภายใต้การดูแลขององค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ผ่านการลงทุนด้านการศึกษาระยะเวลาหลายปีเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเด็กและวัยรุ่นที่เปราะบางที่สุดในโลก

นับตั้งแต่ที่กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินเริ่มดำเนินการในปี 2560 การลงทุนของกองทุนได้เข้าถึงเด็กและวัยรุ่นกว่า 11 ล้านคน ครอบคลุมเด็กหญิงและชายกว่า 5.6 ล้านคนเฉพาะในปี 2566 เพียงปีเดียว นับเป็นการเข้าถึงผู้คนจำนวนมากสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตาม ความต้องการทรัพยากรยังคงมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้สามารถเข้าถึงเด็ก เยาวชน และครูของพวกเขารวมกว่า 224 ล้านคนที่ต้องการการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน

จนถึงปัจจุบัน กองทุนได้ระดมเงินได้แล้วมากกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากผู้บริจาคภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม กองทุนยังจำเป็นต้องระดมเงินบริจาคอย่างเร่งด่วนอีก 600 ล้านดอลลาร์เพื่อให้เด็กและเยาวชนรวม 20 ล้านคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและครอบคลุมภายในกรอบระยะเวลาแผนเชิงกลยุทธ์ปี 2566-2569

“สำหรับพันธมิตรผู้บริจาคเชิงกลยุทธ์ 25 รายของเรา การลงทุนที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้มอบการศึกษาองค์รวมที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางและมีคุณภาพ และแสดงถึงความมุ่งมั่นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สิทธิมนุษยชน ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงระดับโลก” Rt. Hon. Gordon Brown ทูตพิเศษประจำสหประชาชาติด้านการศึกษาโลก และประธานคณะทำงานระดับสูงของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน กล่าว “การศึกษาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการฟื้นคืนความหวังในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งอันโหดร้าย การละเมิดสิทธิมนุษยชน และความไม่เท่าเทียมกัน การศึกษาคือการลงทุนของเราในการสร้างผู้นำรุ่นใหม่”

ผลกระทบ มิติเชิงลึก และความยั่งยืน
จากอัฟกานิสถาน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เอธิโอเปีย กาซา เวสต์แบงก์ ไปจนถึงเฮติ ซาเฮล ซูดาน ยูเครน รวมถึงสถานที่วิกฤตหลายแห่งทั่วโลก รายงานของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาในโลกที่เต็มไปด้วยวิกฤตการณ์

“เด็กหญิงและชายที่ตกอยู่ในสถานการณ์ขั้นวิกฤตต้องเผชิญกับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากความขัดแย้งที่มนุษย์สร้างขึ้น การบังคับอพยพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติอื่น ๆ รายงานฉบับใหม่ของเราพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ เราจะยังเดินหน้ามอบการปกป้อง ความหวัง และโอกาสในการได้รับการศึกษาแบบองค์รวมที่มีคุณภาพที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาได้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เราจึงขอระดมเงินช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจำนวน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อทำให้แผนยุทธศาสตร์ของเราประสบความสำเร็จ และทำให้แน่ใจว่าเด็กหญิงและชายกว่า 20 ล้านคนจะมีอนาคตที่ดีขึ้นภายในสิ้นปี 2569” Yasmine Sherif ผู้อำนวยการบริหารของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน กล่าว “นี่คือช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจด้านศีลธรรมที่สอดคล้องกับการดำเนินการทางการเมือง”

รายงานฉบับใหม่แสดงให้เห็นว่า กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อเด็กในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดในโลก โดยในจำนวนเด็กที่เข้าถึงในปี 2566 มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเด็กผู้หญิง (51%) ขณะที่อีก 17% เป็นเด็กที่ถูกย้ายถิ่นฐานภายในประเทศ และอีก 22% เป็นผู้ลี้ภัย

คุณภาพและผลของการศึกษาที่กองทุนมอบให้แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดยังมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน โดย 9 ใน 10 ของโครงการรายงานว่ามีจำนวนนักเรียนในโรงเรียนเพิ่มขึ้น และกว่า 72% แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านความเท่าเทียมทางเพศ กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินยังรายงานด้วยว่า ในบรรดาโครงการที่สามารถติดตามผลการเรียนรู้ได้นั้น กว่า 80% ของการลงทุนยังแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางวิชาการ และ 72% แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านการเรียนรู้ทางสังคมและอารมณ์ รวมถึงมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

การลงทุนของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินยังช่วยยกระดับความต่อเนื่องของการเรียนรู้ด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของจำนวนเด็กหญิงและชายที่เข้าถึงได้ผ่านการลงทุนของกองทุนด้านการศึกษาเด็กเล็กและโรงเรียนระดับมัธยม การมีส่วนร่วมของผู้พิการ การปรับกระบวนทัศน์ทางเพศ การสนับสนุนด้านสุขภาพจิต และการแก้ปัญหาแบบองค์รวมที่รวดเร็วและตอบสนองความต้องการทั้งหมดของเด็ก

วิกฤตการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศยังนำไปสู่วิกฤตการณ์ด้านการศึกษาเช่นกัน โดยจำนวนเด็กที่เข้าถึงผ่านการตอบสนองเหตุฉุกเฉินขั้นแรก อันเป็นผลมาจากภัยอันตรายที่เกิดจากสภาพอากาศนั้นเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 14% ในปี 2565 เป็น 27% ในปี 2566

“การศึกษาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องได้รับและเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เพื่อบรรลุเป้าหมายของเรานี้ เหล่าผู้นำระดับโลกต้องปรับแนวนโยบาย เงินทุน และหลักการด้านมนุษยธรรมให้สอดคล้องกัน และเพิ่มเงินทุนช่วยเหลือในระดับพหุภาคีในทันทีเพื่อทำให้สถานการณ์ในปัจจุบันกลับมาดีขึ้น เสริมสร้างความร่วมมือและการทำงานร่วมกันด้านมนุษยธรรม การพัฒนา และสันติภาพ กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินได้แสดงให้เราเห็นว่าสิ่งที่ดูเหมือน ‘เป็นไปไม่ได้’ นั้นเป็นไปได้จริง – ตราบใดที่เราสามารถเข้าถึงเงินทุนได้” Rt. Hon. Gordon Brown กล่าว

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2507775/Education_Cannot_Wait_Report.jpg?p=medium600

 

View original content to download multimedia: Read More